ใครที่กำลังวางแผนรีโนเวทบ้านและคอนโดมิเนียม หรือกำลังซื้อของใช้ของแต่งบ้าน ‘ชอปดีมีคืน’ ที่ทุกคนคุ้นชินกันในปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนไปเป็นชื่อใหม่ EASY e-Receipt แล้ว EASY e-Receipt เหมาะกับใครบ้าง และใช้งานกันอย่างไร ไปดูรายละเอียดกัน
Easy e-Receipt เป็นโครงการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 ที่กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้มีเงินบุคคลธรรมดาที่ซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อชำระสินค้าแล้วให้นำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า e-Tax Invoice และ e-Receipt เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2567 เป็นวงเงินเงินสูงสุดที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามจำนวนที่ซื้อจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
ช่วงเวลาของการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้เงื่อนไขของโครงการนี้จะต้องอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 ดังนั้นก่อนซื้อควรดูรายละเอียดร้านค้าเข้าร่วมโครงการ ไปจนถึงความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายกับการลดหย่อนที่เกิดขึ้นด้วยว่า “คุ้มค่า” แค่ไหน
จากข้อมูลที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทำเอาไว้ทำให้เห็นว่า ไม่ใช่ซื้อสินค้าครบ 50,000 บาทจะได้รับการลดหย่อนแบบจัดเต็ม เพราะยังมีฐานเงินได้ของแต่ละคนเข้ามาพิจารณาด้วย เช่น เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาทต่อปี เมื่อใช้ Easy e-Receipt เต็ม 50,000 บาทจะได้ลดหย่อน 2,500 บาท แต่ถ้ารายได้น้อยกว่า 150,000 บาทต่อปีจะได้รับการยกเว้น เป็นต้น
แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการในสายไลฟ์สไตล์
แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะมีความหลากหลาย ตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้า ที่พร้อมใจกันออกใบกำกับภาษี E-Tax Invoice ได้แก่ เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์, Emporium, สยามพารากอน, ICONSIAM, โลตัส, บิ๊กซี, แมคโคร และ 7-eleven เป็นต้น กลุ่มร้านอาหาร ได้แก่ Sizzler, Shabushi, บาร์บีคิว พลาซ่า และ Starbucks เป็นต้น
แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการในสายไฮเทค
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์-โทรศัพท์มือถือก็เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย ได้แก่ Banana, IT City, Advice, AIS Shop, Dtac Shop และ True Shop เป็นต้น
แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการในสายรีโนเวท-แต่งบ้าน
ช่วงเวลาเริ่มปีใหม่เป็นจังหวะที่เหมาะอย่างมากสำหรับการลุกขึ้นมารีโนเวท หรือ ตกแต่งบ้านและคอนโดมิเนียมใหม่กันอีกครั้งในรอบหลายปี ซึ่งการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการ EASY E-Receipt ทำให้สินค้าในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์, ที่นอน, ของใช้ และของตกแต่งกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เพราะจะได้แต่งบ้านใหม่และวางแผนลดหย่อนภาษีไปพร้อมกัน สินค้าในกลุ่มของตกแต่งบ้านก็พร้อมใจกันออกใบกำกับภาษี E-Tax Invoice ในช่วงการวางแผนลดหย่อนภาษีนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Homepro, Ikea (เฉพาะการสั่งซื้อออนไลน์), บุญถาวร, Global House และ Index Living Mall เป็นต้น
ก่อนซื้อสามารถเข้าตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่ร่วมโครงการ ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร efiling.rd.go.th หรือเว็บไซต์ etax.rd.go.th
