รีไฟแนนซ์บ้าน 2566 เลือกธนาคารไหน คุ้มค่า เสียดอกเบี้ยต่ำที่สุด

          การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนมีบ้านบางท่านไม่ทราบครับ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินคำคำนี้กันมาบ้าง นี่เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คนผ่อนบ้านต้องรู้เลยล่ะครับ เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเราลงได้ แถมยังช่วยให้เราผ่อนบ้านหมดได้ไวขึ้นอีกด้วย ใครที่เพิ่งเริ่มผ่อนบ้าน กำลังเตรียมตัวจะขอยื่นกู้เพื่อซื้อบ้าน หรือคนที่รู้จักการรีไฟแนนซ์อยู่แล้ว มาศึกษาข้อมูลกันเอาไว้เพิ่มเติมได้ครับ บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน รวมไปถึงอัปเดตอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ของแต่ละธนาคารเอาไว้ให้ด้วย ติดตามอ่านต่อกันได้เลยครับ

รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) คืออะไร?

        รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) คือ การเปลี่ยนมาทำสัญญาสินเชื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัยกับธนาคารแห่งใหม่ ที่มีเงื่อนไขที่ดีกว่าธนาคารเก่า โดยส่วนมากจะเป็นการเปลี่ยนมาขอเงินกู้จากธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าที่เก่า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าให้จ่ายต่อเดือนให้ลดน้อยลง และช่วยให้สามารถผ่อนบ้านหมดได้เร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งผู้ที่กู้ซื้อบ้าน ส่วนใหญ่จะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ เมื่อผ่อนต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 3 ปี (มากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้บ้าน)

รีเทนชันบ้าน (Retention) คืออะไร?

           รีเทนชัน (Retention) คือ การต่อรองเพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารที่เราขอสินเชื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเอาไว้  ส่วนใหญ่จะสามารถรีเทนชันบ้านได้ เมื่อผ่อนต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 3 ปี (มากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้บ้าน) โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะสามารถเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับทางธนาคารได้นั้น จะต้องมีเครดิตที่น่าเชื่อถือ โดยวิธีนี้จะสามารถลดดอกเบี้ยลงได้เล็กน้อย ประมาณ 0.25-0.50% แต่สะดวกสบาย อนุมัติไว เสียค่าธรรมเนียม 1-2% ของยอดวงเงินกู้ ไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะ

เปรียบเทียบระหว่าง รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) และ รีเทนชันบ้าน (Retention)

         แม้ว่ารีไฟแนนซ์บ้านและรีเทนชันบ้าน จะเป็นการทำไปเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย และจะทำได้ก็ต่อเหมือนผ่อนบ้านไปแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปีเหมือนกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้ มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เหมาะกับปัจจัยที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อดี-ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance)

  • ข้อดี สามารถเปรียบเทียบทุกธนาคารเพื่อหาอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดได้
  • ข้อเสีย เตรียมเอกสารเยอะ ธนาคารอาจอนุมัติช้าเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป เสียค่าธรรมเนียมหลายรายการ

ข้อดี-ข้อเสียของการรีเทนชันบ้าน (Retention)

  • ข้อดี สะดวก เตรียมเอกสารน้อย ธนาคารอาจอนุมัติให้ภายใน 7 วันทำการ เสียค่าธรรมเนียมประมาณ 1-2% ของยอดวงเงินกู้
  • ข้อเสีย ขอลดอัตราดอกเบี้ยได้น้อย ประมาณ 0.25-0.50% เท่านั้น

สรุปการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) และการรีเทนชันบ้าน (Retention)

            ทั้งการรีไฟแนนซ์บ้านและการรีเทนชันบ้านไม่ได้มีแบบใดที่ดีหรือด้อยไปกว่ากันครับ การเลือกขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เช่น หากเรายังเหลือจำนวนเงินที่ต้องผ่อนอีกมาก การรีไฟแนนซ์ก็จะคุ้มค่ากว่าครับ แต่สำหรับคนที่ผ่อนใกล้หมดแล้ว ไม่ต้องการให้ยุ่งยากและไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมมากมายการรีเทนชันบ้านก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่านั่นเองครับ

12 ธนาคาร กับอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน-คอนโด

1. ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

          รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.89% วงเงินกู้อนุมัติวงเงินสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 3 ล้าน สัดส่วนวงเงินต่อมูลค่าหลักประกันไม่เกิน 70% ของราคาประเมิน โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี มาพร้อมโปรโมชันยกเว้นค่าดำเนินการสินเชื่อ, ยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ยกเว้นค่าอากรแสตมป์ และยกเว้นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปี

2. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

           รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.15% สำหรับผู้กู้รายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ให้วงเงินสูงสุด 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกัน วงเงินกู้เริ่มต้น 1.0 ล้านบาท และราคาประเมินหลักประกัน (แนวราบ) ไม่น้อยกว่า 2.0 ล้านบาท หรือ (แนวสูง) ไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านบาท (โครงการจัดสรรทุกโครงการ)

3. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารเกียรตินาคินภัทร ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.20% วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท รับวงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะต่ำกว่า ผ่อนสบาย นานสูงสุดถึง 30 ปี มาพร้อมโปรโมชันฟรีค่าประเมินหลักประกัน, ฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย, ฟรีค่าอากรแสตมป์ และฟรีค่าจดจำนอง กู้ร่วมได้สูงสุด 4 คน โดยเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน เอกสารครบ รู้ผลอนุมัติทันที ภายใน 3 วัน

4. ธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนเมษายน 2566)

          รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.29% เป็นวงเงินสินเชื่อกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย อนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 65 ปี มาพร้อมโปรโมชันฟรีค่าประเมิน

5. ธนาคารออมสิน (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

           รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารออมสิน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.34% วงเงินให้กู้สูงสุด (LTV) ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน โดยยอดหนี้ของสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น ที่นำมารวมหนี้ เมื่อรวมกับยอดหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะต้องไม่เกินกว่ามูลค่าของราคาหลักประกัน ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี มาพร้อมโครงการรวมหนี้ตามมาตรการ “บ้านดี หนี้เบา”

6. ธนาคารทหารไทยธนชาต (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

           รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารทหารไทยธนชาต ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.45% วงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท หรือ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมินธนาคาร ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี มาพร้อมโปรโมชันฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย, ฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง อนุมัติง่ายและรวดเร็วธนาคารจะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลภายใน 5-7 วันทำการ หลังจากได้รับเอกสารประกอบการกู้ครบถ้วน

7. ธนาคารกรุงไทย (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนมีนาคม 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารกรุงไทย ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.6% กรณีรีไฟแนนซ์บ้านวงเงินกู้ไม่เกินยอดหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม ทั้งนี้ วงเงินกู้รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้ยืม สูงสุดไม่เกิน 40 ปี โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี มาพร้อมโปรโมชันรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยคงที่ 0.57% ต่อปี นาน 3 เดือน

8. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนพฤษภาคม 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.63% วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 65 ปี มาพร้อมโปรโมชันฟรีค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท และฟรีค่าจดจำนอง (ในกรณีเลือกรับอัตราดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนอง และซื้อประกันชีวิตตามเงื่อนไขของธนาคาร)

9. ธนาคารกรุงเทพ (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนกุมภาพันธ์ 2566)

           รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารกรุงเทพ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.68% วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ พร้อมรับวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ทั้งในรูปแบบเงินกู้หรือแบบโอดี โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 65 ปี มาพร้อมโปรโมชันยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ

10. ธนาคารยูโอบี (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนเมษายน 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารยูโอบี เมื่อทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.89% อนุมัติวงเงินไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 85-90% สำหรับต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียม วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน และ 80-90% สำหรับต่างจังหวัด) วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท (15-30 ล้านบาท สำหรับต่างจังหวัด) เลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้นานสูงสุด 30 ปี โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำทั่วไปและหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนเมษายน 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารไทยพาณิชย์ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 5.525% วงเงินกู้ยืมและอัตราส่วนวงเงินกู้ยืมสูงสุด* ต่อหลักประกัน ร้อยละ 95 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขธนาคาร ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุด 30 ปี อายุลูกค้ารวมระยะเวลากู้ไม่เกิน 65 ปี) มาพร้อมโปรโมชันยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ มีโครงการรวบหนี้บ้าน รถ บัตร

12. ธนาคารกสิกรไทย (ข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตเดือนมีนาคม 2566)

            รีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารกสิกรไทย อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ตลอดอายุสัญญา (EIR) 20 ปีอยู่ที่ 6.6% ให้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ระยะเวลาให้กู้ สูงสุดไม่เกิน 30 ปี โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระรวมกับอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 70 ปี มีผู้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน และต้องเป็นเครือญาติตามกฎหมาย (ยกเว้นคู่สมรสไม่จดทะเบียน) รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 3 วันทำการ

ควรเลือก “ดอกเบี้ยบ้านคงที่” หรือ “ดอกเบี้ยบ้านลอยตัว” ดีกว่ากัน?

          สำหรับอัตราดอกเบี้ย แต่ละธนาคารจะให้เราเลือกระหว่างดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป เลยทำให้หลายคนไม่รู้จะตัดสินใจเลือกรูปแบบไหนดี โดยความหมายและข้อดีของทั้งสองรูปแบบมีดังนี้

  • ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะ ไม่ขึ้นหรือลงตามต้นทุนของสถาบันการเงิน คงที่ตลอดอายุสัญญาเงินกู้หรือในช่วงเวลาที่กำหนด ข้อดีคือในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตดี มีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยบ้านจะปรับตัวสูงขึ้น การเลือกดอกเบี้ยคงที่ ก็จะช่วยให้เรายังคงดอกเบี้ยเดิมเอาไว้ได้
  • ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามต้นทุนของสถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินจะประกาศออกมาเป็นคราว ๆ ไป เช่น อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ อย่าง MLR MOR MRR ข้อดีคือในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี มีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยบ้านจะลดต่ำลง การเลือกดอกเบี้ยลอยตัว ก็จะช่วยให้เราสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยลงได้

การรีไฟแนนซ์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

  1. ค่าประเมินราคา ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ประมาณหลักพันขึ้นไป ขึ้นอยู่กับวงเงินขอกู้ บางธนาคารมีโปรโมชันฟรีค่าประเมิน ก็อาจไม่จำเป็นต้องเสียในส่วนนี้ 
  2. ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินขอกู้ บางธนาคารมีโปรโมชันฟรีค่าจดจำนอง ให้เราจ่ายไปก่อน แล้วทางธนาคารจะจ่ายคืนให้เราทีหลัง
  3. ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน (ไม่เกิน 10,000 บาท) ส่วนมากผู้ยื่นกู้ต้องเป็นผู้จ่ายเอง
  4. ประกันอัคคีภัย โดยปกติต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมาย แต่ธนาคารส่วนมากจะให้ใช้ประกันฉบับเดิมจากสถาบันการเงินเก่า แต่เปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์เป็นธนาคารใหม่ที่เราไปยื่นรีไฟแนนซ์แทน
  5. ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของธนาคาร ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร

“จ่ายค่าจดจำนองเอง” กับ “ธนาคารจ่ายค่าจดจำนองเองให้” แบบไหนดีกว่า?

           จ่ายค่าจดจำนองเอง กรณีนี้ส่วนใหญ่จะให้ไถ่ถอนสัญญาได้หลังผ่อนกับทางธนาคารไปแล้ว 3 ปีตามปกติเลยครับ แถมยังได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าในกรณีที่เราให้ธนาคารจ่ายค่าจดจำนองให้อีกด้วย หากมีเงินก้อน สามารถจ่ายเองได้ เลือกวิธีนี้ก็น่าจะดีที่สุดครับ

         ธนาคารจ่ายค่าจดจำนองให้ กรณีนี้ ขึ้นอยู่กับการจัดโปรโมชันของแต่ละธนาคาร บางโครงการก็มี บางโครงการก็อาจไม่มีครับ หากธนาคารที่เราต้องการยื่นรีไฟแนนซ์ มีโปรโมชันดังกล่าว ร่วมกับการให้เลือกระหว่างการทำประกัน MRTA หรือไม่ทำประกัน MRTA ต้องศึกษาดูอัตราดอกเบี้ยหลังพ้น 3 ปีไปแล้วให้ดีครับ ว่าสูงขึ้นเยอะมากเลยหรือเปล่า และส่วนใหญ่มักจะบังคับห้ามไถ่ถอนสัญญาก่อน 5 ปี มิเช่นนั้นอาจโดนปรับได้ เราต้องมาคำนวณกันให้ดีเลยล่ะครับ ว่าแบบไหนจะคุ้มค่ามากที่สุด

ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บ้าน

ข้อดี

  • สามารถเปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร เพื่อหาเงินกู้ใหม่ที่ถูกกว่า ช่วยลดดอกเบี้ยให้ถูกลงกว่าธนาคารเก่า 
  • ในบางกรณี ผู้กู้อาจได้รับวงเงินขอกู้มากขึ้นกว่ายอดคงค้างเดิม
  • ลดภาระหนี้ในแต่ละเดือน เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนลดลง สามารถนำเงินที่เหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้
  • ได้รับเงินส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้

ข้อเสีย

  • ทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น 
  • ต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการดำเนินการหลายรายการ แม้ว่าจะมีสถาบันการเงินบางแห่งที่ฟรีค่าธรรมเนียมบางรายการก็ตาม นอกจากนี้ยังเสียทั้งเวลา และหากมีการไถ่ถอนสัญญากับทางธนาคารเก่าก่อนกำหนด ก็มีสิทธิ์ต้องเสียค่าปรับได้
  • ต้องเตรียมเอกสารเยอะมาก มีความยุ่งยากในการรวบรวม ดำเนินการ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีเอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้ หากปัจจุบันผู้กู้ว่างงาน หรือลาออกจากงานประจำมาทำฟรีแลนซ์ ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ไม่สามารถหาเอกสารที่ยืนยันรายได้ของตนเองได้อย่างชัดเจน สถาบันการเงินก็อาจไม่รับรีไฟแนนซ์ให้ เป็นต้น

ประกัน MRTA คืออะไร?

          ประกัน MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) หรือประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงให้กับผู้กู้ในช่วงระยะเวลาที่ต้องผ่อนสินเชื่อ ประกันตัวนี้เหมาะสำหรับทุกคนครับ เพราะเมื่อเราเกิดเสียชีวิตกระทันหัน หรือเกิดเหตุอันทำให้ขาดความสามารถในการใช้ชีวิต เช่น พิการ จนไม่สามารถทำงานหาเงินเพื่อจ่ายหนี้ได้เหมือนเดิม ประกันตัวนี้ก็จะทำให้เราไม่ต้องทิ้งภาระให้กับครอบครัว เพราะตัวประกันจะทำหน้าที่จ่ายชำระหนี้สินให้กับสถาบันการเงินแทนผู้กู้ นอกจากนี้เบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีกด้วย แต่หากเราไม่ได้ทำประกันตัวนี้ไว้ ครอบครัวก็ต้องรับหน้าที่ในการผ่อนหนี้ต่อแทนเรา หากครอบครัวไม่มีกำลังความสามารถมากพอที่จะผ่อน ที่อยู่อาศัยนั้น ๆ ก็จะถูกยึดกลับไปเป็นของธนาคารที่ปล่อยกู้นั่นเองครับ

การรีไฟแนนซ์ จำเป็นต้องทำประกัน MRTA ใหม่หรือไม่?

  1. ไม่ต้องทำใหม่ แค่เปลี่ยนชื่อผู้รับประโยชน์หลัก จากสถาบันการเงินเก่าให้เป็นสถาบันการเงินใหม่ โดยไม่ต้องยกเลิกสัญญา รูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับกรมธรรม์ประกัน MRTA ที่ยังมีจำนวนเงินเอาประกันภัยครอบคลุมจำนวนเงินกู้ทั้งหมดหลังรีไฟแนนซ์
  2. เวนคืนกรมธรรม์เก่า แล้วทำใหม่ โดยผู้กู้ สามารถแจ้งความประสงค์กับประกัน MRTA ที่ยังไม่สิ้นสุดความคุ้มครองได้ โดยสามารถนำเงินค่าเวนคืนมาทำประกัน MRTA โดยระบุผู้รับประโยชน์หลักเป็นสถาบันการเงินใหม่ที่ทำการรีไฟแนนซ์ รูปแบบนี้เหมาะกับกรมธรรม์ประกัน MRTA ที่มีเงินค่าเวนคืนมากพอสำหรับนำไปทำประกัน MRTA ฉบับใหม่

         สำหรับกรณีของการรีไฟแนนซ์บ้านจำเป็นอย่างมากที่เราต้องศึกษา คำนวณดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ดี เพื่อหาความคุ้มค่ากับเราให้ได้มากที่สุด เพราะไม่ใช่สำหรับในทุกกรณีที่จะเหมาะกับการรีไฟแนนซ์ครับ รูปแบบที่ทางแต่ละธนาคารมีให้เลือก ก็มีหลากหลาย ผ่อนที่อยู่อาศัยไปจนใกล้หมดแล้ว กับเพิ่งเริ่มผ่อนไปได้ไม่นาน ก็มีความแตกต่างกัน ส่วนเรื่องของอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน 2566 สำหรับแต่ละธนาคารก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ให้เช็กกับทางธนาคารให้ดีก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ครับ

บทความที่คุณอาจสนใจ

อ่านเพิ่ม
Sidebar
TIK TOK
รีวิวโครงการ
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Sponsor
รีวิว บ้านกรีนเฮ้าส์ รังสิต สเตชั่น-ซ.เวิร์คพอยท์ คอนโดแนวคิดใหม่ สไตล์ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 นอน 2 น้ำ บนทำเลรังสิต-ปทุมฯ ใกล้ทางด่วนฯ, โทลล์เวย์ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต
Sponsor
รีวิว นิรติ ดอนเมือง (NIRATI DONMUEANG) บ้านและทาวน์โฮม NEW SERIES 2.5 ชั้น พร้อมส่วนกลางกว่า 4 ไร่* ที่สุดของทำเลศักยภาพ เพียง 5 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง
Sponsor
Loading..