การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นเรื่องที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเรื่องสุขภาพร่างกายด้วย ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้นอนหลับสบาย ไม่เพียงแค่เลือกซื้อที่นอนที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีหมอนที่ต้องใช้หนุนนอนทุกคืน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อการนอนเช่นกัน หมอนที่ดีต้องมีความนุ่มที่พอดี ไม่แข็ง หรือนุ่มจนเกินไป สามารถรองรับสรีระคอกับศีรษะของเราได้ แต่รู้หรือไม่ หมอนที่ใช้นานเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ เนื่องจากเสื่อมสภาพ และเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย วันนี้แอดมินจะมาบอกถึง 5 เหตุผล ที่ควรเปลี่ยนหมอน ให้ทุกคนทราบกัน จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
เสี่ยงต่อการเกิดสิว
หมอนที่ใช้หนุนในทุกคืน ย่อมเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย กับสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เราอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้ เช่น เจลใส่ผม ฝุ่นที่เกาะตามเส้นผม (กรณีที่ไม่สระผมตอนกลางคืน) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นใบหน้าได้ ดังนั้นควรหมั่นซักปลอกหมอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเปลี่ยนปลอกหมอนๆ บ่อย แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าควรเปลี่ยนใหม่ ทั้งหมอน และปลอกหมอนเลยค่ะ
มีอาการหอบหืด หรือภูมิแพ้
หมอนที่มีการสะสมของแบคทีเรียกับสิ่งสกปรกที่ถูกสะสมเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลทำให้เกิดอาการหอบหืด หรือภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวกได้ แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่อยากเปลี่ยนหมอน ก็ให้นำหมอนไปแช่ด้วยน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 60 องศาฯ เป็นเวลา 30 นาที และตากให้แห้ง จากนั้นหุ้มด้วยพลาสติก หรือปลอกหมอนกันไรฝุ่นอีกชั้น เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียได้แล้วค่ะ
มีอาการปวดเมื่อยคอ
หมอนที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ย่อมเสื่อมสภาพตามกาลเวลา มักจะมีลักษณะฟีบแบน ทำให้ไม่สามารถรองรับสรีระคอกับศีรษะได้ดีเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ส่งผลให้มีอาการปวดคอได้ โดยวิธีการสังเกตคือ ให้พับหมอนแล้วลองปล่อยมือ หากหมอนยังพับอยู่ แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหมอนได้แล้วค่ะ
หนุนนอนแล้วไม่สบายตัว
การเลือกหมอนให้เหมาะกับท่านอน เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการนอนหลับเช่นกัน หากใครชอบนอนหงาย ควรเลือกหมอนที่มีความนิ่มกับความสูงปานกลาง เมื่อนอนแล้วศีรษะต้องไม่เงยไปด้านหลัง หรือก้มมาด้านหน้ามากไป และหากใครที่ชอบนอนคว่ำ ให้นำเอาหมอนใบเล็กมารองไว้ที่ท้อง ส่วนด้านหน้าควรหนุนหมอนที่แบน แต่หากใครชอบนอนตะแครง ต้องใช้ความสูงที่เหมาะ เมื่อนอนแล้วศีรษะต้องไม่ต่ำกว่า และสูงเกินคอ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราหลับสบายแล้วค่ะ
มีอายุเกิน 3 ปี
หมอนก็มีวันหมดอายุได้เช่นกัน มีผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่าควรเปลี่ยนหมอน 3 ปี/ครั้ง แต่บางคนก็ว่า 1 ปี/ครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้ ให้ลองสังเกตว่า เมื่อใดที่นอนแล้วรู้สึกไม่สบายตัว หมุนไปหมุนมาไม่เข้าที่สักที แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้วค่ะ ไม่ควรรอจนหมอนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือขึ้นราแล้วค่อยเปลี่ยน เพราะอาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพได้ค่ะ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเราทุกคนก็สามารถทำได้ เพียงแค่เราใส่ใจกับเรื่องของการนอนให้มากขึ้น หมั่นเช็คสภาพอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้นอน และการเปลี่ยนหมอน ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายเราโดยตรง รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมไปเช็คหมอนที่บ้านของทุกคนกันดูนะคะ ว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้วรึยัง
ที่มา: gqthailand