กลุ่มดุสิตธานี นำโดย ชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง อาทิ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิตธานี ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมาน สุริยา จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ วิภาดา โทณวณิก รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มจัดซื้อจัดจ้าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และ ที่ปรึกษาจัดซื้อจัดจ้างบริษัท วิมานสุริยา จำกัด ศิรเดช โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจโรงแรม คุณายุทธ เดชอุดม ผช.รองประธานกรรมการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ รองประธานฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และการออกแบบ ร่วมประกาศความคืบหน้าในการสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในพิธีประดับ ‘ยอดแหลมสีทอง’ ที่ถือเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของความเป็นโรงแรมดุสิตธานีเดิมกลับมาสู่ยอดของโรงแรมดุสิตธานีแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยโรงแรมดุสิตธานี เป็นหนึ่งในสี่อาคารหลักในโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์ยูสบริเวณหัวมุมถนนสีลมตรงข้ามสวนลุมพินี ทำเลระดับไฮเอนด์และลักชัวรี่ ผ่านแนวคิด Here for Grace and Vibrancy ที่จะกลับมาเป็นโรงแรมหรูระดับตำนานของกรุงเทพฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
โรงแรมดุสิตธานี แห่งใหม่ปักหมุดบนพื้นที่ด้านหน้าโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โดยจุดเด่นของโรงแรม คือตัวอาคารทรงสามเหลี่ยมสูง 39 ชั้น พร้อมห้องพักจำนวน 257 ห้อง ที่ออกแบบโดยเน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้นในดีไซน์ที่ทันสมัย และรับมุมมองที่ติดธรรมชาติของวิวสวนลุมพินีได้แบบ 100% ทั้งนี้ งานด้านสถาปัตยกรรมของโรงแรมดุสิตธานี ได้ผนวกทุกสิ่งที่เป็นมรดกของดุสิตธานีเดิมมาประยุกต์เข้ากับตัวอาคารใหม่ ซึ่งยอดเสาสูงสุดเหนืออาคารยังคงรูปแบบพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามไว้เช่นเดิม โดยตัว ‘ยอดแหลมสีทอง’ ได้ถูกติดตั้งไว้ภายในก่อนจะสร้างยอดใหม่วางครอบลงไปเพื่อปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้นตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับอาคารที่ขยายให้ใหญ่กว่าเดิม
จากแนวคิดและความตั้งมั่นที่สานต่อกันมาของ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานบริษัท ดุสิตธานี จำกัด เชื่ออยู่เสมอว่า ‘เสน่ห์ความเป็นไทย’ เป็นสิ่งที่โดดเด่นและน่าภูมิใจในสายตาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงร่วมสมัยของโรงแรมเดิมที่ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 ในฐานะอาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดของเมือง เพื่อเป็นการพิสูจน์ถึงมรดกที่ตกทอดมานานหลายปี ทางโรงแรมได้ผ่านการปรับปรุงและออกแบบใหม่เพื่อยกระดับจุดยืนของดุสิตบนเวทีโลก ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นดุสิตเดิมไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ดุสิตธานีเป็นโรงแรมที่แสดงออกถึงความเป็นไทยได้อย่างภาคภูมิใจต่อไป
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสที่สอง ปี 2567 เพื่อหวนคืนสู่การเป็นโรงแรมระดับตำนานของกรุงเทพฯ ที่ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยในดีไซน์ที่โดดเด่น รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ชุมชน และระบบสาธารณะอย่างครบครัน