ในอดีตอาจจะเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง เพราะเป็นห้าแยก ที่มีถนน 2 – 3 เส้นทางมาบรรจบที่นี่ รถโดยสารประจำทางหลายสายจะผ่านบริเวณนี้ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารประจำทางขนาดใหญ่อีกแห่งของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และยูเนี่ยน มอลล์ ซึ่งเข้ามาติมศักยภาพและความน่าสนใจให้กับบริเวณนี้มาตั้งแต่ในอดีตมากกว่า 20 ปีแล้ว พื้นที่โดยรอบเองก็มีการพัฒนามาต่อเนื่องเช่นกัน มีที่อยู่อาศัยหลายรูปแบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับครบทั้งโรงพยาบาล สถาบันการศึกษาหลายระดับ และไม่ไกลจากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง จึงไม่แปลกใจที่บริเวณนี้จะมีการพัฒนาและเปลี่ยนปลงมาต่อเนื่องในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอาจจะเริ่มขึ้นหลังจากที่เส้นทางรถไฟใต้ดินเปิดให้บริการ มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากขึ้นในพื้นที่โดยรอบห้าแยกลาดพร้าวทั้งในพื้นที่ตามแนวถนนลาดพร้าว และพหลโยธิน ก่อนที่จะเริ่มมีมากขึ้นในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เพราะความชัดเจนของการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต – คูคต)
พื้นที่ต่อเนื่องทั้งพื้นที่รอบๆ สี่แยกรัชโยธินก็มีการพัฒนาต่อเนื่อง เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อถนนเส้นทางสำคัญ และเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารประจำทางเช่นกัน อีกทั้งความเป็นชุมชนเก่าที่มีคนอาศัยอยู่จำนนมาก ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ พื้นที่รอบๆ สี่แยกรัชโยธินจึงมีความน่าสนใจ ยิ่งมีคอมมูนิตี้มอลล์เปิดให้บริการ และมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ยิ่งเสริมให้พื้นที่นี้มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมาถึงพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวด้วยเช่นกัน เพราะมีความเชื่อมโยงกันในทุกๆ มิติ ในขณะที่พื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าหมอชิตก็กลายเป็นอีก 1 พื้นที่ที่น่าสนใจ เพราะมีอาคารสำนักงานจำนวนมาก ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าหมอชิตเป็นพื้นที่ที่เอกชนสามารถพัฒนาโครงการได้เต็มที่แตกต่างจากพื้นที่รอบๆ สถานีกลางบางซื่อซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มาต่อเนื่องในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังมีโครงการอาคารสำนักงาน และมิกซ์-ยูสขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง และอาจจะเริ่มการพัฒนาในอนาคตนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามีผลต่อพื้นที่ใกล้เคียงอย่างห้าแยกลาดพร้าวด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันบริเวณห้าแยกลาดพร้าวมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตในหลายๆ ด้าน โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ เรื่องของการเดินทางที่อาจจะเคยเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารประจำทางในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง คือ สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน โดยสถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว แต่การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่นี้เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนหน้านี้ 6 – 7 ปี เพราะมีโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาเปิดขายต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าที่ดินในบริเวณนี้จะหาได้ยากมากก็ตาม ซึ่งด้วยความต้องการที่ดินของผู้ประกอบการ และศักยภาพที่มีอยู่แล้ว ประกอบกับเส้นทางรถไฟฟ้า และการเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง มีผลโดยตรงต่อราคาที่ดินที่สูงขึ้น โดยราคาที่ดินในพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวสูงกว่า 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้ว
คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่รายปี และสะสมในพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าว
ที่มา: พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ
โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ก็มีไม่น้อย และมีบางโครงการที่เปิดขายมาก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า แต่พอการก่อสร้างส่วนต่อขยายของเส้นทางรถไฟฟ้าเริ่มขึ้นจึงเริ่มเห็นโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาเปิดขายใหม่ในพื้นที่ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวขึ้นไปถึงรอบๆ สี่แยกรัชโยธินมากขึ้นอีกครั้ง คอนโดมิเนียมรวมในพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวอยู่ที่ประมาณ 12,000 ยูนิต แต่อัตราการขายก็ค่อนชข้างสูง เพราะมีอัตราการขายเฉลี่ยที่เกือบๆ 90% ไปแล้ว เพราะศักยภาพของพื้นที่ในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่หลังจากนี้อีกไม่กี่ปีที่สามารถมองเห็นได้ในตอนนี้
การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวน่าจะเริ่มชัดเจนในปีพ.ศ.2565 เพราะการที่กลุ่มเซ็นทรัลประกาศว่าจะพัฒนาโครงการมิกซ์-ยูสขนาดใหญ่ในพื้นที่เดิมของกลุ่มจีแลนด์ และบีทีเอส ซึ่งหลังจากที่กลุ่มเซ็นทรัลเข้าเทกโอเวอร์กลุ่มจีแลนด์ จากนั้นซื้อหุ้นในบริษัทที่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงใหญ่ประมาณ 46 ไร่มาจากกลุ่มบีทีเอส และได้ที่ดินแปลงนี้มาเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว จึงเริ่มชัดเจนในทิศทางการพัฒนาโครงการนี้ ซึ่งแบ่งการพัฒนาเป็นหลายเฟส โดยเฟสที่ 1 เป็นศูนย์การค้าาขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ จากนั้นเฟสต่อๆ ไปจะเป็นเรื่องของอาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องรออีก 3 – 4 ปีจึงจะเสร็จทุกเฟส แต่เพียงเท่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพสูงเพียงใด ก่อนหน้านี้มีที่ดินอีก 1 แปลงที่เคยเป็นแดนเนรมิตเก่าขนาดประมาณ 33 ไร่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่คงต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะเปลี่ยนการใช้ประโยชน์เป็นตลาดกลางคืน “จ๊อดแฟร์” ไปแล้ว ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ประโยชนที่ดินที่ได้รับความสนใจจากเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่หลายแปลงในกรุงเทพมหานครพูดถึงตลาดกลางคืน ยังมีอีก 1 ตลาดที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้ๆ คือ ตลาดกรีนวินเทจที่สี่แยกรัชโยธิน
จากปัจจัยต่างๆ ที่เห็นได้ชัดเจนในปัจจุบันก็เพียงพอที่จะทำให้บริเวณนี้มีความน่าสนใจ และกลายเป็นอีก 1 ทำเลที่คนจำนวนไม่น้อยต้องการเข้ามาใช้ชีวิตในอนาคต อีกทั้งราคาคอนโดมิเนียมในพื้นที่ยังพอที่จะจับต้องได้ แต่ความน่าสนใจ และศักยภาพของพื้นที่ไม่ได้แตกต่างจากพื้นที่ในเมืองชั้นในที่มีราคาคอนโดมิเนียมสูงกว่านี้ ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ทำไมมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาหาซื้อที่ดิน และพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมต่อเนื่อง เช่นเดียวกับมีผู้ซื้อที่ต้องการคอนโดมิเนียมเข้ามาซื้อในบริเวณนี้จำนวนมากเช่นกัน