รีวิว เดอะ เมเธียส กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม 69 (THE MATIAS Kanchanapisek-Phetkasem 69) บ้านเดี่ยวหรู 100 ตร.ว. Dutch Colonial Style บนทำเลศักยภาพเชื่อมสาทร

ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ
เดอะ เมเธียส กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม 69 (THE MATIAS Kanchanapisek-Phetkasem 69)
เจ้าของโครงการ
บริษัท อัคร บ้านและที่ดิน จำกัด
ที่ตั้งโครงการ
ถนนบางบอน 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ประเภทโครงการ
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
เนื้อที่โครงการ
12-1-99.3 ไร่
จำนวนยูนิต
28 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก

Executive Club พร้อม Co-Living Space, Gym, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะ

ราคาเริ่มต้น
16.9 ล้านบาท* (เม.ย 67)
เบอร์โทร
082-491-8995

ลงทะเบียนสนใจโครงการ

โครงการ เดอะ เมเธียส กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม 69 (THE MATIAS Kanchanapisek-Phetkasem 69) “Your Treasured Moment Happening” สัมผัสทุกช่วงเวลาที่มีค่ากับบ้านเดี่ยวหรู Dutch Colonial Style บรรยากาศสไตล์ตะวันตก กลิ่นอายสถาปัตยกรรมยุโรปที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ครบทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ครอบครัวทุก Generation สังคมส่วนตัวเพียง 28 ครอบครัวเท่านั้น

จุดเด่นโครงการ

  • Dutch Colonial Style เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป จุดเด่นอยู่ที่หลังคาหน้าจั่วทรงสูง ชายคาสั้น มี Bay Window มีขนาดใหญ่ทำให้มีช่องแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้าน อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งการออกแบบบ้านสไตล์นี้หาได้ยากจากโครงการบ้านทั่ว ๆ ไป เป็นการออกแบบบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ
  • บ้านเดี่ยวหรู เนื้อที่มากกว่า 100 ตร.ว. ฟังก์ชันตอบโจทย์ทุก Generations ออกแบบมาอย่างลงตัวมาพร้อมกับ Walk-in Closet ในตัวทุกห้อง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ Highlight อยู่ที่ Double Volume ที่มีความสูงถึง 4.4 เมตร และ 6.3 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในบ้านโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดีกว่าบ้านปกติทั่วไป
  • Full Function Facilities Executive Club พร้อม Co-Living Space, Gym หรือ Fitness Center, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะ มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
  • ทำเลศักยภาพใกล้ CBD สาทร เชื่อมวงแหวนกาญจนาฯ กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ เข้าสู่แหล่งงานอย่างโซนสีลม-สาทร-พระราม 4 ใกล้แหล่งอุตสาหกรรมย่านพระราม 2 พร้อมรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น The Mall บางแค, Victoria Gardens, โรงเรียนกรพิทักษ์, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค และโรงพยาบาลบางปะกอก 8
  •  

บริเวณด้านหน้าโครงการ The Matias กาญจนาฯ-เพชรเกษม 69 จะติดถนนบางบอน 3 ทางเข้า-ออกหลักของโครงการจะอยู่ทางทิศตะวันออก ถ้าตามศาสตร์ฮวงจุ้ยจะช่วยเสริม เรื่องสุขภาพในการรับแดดช่วงเช้า และที่สำคัญที่สุดที่ทางโครงการคำนึงถึง คือ “หน้าบ้าน” ซึ่งหน้าบ้านของลูกบ้านส่วนใหญ่ จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ทั้งหมด ตามหลักฮวงจุ้ยก็ช่วยเสริมเรื่องอำนาจ บารมี และโชคลาภ ที่ทางโครงการได้ผสมผสานความเชื่อและการออกแบบมาได้อย่างลงตัว อยู่แล้วดี อยู่แล้วเฮงครับ

ซุ้มโครงการตกแต่งเป็นแบบ Dutch Colonial Style ตามสถาปัตยกรรมยุโรป สไตล์นี้จะโชว์หน้าจั่วทรงสูง บัวปูน ไม้ระแนง และผนังปูนเซาะร่องทำเป็นเหมือนอิฐบล็อก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรป ตามสไตล์ Dutch Colonial ส่วนถนนเมนหน้าโครงการเป็นพื้น Stamp Concrete ช่วยทำให้ภาพรวมดู สะอาดตา สวยงาม ผสมผสานกับ Sculpture กวางเรนเดียร์ตัวผู้ สี Copper ตั้งตระหง่านตรงกลาง ให้ความรู้สึกถึงความสมบูรณ์แบบ สง่างาม และสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยไปด้วยครับ

Main Gate แบ่งช่องทางเข้า-ออก สำหรับรถและคนเดินไว้แยกกัน ส่วนทางเข้า-ออกเป็นรั้วอัตโนมัติ Automatic Gate ที่ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV มาให้ และมีเจ้าหน้าที่รปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. 

พื้นที่ส่วนกลาง

ติดกับ Main Gate ซ้ายมือจะเป็นอาคาร Executive Club ส่วนกลางของทางโครงการที่ยังคงอยู่ในสไตล์ Dutch Colonial ชั้น 1 เข้ามาจะเจอกับห้องรับรองหรือ Lobby ตอนนี้ใช้เป็น Sales Gallery ก่อนครับ

สระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งแต่ยังได้ร่มเงาเนื่องจากอยู่ด้านหลังของอาคาร Executive Club ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า สระว่ายน้ำมาพร้อมสระเด็กในตัว รายล้อมด้วยต้นไม้ช่วยสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่น แถมยังบังสายตาได้อีกด้วยครับ

ชั้น 2 ของอาคารจะมีห้อง Juristic, ห้อง Co-living Space และ Gym Room โดย Gym Room ตัวห้องจะมีการออกแบบให้มีช่องแสงรับวิวสูงเกือบสุดเพดาน ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด เครื่องออกกำลังกายก็มีมาให้ครบ ทั้ง Cardio และ Weight Training มีกระจกเงาแบบเต็มบานไว้ให้เช็กดูร่างกายตอนออกกำลังได้อย่างถูกต้อง

ในส่วนของห้อง Co-living Space เป็นห้องผนังกระจกแบบ Full Height วางชุดเก้าอี้ไว้ให้เป็นที่นั่งพักผ่อนแบบ 2 ท่าน หรือจะประชุมกันแบบกลุ่มก็มีแบบ 6 ที่นั่งด้วยครับ ส่วนโต๊ะจะมีปลั๊กไฟไว้รองรับการชาร์จโทรศัพท์และ Laptop เพื่อไม่พลาดการติดต่อ หรือทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

มากันที่พื้นที่สีเขียวของโครงการกันบ้าง สวนสาธารณะของโครงการจัดออกแบบ Formal Styles ผสมผสานความเป็นสไตล์ Dutch Colonial เป็นสวนแนวลึก ทรงสามเหลี่ยมขนานไปกับถนนเมน ล้อมด้วยบ้านภายในโครงการ ในสวนจะมีลานสนามหญ้าไว้ให้ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่น ทำกิจกรรม ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ มีต้นไม้ต้นใหญ่ตามจุดต่าง ๆ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น สดชื่น สบายตา และยังมีทางเดินรวมไปถึง Pavilion ไว้ให้ได้นั่ง Relax พักผ่อน หรือหลบแดดได้ด้วยครับ 

แบบบ้าน : Madison

  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • พื้นที่ใช้สอย : 335 ตร.ม.
  • 4 ห้องนอน พร้อม Walk-In Closet ทุกห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 Pantry, 1 ครัวไทย, 1 Family Area, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้อง Maid พร้อมห้องน้ำ, 6 ที่จอดรถ, พื้นที่ Double Volume Living & Dining Area 

ด้วยความที่โครงการนี้มีเอกลักษณ์ความเป็นตะวันตก สถาปัตยกรรมสไตล์ Dutch Colonial ที่โดดเด่นไม่มีใครเหมือน อย่าง รูปทรงสมมาตร หลังคาจั่วทรงสูง ชายคาสั้น จบขอบผนังด้วยบัวขนาดใหญ่ ผนังนอกบ้านสร้าง Texture ด้วยการเซาะร่องแนวนอน หน้าบ้านเป็นผนังพ่นทรายลายอิฐบล็อก และที่ขาดไม่ได้ในความเป็นชาวยุโรปก็ต้องมี Bay Window ที่ยื่นออกมาช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในบ้าน เน้นช่องแสงธรรมชาติ ด้วยบานหน้าต่างขนาดใหญ่ ช่วยให้ภายในบ้านโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น Facade ด้านนอกออกแบบมาได้มีรายละเอียดที่ดี ได้กลิ่นอายบ้านของชาวตะวันตกเลยครับ

โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast มีความแข็งแรง โรงจอดรถลงเสาเข็มแบบปูพรมลึกถึง 6 เมตร พื้นเป็น Stamped Concrete รองรับการจอด 6 คัน ทางโครงการให้เป็นรั้วเหล็กอัตโนมัติ ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมต ไฟเพดานเป็น LED มาให้ทั้งหมด 4 ดวง โรงจอดรถจะมีประตูที่เชื่อมไปยัง Maid Plaza ช่วยในการขนย้ายของได้สะดวก 

ถังขยะเป็นแบบฝังกำแพงตั้งอยู่หน้าบ้าน หน้าบานเป็น Aluminium สีดำ ง่ายต่อการ Service ส่วนตัวถังจะอยู่ด้านในบ้านก่อปูนสูงเท่ากับรั้ว มีฝาปิดมิดชิดมาให้ ช่วยเก็บกลิ่น และทำให้ดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ หมดห่วงเรื่องความสกปรกหน้าบ้านไปได้เลยครับ

บริเวณโรงจอดรถ ทางโครงการจะติดตั้ง EV Charger มาให้ 1 จุด และทุกหลังเป็นไฟ 3 เฟส 30(100) มีการเดินไฟไว้ทำปลั๊กเพื่อรองรับ EV Charger เพิ่มอีก 1 ตัวในอนาคต มีเต้าเสียบพร้อมฝาครอบปลั๊กไฟกันน้ำมาให้อีก 1 จุด

มี Siren และกล้อง IP Camera จุดที่ 1 ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าบ้านตรงโรงจอดรถ

หน้าบ้านจะมีประตูรั้วเหล็กไว้สำหรับเดินเข้า-ออก พร้อมกริ่งไร้สายและไฟกิ่ง ตัว Mail Box ก็ให้มาด้วยครับ เป็นวัสดุทำจาก Stainless steel ตัดด้วยตัวเลขสีดำของเลขที่บ้าน “294” บ้านทุกหลังในโครงการจะมีการปรับพื้นรอบบ้านและจัดสวนมาตรฐานมาให้สวยงามครับ

ในส่วนของด้านหลังบ้านที่เชื่อมต่อจากภายในบ้าน จะได้เฉลียงหลังบ้านมาถึง 3 จุด ทุกจุดลงเสาเข็ม เทคอนกรีตพร้อมปูพื้นกระเบื้องให้เรียบร้อย ประตูเป็นแบบบานเลื่อนเปิดกว้าง ประดับด้วยบัวประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ทำให้แสงที่ผ่านเข้ามาในบ้านไม่ร้อน และทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเพิ่มเติมได้เลยครับ

ด้านหน้าประตูทางเข้าจะมีโคมไฟกิ่งให้ 3 ดวง ทรงคลาสสิก ช่วยเพิ่มแสงสว่างระหว่างเดินเข้าบ้าน ทางโครงการได้ออกแบบประตูทางเข้าหลักให้ลึกเข้าไปด้านใน ทำให้ได้ทั้งชายคาที่ช่วยกันแดดกันฝน และทำให้บ้านดูสวยงาม มีมิติมากยิ่งขึ้น ตัวประตูทางเข้าหลักเป็นแบบเปิดคู่ สูงโปร่งบานกรอบ Aluminium สีขาว ตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสงเหมือนเช่นเคย 

กลอนประตูได้เป็น Digital Door Lock ของ Philips สะดวกง่ายต่อการใช้งาน หมดปัญหาเรื่องลืมกุญแจ เพราะใช้งานถึง 5 ระบบ คือ Pin Code, Key Card, Finger Scan, ควบคุมระยะไกลผ่าน Application และกุญแจอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทางโครงการให้เป็นมาตรฐานแบบนี้ทุกหลังเลยครับ

นอกจากนี้บ้านทุกหลังของทางโครงการ จะติดตั้งระบบ Home Automation มาให้ โดยจะมี Control Pad ระบบสัมผัสของ Paradox ควบคุมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic ทั้งหลัง ส่วนปลั๊กไฟเป็นของ Panasonic ทั้งหมดครับ

เดินเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับ Foyer ที่กั้นความเป็นส่วนตัวก่อนเข้าไปถึง Living Area ตรงโซนนี้สามารถทำเป็นที่นั่งเปลี่ยนรองเท้า หรือตกแต่งเป็นกระจกบานใหญ่ไว้ส่องเช็กดูความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านก็ได้ครับ ในส่วนของความสูงทั่วไปภายในบ้าน Floor to Ceiling อยู่ที่ 2.8 เมตร พื้นชั้น 1 ปูเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน มีความแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกหรูหราตามแบบฉบับบ้านหรู

ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับ Foyer ทางขวามือจากทางเข้า ทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นห้องสัตว์เลี้ยง ห้องน้องหมา น้องแมว บ้านจริงเราสามารถปรับเป็นห้องอื่น ๆ ตามไลฟ์สไตล์ได้เลย อาจจะทำเป็นห้อง Game Room ไว้สตรีมเกม รองรับเพื่อนชาว Gamer, โรงหนังส่วนตัว สำหรับให้ครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน หรือจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ยังได้ครับ

Highlight ของบ้านมี 2 จุดด้วยกัน จุดแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ Double Volume Living สูงถึง 4.4 เมตร มาพร้อมด้วยบานหน้าต่างแบบ Oversize บานใหญ่ ล้อมรอบห้อง ทำให้บ้านยิ่งโปร่งโล่ง ดูแกรนด์มาก ๆ ครับ

โซน Living Area สามารถวางทีวีขนาดใหญ่และชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ

กล้อง IP Camera จุดที่ 2 อยู่บริเวณโซน Living Area

เชื่อมต่อพื้นที่แบบเปิดโล่งไปยัง Highlight จุดที่ 2 อย่าง Double Volume Dining Area ที่สูงถึง 6.3 เมตร ช่วยในการไหลเวียนอากาศภายในบ้าน และเปิดทัศนวิสัยทางสายตา สร้างความรู้สึกว่าบ้านดูโปร่งโล่ง ทำให้บ้านมีชีวิตชีวา เพราะสมาชิกในบ้านได้ Connect กันที่พื้นที่ส่วนรวมทั้ง 2 จุดของบ้าน

หน้าต่างแบบ Oversize บานใหญ่จัดเต็มตรงโซน Double Volume Dining Area มองจากข้างล่างขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเจอกับโซน Family Area ชั้นบน

ส่วนของ Dining Area สามารถเชื่อมต่อกับ Pantry และห้องครัวไทย ช่วยให้แม่บ้านใช้งานได้อย่างสะดวก ง่ายต่อการจัดเสิร์ฟ รับรองแขกต่าง ๆ หรือเราจะ Built เป็นในรูปแบบอื่นทางโครงการก็วางระบบต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อย

ถัดจาก Pantry เข้าไปด้านในซ้ายมือจะเป็นห้องครัวไทย ตรงกลางเป็นห้องน้ำชั้น 1 ด้านในสุดจะเป็นห้องเก็บของและตู้ Load Center ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ติดกันเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และขวามือคือห้องนอน 4 ที่ออกแบบไว้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เพราะทางโครงการได้ทำพื้นสโลปไว้รองรับ Wheelchair ให้เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำได้ด้วย หรือถ้าใครไม่ได้ใช้งานเป็นห้องนอน ก็สามารถปรับเป็นห้องอื่น ๆ ได้ตามชอบครับ

ห้องน้ำชั้น 1 กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ทางโครงการทำ Low Wall ด้านหลังอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณท์ ไว้วางขวดสบู่ แชมพูได้ด้วยครับ อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของมาให้ด้านล่าง ได้กระจกบานใหญ่ Shower Box เป็นกระจกนิรภัย ติดตั้งฝักบัวมาให้ 2 แบบ ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower พร้อมที่วางสบู่ มีช่องแสงส่องเข้าถึงทำให้ไม่อึดอัด ทางโครงการวางระบบไฟฟ้าสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้ด้วยครับ

ในส่วนของห้องครัวไทย ทางโครงการ Built-in ทำเคาน์เตอร์ครัวเป็นแนวยาววางให้ดูเป็นตัวอย่าง ของจริงได้ห้องเปล่าที่มีการเดินงานระบบต่าง ๆ และหน้าต่างกระจกบานเลื่อนตามภาพเลยครับ

มองทะลุครัวออกไปเป็นโซน Maid Plaza ที่เชื่อมต่อกับประตูโรงจอดรถทางขวามือ ส่วนซ้ายมือจะเป็นประตูออกไปหลังบ้านที่เป็นโซนลานซักล้าง ส่วนถัดมาเป็นห้องน้ำของแม่บ้าน และห้องพักของแม่บ้านครับ

กลับมายังห้องนอน 4 ที่เหมาะทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ บ้านตัวอย่าง Built-in ตู้เสื้อผ้าและวางโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอให้วางเตียงได้ขนาด 5-6 ฟุต ได้ครับ พื้นที่รอบเตียงเหลือให้สามารถเดินผ่านได้คล่องตัวแน่นอน

ภายในห้องน้ำของห้องนอน 4 จะได้บานหน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งมา 2 บาน ช่วยรับแสงเพื่อทำให้ห้องดูไม่อึดอัด อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก พื้นห้องนอนและห้องน้ำเชื่อมต่อกันแบบ Non Step และยังมี Floor Drain ที่อยู่หน้าประตูกั้นน้ำไหลออกนอกประตูไปยังห้องนอน และ Floor Drain อีกจุดตรงโซนเปียก สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหลังเลยครับ

ห้องข้างบันไดคือห้องเก็บของที่มีความสูงพิเศษ ด้านในห้องมีตู้ Load Center ไว้ควบคุมไฟฟ้าภายในบ้าน เก็บของชิ้นใหญ่ได้สบาย

ขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 2 ครับ ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จสีอ่อน ระยะของลูกนอนมีความกว้างมาตรฐาน ราวบันไดเป็นระแนงเหล็กสีขาว มือจับเป็นไม้สำเร็จสีเดียวกันกับลูกตั้งและลูกนอน โถงบันไดและชานพักมีความกว้างมาก เดินสวนกันได้สบาย พร้อมหน้าต่างบานใหญ่แบบ Oversize รับแสงธรรมชาติ ให้ความรู้สึกโอ่โถง และช่วยทำให้บ้านดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น ทางโครงการมีการติดตั้ง Motion Sensor ตรวจจับการเคลื่นไหวไว้ให้ ตรงช่วงทางขึ้นมายังชั้น 2 ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย โดยที่เราไม่ต้องเดินไปกดเปิด-ปิดไฟให้เสียเวลา 

พื้นชั้น 2 ปูด้วย SPC ลายไม้ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นรับกับ Mood & Tone ภายในบ้านได้ดี จากโถงบันไดไปทางซ้ายมือเราก็จะเจอกับโซน Family Area ที่กว้างขวางมาก ๆ สามารถจัดวางชุดโซฟา 5-6 ที่นั่งได้สบาย ๆ ส่วนทางโครงการออกแบบ Built-in ให้ดูตัวอย่าง ทำเป็นห้องทำงาน หรือเราสามารถเพิ่มฟังก์ชันกั้นห้องเป็นกระจกทำเป็น Gym ส่วนตัวก็ยังได้เลยครับ

มุมมองจากโซน Family Area ที่มองลงไปเจอกับโซน Dining Area ข้างล่างครับ

ถัดจาก Family Area จะเป็น Master Bedroom พื้นที่ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุด สามารถวางเตียง King Size ได้ สามารถ Built ชั้นวางทีวี พร้อมด้วยม้านั่งปลายเตียงได้ โดยยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงโล่งกว้าง เดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก ได้ห้องที่โปร่งไม่อึดอัดเลยครับ จุดเด่นของ Dutch Colonial Style จะอยู่ที่ห้องนี้ นั่นคือ Bay Window ที่เป็นตัวเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน จะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะทำงานเข้ามุมสวยงามรับกับหน้าต่างก็ได้ครับ

มองหันกลับไปยังอีกฝั่ง ก็จะมีหน้าต่างที่เปิดโล่ง มองไปยัง Dining Area ข้างล่างได้ โซนนี้ทางโครงการทำเป็นโซนนั่งทำงาน ที่มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ มาพร้อมอาร์มแชร์ที่นั่งข้างเตาผิง ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนชิล ๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านในยุโรปเลยครับ

มาดูส่วนพื้นที่แต่งตัวกันบ้าง บ้านทุกหลังทางโครงการจะกั้นเป็นห้อง Walk-in Closet ไว้ให้ทุกห้อง สามารถที่จะ Built-in เป็นตู้และชั้นขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่ และยังมีพื้นที่เหลือรองรับโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี ขวามือจะเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom เป็นห้องน้ำที่ให้มา Full Function เลยครับ

ห้องน้ำของ Master Bedroom มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัวให้มา 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower สุขภัณฑ์จาก American Standard ในส่วนของโถสุขภัณฑ์จะเป็นระบบอัตโนมัติ และ Bathtub แบบ Freestanding ให้เฉพาะห้อง Master Bedroom เท่านั้นครับ อ่างล้างหน้าขนาดพอเหมาะสามารถวาง แปรงสีฟัน หรือจะตกแต่งด้วยแจกันเครื่องหอมก็ได้ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของได้ พร้อมกระจกส่องหน้าบานใหญ่ ด้านข้างเป็นหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ประหยัดไฟได้ในเวลากลางวัน

ห้องนอน 2 เข้ามาถึงก็จะเจอกับมุม Walk-in Closet ก่อนเลยครับ มุมนี้สามารถใส่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็ม ๆ 1 ฝั่ง ฝั่งตรงข้ามก็สามารถเพิ่มเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ พื้นที่ส่วนด้านหน้าตรงนี้จะอยู่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวของห้อง ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและใช้งานได้อย่างสะดวก

ถัดเข้าไปด้านใน ส่วนของพื้นที่วางเตียง จะได้พื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ พื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้ค่อนข้างเยอะเลยครับ สามารถใส่โต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ปลายเตียงวางม้านั่งพร้อมชั้นวางทีวีได้ หรือจะเพิ่มโต๊ะทำงานด้านข้างก็ยังได้ครับ หรือถ้าใครอยากเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ ด้านข้างสามารถ Built เป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติม หรือทำเป็นชั้นวางของก็ได้ครับ

ห้องน้ำของห้องนอน 2 มาพร้อมฉากกั้นส่วนเปียก-แห้ง ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทั้งหมด ส่วนภายใน Shower Box ทางโครงการมีฝักบัวมาให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower ปรับระดับและ Rain Shower มีที่วางสบู่ พร้อมทั้งติดตั้งวางระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับเครื่องทำอุ่นไว้ให้

ห้องนอน 3 จะอยู่ด้านหน้าบ้านตามแปลนติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ฝั่งขวา ภายในห้องสามารถจัดแบ่งโซนมุมทำงานขนาดพอเหมาะได้ ส่วนตรงกลางห้องด้านหน้าประตูทำเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อนได้ สามารถวางชุดโซฟาขนาดที่นั่งประมาณ 2-3 คนได้ พร้อมใส่ชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ ส่วนพื้นที่วางเตียงก็สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยครับ มีพื้นที่เหลือข้างเตียงให้สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ไว้ชาร์จมือถือ หรือไว้วางโคมไฟก็ยังได้ครับ

Walk-in Closet ของห้องนี้ก็ไม่แพ้ห้องอื่น ๆ ครับ ขนาดพื้นที่ออกแบบรองรับไว้ให้ลูกบ้านสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางกระเป๋า และโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย ๆ

ภายในห้องน้ำแบ่งกั้นโซนเปียก-แห้งด้วยกระจกนิรภัยมาให้เหมือนเช่นเคย ด้านหลังอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ทางโครงการบิลต์อิน Low Wall มาให้ครับ วางอุปกรณ์ต่าง ๆ พวกโฟมล้างหน้า สบู่ล้างมือ ที่วางแปรงสีฟันได้สะดวก ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานใช้ของ American Standard เหมือนเช่นเคย ภายใน Shower Box จะติดตั้งชุดฝักบัว 2 แบบ มี Hand Shower ปรับระดับและ Rain Shower มาให้ วางระบบไฟฟ้ารองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เหมือนเดิมครับ

แบบบ้าน : Memphis

  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • พื้นที่ใช้สอย : 303 ตร.ม.
  • 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 Pantry, 1 ครัวไทย, 1 ห้อง Maid พร้อมห้องน้ำ, 6 ที่จอดรถ, พื้นที่ Double Volume Dining Area

แบบบ้าน Memphis เป็นขนาดแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ “บ้านเดี่ยวหรู ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ในแบบ Dutch Colonial Style” ผสมผสานความโมเดิร์นไว้อย่างลงตัว Facade หน้าบ้านมีเอกลักษณ์ด้วย หน้าจั่วทรงสูง และ Bay Window เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และยังมีระแนงไม้ข้างใต้ เพิ่มร่มเงาให้กับทางเข้าบ้านได้อีกด้วย 

ทางคนเดินเข้าหน้าบ้านจะเป็นประตูรั้วเหล็กบานสวิง พร้อมไฟกิ่งและกริ่งไร้สาย Mail Box ทำจาก Stainless steel ที่ใช้ร่วมกันกับป้ายบ้านเลขที่ ถังขยะจะเป็นแบบฝังกำแพงก่อปูนมาให้ สะดวกทั้งลูกบ้านและพนักงานที่มา Service แบบบ้านทุกหลังในโครงการจะมีการปรับพื้นรอบบ้านและจัดสวนมาตรฐานให้ด้วยนะครับ

สิ่งที่ลูกบ้านจะได้จากโครงการจะเป็นบ้านเปล่า พร้อมวัสดุและโครงสร้างเกรดพรีเมียมทั้งหลัง อย่างโครงสร้างบ้านก่อเป็นแบบ Precast มีความแข็งแรง ลดเหลี่ยมมุมของเสาบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน โรงจอดรถก็ลงเสาเข็มให้ ลึกกว่า 6 เมตร สามารถจอดรถได้ถึง 6 คัน ข้างบ้านติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำบนดินของ Dos พร้อมทั้งจัดสวนปูหญ้าให้รอบบ้านตามมาตรฐานของโครงการ

รั้วเหล็กอัตโนมัติ ควบคุมผ่านรีโมต เก็บรางโค้งเข้ากำแพงทำประหยัดพื้นที่ และดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย ซึ่งทางโครงการให้เป็นมาตรฐานเหมือนกันครับ

พื้นโรงจอดรถเป็น Stamp Concrete ใช้สีเทา 2 เฉด รับกับสีผนังบ้านได้อย่างลงตัวลง

Siren และกล้อง IP Camera จุดที่ 1 ติดตั้งอยู่ที่โรงจอดรถ

ประตูเชื่อมต่อเข้าสู่โซน Maid Plaza

ทางโครงการจะติดตั้ง EV Charger มาให้ 1 จุด ทุกหลังเป็นไฟ 3 เฟส 30(100) มีการเดินไฟไว้ทำปลั๊กเพื่อรองรับ EV Charger เพิ่มให้อีก 1 ตัวในอนาคต และมีเต้าเสียบพร้อมฝาครอบปลั๊กไฟกันน้ำมาให้อีก 1 จุด

แบบบ้าน Memphis ด้านหลังบ้านจะมีเฉลียงมาให้ 2 จุด จุดที่ค่อนข้างใหญ่ทอดยาว จะเชื่อมต่อกับโซน Dining Area และ Living Area สามารถ Built กั้นห้องทำเป็น Glass House เรือนกระจก เพื่อเพิ่มพื้นส่วนกลางของครอบครัว ไว้นั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันก็ได้ ส่วนเฉลียงอีกจุดจะเป็นลานซักล้างตรงหลัง Maid Plaza ให้มาแบบกว้างขวาง ต่อเติมได้สบาย ๆ ครับ ประตูและหน้าต่างจะเป็นกรอบ Aluminium สีขาว และกระจกเขียวตัดแสงทั้งหลัง ยิ่งทำให้ภายในบ้านไม่ร้อน แถมยังให้บ้านดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

บ้านทุกหลังและทุกแบบของโครงการ จะติดตั้งระบบ Home Automation มาให้โดยจะมี กล้อง IP Camera ให้ 2 ตัว ที่โรงจอดรถและโซน Living Area, Motion Sensor จะอยู่ตรงโถงทางเดินชั้น 2, กลอนประตูทางเข้าหลักเป็น Digital Door Lock ของ Phillip, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic ควบคุมทั้งบ้าน ผ่าน Control Pad ระบบสัมผัสของ Paradox และประตูโรงจอดรถเป็นรั้วอัตโนมัติ ควบคุมด้วยรีโมตเปิด-ปิด

เชื่อมต่อกับเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาเจอ Foyer เป็นทางเดิน ที่แยกความเป็นส่วนตัวก่อนเข้า Living Area เหมือนกับบ้านไซซ์ใหญ่เลยครับ พื้นที่กว้างสามารถ Built-in ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง หรือจะทำเป็นที่โล่ง ๆ มีตู้ลอยไว้วางของ วางกุญแจ และอีกฝั่งก็ติดกระจกบานใหญ่ไว้สำรวจความพร้อมก่อนออกจากบ้าน เหมือนที่บ้านตัวอย่างทำไว้ก็ได้ 

ความสูงทั่วไปภายในบ้านจะอยู่ที่ 2.8 เมตร ชั้น 1 ปูพื้นด้วย Porcelain ลายหินอ่อน ซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ไว้รับแขก หรือ Living Area ห้องนั่งเล่นหลักของบ้าน สามารถวางชุดโซฟา 5-6 ที่นั่งได้สบาย ๆ ชั้นวางทีวีรองรับจอขนาดใหญ่ได้ รอบห้องได้เป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ด้านหลังมีประตูกระจกสไลด์บานใหญ่ที่เชื่อมต่อกับเฉลียงหลังบ้านและโซน Double Volume Dining Area ที่เป็นจุดเด่นของแบบบ้าน Memphis ด้วยครับ

กล้อง IP Camera ที่อยู่ในโซน Living Area

Double Volume Dining Area ของแบบบ้าน Memphis

เชื่อมต่อกันที่ Highlight ของบ้านโซน Double Volume Dining Area ที่มีความสูง Floor to Ceiling 6.3 เมตร ช่องแสงกับบานประตูขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่ Dining Area มีความโอ่โถง สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 5-6 ที่นั่งได้สบาย ๆ ครับ

ห้องนอน 4 หรือห้องอเนกประสงค์จะอยู่ชั้น 1 ใกล้บันไดทางขึ้น ทางโครงการออกแบบมาเป็นห้องทำงาน มาพร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่ 2 บาน รับแสงได้เป็นอย่างดี สามารถทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้เช่นกันครับ

ห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ติดกับครัว ทางโครงการให้สุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก-แห้ง ภายใน Shower Box มีฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower ที่วางสบู่ พร้อมวางระบบไว้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย

เชื่อมต่อ Pantry เข้าสู่ห้องครัวไทย ภายในมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 1 บาน เปิดระบายอากาศและความชื้นได้ สามารถ Built-in ตู้เก็บเครื่องใช้ในครัวเรือนและชุดเคาน์เตอร์ครัว โดยยังมีพื้นที่เหลืออีกฝั่ง ให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ บ้านเปล่าทางโครงการมีการวางระบบน้ำและไฟไว้ให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้วครับ

ประตูหลังบ้านเชื่อมออกไปโซนซักล้าง

ห้องน้ำแม่บ้าน พร้อมชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน

ห้องนอนแม่บ้าน

ถัดจากประตูห้องครัวมาก็จะเจอกับโถงหลังบ้าน หรือโซน Maid Plaza ที่เชื่อมต่อโรงจอดรถ ที่เวลาซื้อของเข้าบ้านทำให้ง่าย สะดวกในการขนย้าย เก็บของ หรือ Service อื่น ๆ ภายในบ้าน

ห้องเก็บของจะอยู่ใต้บันได มีตู้ Load Center ไว้ควบคุมไฟฟ้าภายในบ้าน ภายในห้องเพดานสูงพร้อมช่องแสง 1 ช่อง เวลาใช้งานหยิบหาของตอนกลางวันก็สะดวกดีครับ ช่วยทำให้พื้นที่ห้องเก็บของไม่อับชื้น สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ได้อีกด้วยครับ

มาที่ชั้น 2 กันบ้าง โครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จสีอ่อน ระยะของลูกนอนมีความกว้างมาตรฐาน ราวบันไดเป็นระแนงเหล็กสีขาว พร้อมช่องแสงมาให้ 1 บาน ทำให้ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

พื้นชั้น 2 เป็น SPC ลายไม้สีอ่อน

วิวที่มองจากโถงบันไดชั้น 2 ของ Double Volume Dining Area

Master Bedroom จะอยู่ทางซ้ายมือ ภายในห้องกว้างขวางมาก ๆ มาพร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถจัดแบ่งฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วนได้เป็นอย่างดี อย่างทางโครงการวางเตียง King Size มาให้ดูตรงกลางพร้อมโต๊ะหัวเตียง ปลายเตียง สามารถวางโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นทีวี ไว้เป็นที่นั่งเล่น พักผ่อน ดูหนัง ดูซีรีส์ได้ หรือจะแบ่งทำเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ก็ยังได้ ส่วนที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในห้องนี้คือ Bay Window สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานตรงนี้ก็ได้ หรือจะทำเป็นที่นั่งพักผ่อนเพื่อโอบรับแสงธรรมชาติในช่วงเช้ายามแดดอ่อน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่น่าจะได้ใช้งานกันบ่อย ๆ ครับ

ทางโครงการกั้น Walk-in Closet ให้ทุกห้องนอนชั้นบน เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะทำเสริมเป็นที่นั่งเล่นริมหน้าต่าง ตามแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ครับ

Master Bathroom ทุกหลังจะให้ Bathtub และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ แต่มีให้แค่ห้องนอนใหญ่เท่านั้นนะครับ ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานใช้ของ American Standard พร้อมกับ Shower Box กั้นส่วนเปียก-แห้ง มีฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ทางโครงการ Built-in ห้องน้ำเป็นแบบ Sexy Bath คือมีกระจกที่มองทะลุเห็นภายในห้องน้ำ สามารถเพิ่มมู่ลี่กั้นให้เป็นส่วนตัวหากต้องการได้ครับ

มาต่อกันที่ห้องนอน 2 เข้ามาจะเจอกับโซน Walk-in Closet ก่อนเลยครับ แบ่งแยกความเป็นส่วนตัวไว้ได้ดีทีเดียว ซ้ายมือจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนพื้นที่ 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา สามารถ Built-in ทำเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลย

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ ภายในได้ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานของ American Standard พร้อมกั้นกระจกเป็น Shower Box ให้ฝักบัวเป็น Hand Shower และ Rain Shower ลูกบ้านสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลย เพราะทางโครงการวางระบบไฟไว้ให้แล้ว มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ ช่วยระบายอากาศ ลดความชื้นและเชื้อราภายในห้องน้ำ ทางโครงการทำ Low Wall มาให้หลังอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ มีเต้าเสียบปลั๊กพร้อมฝาปิดกันน้ำมาให้ สามารถใช้งานอุปกรณ์ทำผมต่าง ๆ ได้สะดวก

เชื่อมต่อมาด้านในห้องนอน 2 บริเวณพื้นที่พักผ่อน ได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่มา 3 บาน ขนาดห้องกำลังดีสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ ด้านข้างสามารถวางเป็นโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะได้ ตรงหัวเตียงก็ยังมีพื้นที่เหลือไว้ให้วางโต๊ะหัวเตียง 2 ฝั่งได้ ส่วนระยะปลายเตียง สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีได้ โดยยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงกว้าง ทำให้ห้องยังคงไว้ซึ่งความโปร่งได้เป็นอย่างดี

ห้องนอน 3 โถงทางเดินแบ่งแยกส่วน Walk-in Closet ก่อนเข้าไปยังโซนห้องนอน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ทางโครงการยังกั้นส่วน Walk-in Closet ให้เหมือนเดิมครับ เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ รวมไปถึงโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้เอง สามารถออกแบบให้เหมาะตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้เลยครับ ในส่วนของห้องน้ำ ชุดสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ใต้อ่างล้างหน้าก็มีตู้ไว้เก็บของ ส่วนขวามือกั้นกระจกนิรภัยมาให้เป็น Shower Box มีฝักบัว 2 แบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมติดตั้งวางงานระบบไฟฟ้าไว้รองรับเครื่องทำน้ำอุ่น

พื้นที่วางเตียงด้านในมีขนาดกว้างขวาง สามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ได้บานหน้าต่างรับแสงมาถึง 3 บาน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ปลายเตียง Built-in เป็นตู้โชว์และชั้นวางทีวีได้ เชื่อมต่อทำเป็นโต๊ะทำงานได้อย่างลงตัวเลยครับ

ทำเลที่ตั้ง

โครงการตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม 69 หรือถนนบางบอน 3 สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก ทั้งเส้นทางหลัก อย่างถนนเพชรเกษมและถนนเอกชัย ใกล้ทางด่วน 2 สาย และเส้นทางลัดเชื่อมวงแหวนกาญจนาฯ กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ เข้าสู่กรุงเทพชั้นใน อย่าง CBD สาทร หรือจะเป็นโซนอุตสาหกรรม เจ้าของโรงงาน ธุรกิจ SME อย่างย่านพระราม 2 รายล้อมด้วยศูนย์การค้าแหล่งไลฟ์สไตล์ เช่น Victoria Gardens, The Mall บางแค,  Big เพชรเกษม, Makro บางบอน, Seacon บางแค และ Central พระราม 2 ใกล้แหล่งสถานศึกษาเอกชนและนานาชาติชั้นนำย่านนี้ อย่างเช่น โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน, โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา, โรงเรียนเลิศหล้าถนนกาญจนาฯ, British Columbia International School และ BASIS International School อุ่นใจด้วยโรงพยาบาลเอกชน เช่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค, โรงพยาบาลบางปะกอก 8 และโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนลหนองแขม

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

สรุป

โครงการ The Matias กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม 69 ตั้งอยู่ถนนบางบอน 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ 2 ชั้น สไตล์ Dutch Colonial กลิ่นอายสถาปัตยกรรมยุโรป ที่ดินบ้านเริ่มต้น 100 ตร.ว. และพื้นที่ใช้สอยเริ่มที่ 303-335 ตร.ม. พร้อม Walk-in Closet ให้ทุกห้อง ส่วนกลางแบบ Full Function Facilities สังคมส่วนตัวเอกสิทธิ์ เพียง 28 ครอบครัว บนทำเลศักยภาพ วิ่งเข้าสู่โซนกรุงเทพชั้นใน CBD สาทร เพียง 25 นาที* ใกล้ทางด่วน 2 สาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง เพียบพร้อมลงตัวด้วยแหล่ง Fertility ครบครัน ฟังก์ชันครบตอบโจทย์ครอบครัวทุก Generation ในย่านบางแคเลยครับ

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด