–
รู้มั้ยคะ ว่ารูปแบบประตูที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับบ้านและออฟฟิศของเราได้นั้น มีมากกว่าแค่ประตูบานพับและประตูบานเลื่อนนะคะ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งมีนวัตกรรมล้ำ ๆ ใหม่ ๆ มากมาย ที่ทำให้ประตูทั้งภายในและภายนอกของเราสวยสมบูรณ์แบบ ใช้งานง่าย และดูสวยงามเข้ากับสไตล์ของบ้าน ซึ่งวันนี้ทั้ง 9 ประเภทที่เรานำมาฝากกันนั้น ถือเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ละแบบจะเป็นอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสีย เหมาะหรือไม่เหมาะกับวัสดุบานประตูแบบไหน วันนี้ Homeday มีรายละเอียดมาฝากทุกคนกันค่ะ
@homeday.co.th 🚪9 ประเภท ประตูยอดนิยม ใช้ในบ้านและออฟฟิศ มีอะไรบ้าง? #ประตู #ประตูบ้าน #ไม้จริง #ไม้จริงโดนน้ําได้ไม่บวม #แต่งบ้าน #แต่งห้อง #ไอเดียแต่งห้อง #ไอเดียแต่งบ้าน #tiktokแต่งบ้าน #วัสดุก่อสร้าง #วัสดุจากธรรมชาติ100 #วัสดุจากธรรมชาติ #ประตูบานเลื่อน #ประตูบานเฟี้ยม #ประตูบานเลื่อนแขวน #ประตูบานคู่ #ประตูบานพับ #ประตูบานโค้ง ♬ Reflections on 52nd – Psyched on Sound
1. ประตูบานเลื่อน (Sliding door)
ประตูที่ได้รับความนิยมอย่าง ‘ประตูบานเลื่อน’ เป็นหนึ่งในตัวเลือกพื้นฐานที่ใครหลาย ๆ คนนึกถึง สามารถใช้ได้กับวัสดุบานประตูทุกรูปแบบ แถมยังมีรูปแบบการเปิด-ปิดให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบประตูบานเลื่อนสลับ, ประตูบานเลื่อนรางล่าง, ประตูบานเลื่อนรางบน, ประตูบานเลื่อนเปิดคู่กลาง ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ หากเราติดตั้งเพื่อกั้นเป็นฉากระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหาร การเลือกเป็นรางบนก็จะลดอันตรายจากการสะดุดล้มได้มากกว่า ทำความสะอาดพื้นได้ง่าย แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง และมีการแกว่งมากกว่าประตูบานเลื่อนประเภทอื่น ๆ และไม่ค่อยเก็บเสียง เป็นต้น สามารถเลือกขนาดและจำนวนบานประตูได้ตั้งแต่ 2 บานขึ้นไป ดังนั้น การเลือกรูปแบบของประตูบานเลื่อน ก็ให้ดูจากความเหมาะสมของพื้นที่และงบประมาณของเราเป็นหลักค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : elmueble
2. ประตูเลื่อนซ่อนผนัง (Pocket Door)
‘ประตูเลื่อนซ่อนผนัง’ แค่ชื่อก็อาจจะพอรู้แล้วว่าประตูประเภทนี้ มีความซับซ้อนมากกว่าประตูบานเลื่อนทั่ว ๆ ไป ใช่แล้วค่ะ ประตูเลื่อนซ่อนผนังนั้น จะต้องได้รับการวางแผนมาอย่างดีก่อนก่อสร้างบ้าน เพราะไม่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ เหมือนกับประตูประเภทอื่น ๆ เพราะต้องวางแผนเบิ้ลผนัง ให้ได้ทั้งความหนาและความกว้าง ที่พอดีสำหรับการที่บานประตูของเราจะต้องดันซ่อนเข้าไปข้างในนั้นได้อย่างพอดี ข้อดีคือได้ความสวยงาม และสามารถเลือกวัสดุที่ใช้ทำตัวบานได้ทุกรูปแบบ ใครอยากได้บ้านที่ดูคลีน ๆ เนี๊ยบ ๆ ประตูเลื่อนซ่อนผนังตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : homestolove
3. ประตูบานหมุน (Pivot door)
มาดูหนึ่งประเภทประตู ที่ได้รับความนิยมสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นกันบ้าง กับ ‘ประตูบานหมุน’ ประตูประเภทนี้ จะติดตั้งบานพับหมุน ที่ด้านบนและด้านล่าง ไม่ได้ติดตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายหรือขวา เหมือนกับประตูทั่ว ๆ ไป หมดปัญหาเรื่องประตูตกไปได้เลยค่ะ เพราะยึดไว้ทั้งด้านบนและด้านล่างแล้ว จะเลือกขนาดประตูใหญ่ปังอลังการ หรือมีน้ำหนักมากแค่ไหนก็เอาอยู่ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ประตูหมุนสามารถเลือกให้หมุนได้ในทิศทางเดียว หรือจะทั้งสองทิศทางก็ได้ หรือจะให้หมุนไปเลย 360° ก็ทำได้เช่นกัน ประตูแบบนี้เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเพราะให้ความรู้สึกที่เรียบ เท่ ไร้กลอนประตู (จะใส่ที่จับเพิ่มหรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) แถมยังสามารถติดตั้งให้เป็นแบบสวิงได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเภทประตูที่มีความสวยงาม แข็งแรง ใช้งานง่าย ที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : maricamckeel
4. ประตูบานเฟี้ยม (Bi-fold door)
‘ประตูบานเฟี้ยม’ เป็นประตูแบบโบราณ ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตมาจวบจนถึงปัจจุบัน สามารถติดตั้งได้กับวัสดุบานประตูที่หลากหลาย บานประตูแต่ละบานจะเชื่อมกันด้วยบานพับ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์แขวนราง เวลาใช้งานก็ค่อย ๆ ดันพับประตูไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้าน ตัวบานก็จะค่อย ๆ พับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับระเบียงกว้าง, กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหาร หรือใช้สำหรับแบ่งสัดส่วนภายในบ้าน เมื่อเปิดออกจนสุดแล้ว พื้นที่ในบ้านก็จะดูเชื่อมถึงกัน มีความโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ใครอยากเทควิวกว้าง ๆ รับลมธรรมชาติ อากาศถ่ายเทอย่างเต็มที่ ประตูบ้านเฟี้ยมน่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : lionirondoors
5. ประตูบานพับ (Hinged door)
เหตุที่ ‘ประตูบานพับ’ นั้นได้รับความนิยม ก็เป็นเพราะวิธีการติดตั้งที่ง่าย ราคาถูก จะติดเป็นบานเดี่ยวหรือบานคู่ก็ได้ สามารถใช้กับวัสดุบานประตูได้หลากหลาย หลักการทำงานคือการจับหมุนลูกบิดหรือกดที่ที่จับประตูแล้วดึงเข้าหาตัว หรือดันออกจากตัว แล้วแต่ว่าเราติดตั้งไว้แบบไหน สามารถติดตั้งกลอนประตูได้หลากหลายรูปแบบ หากต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษก็สามารถติดตั้งเป็นกลอนประตูแบบดิจิทัลได้ด้วย เมื่อใช้จำนวนบานพับให้เหมาะสมกับน้ำหนักของประตูแล้วนั้น ตัวประตูก็จะมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานกันไปได้ยาว ๆ ไม่มีปัญหาในการใช้งานอย่างแน่นอน
6. ประตูบานสวิง (Swing door)
ส่วน ‘ประตูบานสวิง’ นั้น เหมือนกันกับประตูบานพับในเกือบทุกจุดค่ะ แต่จะเพิ่มความสามารถในการเปิด ที่ทำได้ทั้งการดึงเข้าหาตัวและดันออกจากตัว ในบานเดียวกันได้เลย ส่วนใหญ่มักจะพบในรูปแบบกระจก ตามออฟฟิศ ร้านอาหาร คาเฟ่ ต่าง ๆ ทำให้เราเข้าใจว่า ประตูบานสวิงนั้น จะต้องใช้เฉพาะกับบานกระจกเท่านั้น และไม่เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน แต่จริง ๆ แล้ว ประตูบานสวิงสามารถใช้กับวัสดุบานประตูได้หลากหลาย เหมือนกันกับประตูบานพับเลยค่ะ แตกต่างที่ตัวบานพับของตัวนี้ เป็นแบบสวิงเท่านั้นเอง ข้อเสียของประตูบานสวิงคืออาจจะต้องใช้แรงดึงหรือผลัก มากขึ้นกว่าประตูบานพับเล็กน้อย แต่มีข้อดีตัวบานสามารถปิดเองได้ เมื่อเราเปิดดันตัวเองเข้ามา ก็ไม่จำเป็นต้องหันกลับไปปิดประตูให้เข้าที่นั่นเอง อีกทั้งยังสามารถติดตั้งโช๊คประตู เพื่อการปิดอย่างอัตโนมัติและนุ่มนวลขึ้นได้อีกด้วย
7. ประตูพับ (Accordian door)
‘ประตูพับ’ ชื่อฟังดูใกล้เคียงกับประตูบานพับใช่มั้ยล่ะคะ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ ประตูบานพับ คือการพับบานประตูทั้งบาน เข้าหรือออก ในขณะที่ประตูพับ คือการพับบานประตูไปด้านข้างด้านในด้านหนึ่งเพื่อเปิดออกนั่นเอง ประตูพับส่วนมากจะใช้เป็นวัสดุ PVC ค่ะ มักนิยมใช้เป็นฉากกั้นแอร์ หรือใช้แบ่งสัดส่วนให้กับห้อง ไม่สามารถล็อกได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสีลายไม้ มีให้เลือกตั้งแต่ไม้สีอ่อนไปจนถึงไม้สีโอ๊คเข้ม ๆ และแบบสีขาวเรียบ ๆ ไม่มีลวดลาย ราคาถูก น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับทำเป็นฉากกั้นห้องค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : specialtydoors
8. ประตูลูกกลิ้งสไลด์ข้าง (Barn door)
‘ประตูลูกกลิ้งสไลด์ข้าง’ เป็นประตูที่ได้รูปแบบมาจากสไตล์ของประตูโรงนาแบบฉบับอเมริกัน ติดตั้งได้ทั้งบานเดี่ยวและบานคู่ เลือกรูปแบบของบานประตูที่จะติดตั้งได้ค่อนข้างหลากหลาย แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้กับวัสดุทุกประเภท เพราะตัวรางต้องยึดเข้ากับผนังของบ้าน คล้ายกับรางผ้าม่าน ดังนั้นหากประตูมีน้ำหนักมากไป รางอาจจะหลุดลงมา เป็นอันตรายได้ค่ะ แต่ใครที่ชอบแนวคันทรี่ ๆ ลอฟท์ ๆ หน่อย น่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก : bourntocreate
9. ประตูไร้บาน
‘ประตูไร้บาน’ ชื่อก็ตรงตัวเลยค่ะ ประตู ที่ไม่มีบานประตูนั่นเอง ประตูลักษณะนี้ สามารถติดตั้งม่านเพิ่มเติมเพื่อความน่ารักสไตล์คาเฟ่ หรือจะปล่อยโล่ง ๆ ไปเลยก็ได้ค่ะ ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคอริดอร์กับห้องนั่งเล่น, เป็นทางเชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำภายในห้อง จะมีวงกบหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับดีไซน์ที่เราต้องการเลยค่ะ หากเปลี่ยนใจอยากติดตั้งบานประตูเพิ่ม ก็สามารถทำได้ค่ะ บอกเลยว่าประตูแนวนี้ได้ฟีลค่าเฟ่สุด ๆ เลยล่ะค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก : anthropologie
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับประเภทประตูทั้ง 9 รูปแบบที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่าทั้ง 9 แบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และก็มีหลายแบบที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมในบ้านเราเท่าที่ควร จะเห็นได้เลยว่าแต่ละแบบนั้น มีข้อดีแลข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับความต้องการที่ไม่เหมือนกัน และต่างกันตามความชอบและรสนิยมของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ไม่ว่าแบบไหนจะโดนใจเรา ก็อย่าลืมศึกษาเพิ่มเพิ่ม คำนึงถึงข้อเสียหรือข้อจำกัดของมันอย่างละเอียดถี่ถ้วนกันด้วยนะคะ
บทความที่คุณอาจสนใจ