ภาพจำของใครหลายคนที่เดินทางผ่านถนนพาหุรัดจะคุ้นตากับอาคาร สถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ที่ชื่อ ดิโอลด์สยาม พลาซ่า ในแต่ละวันจะมีผู้คนแวะเวียนเข้าออกเป็นจำนวนมาก มีทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน และพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาเปิดร้านขายของ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเป็นที่ตั้งเก่าของตลาดมิ่งเมือง ตลาดการค้าในยุคสมัยรัชกาลที่ 5
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ได้เข้ามาแทนที่ตลาดมิ่งเมืองพัฒนาเป็นอาคาร 5 ชั้น มีกลิ่นไอของงานออกแบบที่ผสมผสานความเป็นไทย และ ศิลปะตะวันตกได้อย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ บนพื้นที่ 14 ไร่ ใจกลางเกาะรัตนโกสิน และ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ 30 เมษายน 2536
ไม่ว่าจะเป็นตลาดมิ่งเมือง หรือ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ที่มาพร้อมด้วยความทันสมัย เสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้คือการไหลลื่นของผู้คนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าทั้งให้กับตัวเองและเป็นของฝาก
ตลาดมิ่งเมืองจะคับคั่งไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางจากหัวเมืองและต่างจังหวัดเดินทางด้วยรถโดยสายเข้ามาซื้อของเพื่อไปขายในจังหวัดของตัวเอง รวมถึงคนที่อยู่รายล้อมรอบเกาะรัตนโกสินทร์แวะเวียนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันไม่หยุด เมื่อเปลี่ยนผ่านเป็น ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า วิถีของการชอปปิ้งก็ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์อยู่เช่นเดิม
จุดชาร์ตพลังของย่าน
ทำเลที่ตั้ง อยู่ติดกับถนนสายการค้าหลักทั้ง 4 ด้าน คือ พาหุรัด ตรีเพชร เจริญกรุง บูรพา และการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมบริการที่จอดรถมากกว่า 1,100 คัน หรือสะดวกสบายเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามยอด ทำให้มีผู้คนเดินทางเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ทั้ง ร้านค้าผ้าชิ้น และชุดตัดสำเร็จ ร้านขนมไทย และอาหาร
ความหลากหลายของสินค้าภายในแหล่งชอปปิ้งแห่งนี้ยังมีครบทั้งเครื่องประดับ เพชร พลอย และ ทองรูปพรรณ ร้านปืน ซุ้มพระเครื่อง ศูนย์ขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกช่วงวัย นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน และเจ้าของธุรกิจ ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นความสบายใจเล็กๆ สำหรับผู้คนในย่านนี้ที่เข้ามาทำกิจกรรม เลือกรับประทานอาหารที่ชอบ เป็นแหล่งนัดพบกลุ่มเพื่อน และเจรจาการค้า
อีกความน่าสนใจของ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ที่น้อยคนยังไม่รู้ก็คือ ร้านค้ามากกว่า 50% ภายในศูนย์ฯ เป็นธุรกิจที่ขายให้กับธุรกิจ หรือ B2B (Business to Business) เรียกว่าเป็นแหล่งค้าเครื่องประดับและเพชร ให้ธุรกิจรายกลางและเล็กมาซื้อเพื่อนำไปขายต่อ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมการใช้จ่ายทั้งลูกค้าทั่วไปและธุรกิจ นับเป็นความน่าสนใจและจุดเด่นที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักในศูนย์การค้าฯ ทั่วไป
เปิดมานาน…แต่ไม่ยอมหลุดเทรนด์
หลังจากเปิดให้บริการมา 30 ปี ก็ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ ๆ เพิ่มความสดใสให้ย่านการค้าได้กลับมามีชีวิตชีวากันอีกรอบหลังจากสถานการณ์โควิด-19
ความสดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาจากการปรับพื้นที่ทั้ง 17,945 ตารางเมตรใหม่ พร้อมกับเพิ่มดีไซน์ที่จะทำให้ประสบการณ์ในการชอปปิ้งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
พื้นที่พลาซ่า ชั้น 1 ยังคงเป็นแหล่งรวม ร้านเพชร ร้านทองส่งชั้นนำ ผ้าลูกไม้นำเข้า ร้านเครื่องประดับ และขนมไทยโบราณที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
พื้นที่พลาซ่า ชั้น 2 เป็นศูนย์รวมผ้าไหม เครื่องประดับ ห้องเสื้อ ชุดราตรี ชุดแต่งงาน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
พื้นที่พลาซ่า ชั้น 3 พบกับโฉมใหม่ ศูนย์รวมร้านอาหาร และ มาร์เก็ต ที่เตรียมยกระดับให้เป็น Food Experience แห่งใหม่ของย่านนี้ ที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการที่จะอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
บริเวณชั้น 4 เป็นพื้นที่บ้านพักอาศัย (Residence) มีทั้งหมด 128 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 95 ตารางเมตร แบบ Duplex 2 ห้องนอน ห้องรับแขกขนาดใหญ่ 1 ห้องครัว 2 ห้องน้ำ พื้นที่รวมทั้งหมด 13,000 ตารางเมตร จะปรับให้เหมาะกับกลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ใกล้เคียง และกลุ่มครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการเดินทาง ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
การปรับลุคที่ทันสมัยให้กับโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกบนเกาะรัตนโกสินทร์ และเป็นพลาซ่าที่ใหญ่ที่สุดในย่านการค้าหลักของกรุงเทพฯ ด้วยงบประมาณสูงถึง 400 ล้านบาทในครั้งนี้ จะทำให้ทุกมิติของการชอปปิ้งเปลี่ยนไป แต่ยังคงเอกลักษณ์ และเสน่ห์ที่เป็นภาพจำเอาไว้ให้ไม่ว่าจะวัยไหน ๆ ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Third Places พื้นที่ความสุขแห่งนี้ได้ในทุกวัน
รายละเอียดโครงการ
ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า บริหารงานโดยบริษัท สยามสินธร จำกัด( Mr. Apichai Siridumrongphun Assistant Managing Director – Commercial Building Business Siam Sindhorn Co., Ltd.) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารศูนย์การค้า ด้วยผลงานที่ได้รับการยอมรับอย่าง “เวลา สินธร วิลเลจ หลังสวน” (Velaa Sindhorn Village Langsuan )
- อาคารมิกซ์ยูส 2 อาคาร 10 ชั้น และ 5 ชั้น
- ขนาดพื้นที่รวม 98,500 ตารางเมตร
- เรสซิเด้นซ์ 128 ยูนิต / 13,000 ตารางเมตร
- พลาซ่า 17,945 ตารางเมตร
- จอดรถ 1,100 คัน
