รีวิว เดอะ แพลนท์ & เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 (The Plant & Natura Trend Pinkao-Sai 5) บ้านพร้อมอยู่ ฟังก์ชันครบ พื้นที่มากขึ้น สุขทั้งภายในและรอบบ้าน

ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ
เดอะ แพลนท์ & เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 (The Plant & Natura Trend Pinkao-Sai 5)
เจ้าของโครงการ
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ
ซอยวัดไร่ขิง 42 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ประเภทโครงการ
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น
เนื้อที่โครงการ
55-1-14.3 ไร่
จำนวนยูนิต
377 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก

สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-working Space, สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น

ราคาเริ่มต้น
2.52 ล้านบาท* (พ.ค. 67)
เบอร์โทร
1739

ลงทะเบียนสนใจโครงการ

โครงการ เดอะ แพลนท์ & เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 (The Plant & Natura Trend Pinkao-Sai 5) “แพลนชีวิตอิสระใหม่. . .ในแบบที่เราเลือกเอง” แตกต่างอย่างมีสไตล์กับความคุ้มค่าที่เหนือกว่า ครบครันทุกฟังก์ชันการอยู่อาศัยและการพักผ่อนบ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ พร้อมรังสรรค์สังคมคุณภาพ สุขสงบ ส่วนตัว ทั้งคลับเฮาส์ ส่วนพักผ่อนพร้อมมั่นใจยิ่งขึ้นกับระบบรักษาความปลอดภัย

จุดเด่นโครงการ

  • เลือกแบบบ้านได้ในสไตล์ที่เป็นคุณ ทางโครงการมีรูปแบบบ้านและขนาดให้เลือกหลากหลาย ทั้งบ้านทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ไม่ว่าจะครอบครัวไซซ์ไหนก็ตอบโจทย์ลงตัว
  • ใกล้ Central Salaya และ ม.มหิดล เพียง 10 นาทีก็สามารถเข้าถึงเซ็นทรัลศาลายาได้เลย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งวัยเรียนและคนทำงานในย่านให้สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  • เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย สายสีแดงอ่อน สถานีศาลายา และ สายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑลสาย 4 พร้อมเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง เข้าเมืองสะดวก
  • ส่วนกลางครบครัน ขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย Clubhouse & Salt Pool สโมสรพร้อมสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ, Fitness พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย, Co-working Space พร้อมฟรี Wi-Fi และ Park & Play สวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อม Jogging Track และ สนามเด็กเล่น

Main Gate ของโครงการ เดอะ แพลนท์ & เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 (The Plant & Natura Trend Pinkao-Sai 5) โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ดูทันสมัย ด้วยโครงสร้างเหล็กตัดเฉียงเป็นมุมฉาก สูงโปร่ง ผสมผสานความเป็นธรรมชาติด้วยไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เน้นเส้นสายด้วยระแนงไม้ปิดผิวแบบปาดเอียง กลมกลืนกับดีไซน์โดยรวมด้วยพื้น Stamp Concrete เพิ่มสีสันและแข็งแรง พร้อมตกแต่งด้านหน้าด้วยสวนหย่อม เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าโครงการให้ความสวยงามและรู้สึกสดชื่นด้วยครับ

ตรงกลางจะเป็นป้อมรปภ. แบ่งฝั่งทางเข้า-ออก โดยแยกส่วนของ Resident และ Visitor ไว้อย่างชัดเจน ประตูเป็นแบบ Double Gate มีทั้งไม้กระดกกั้นและประตูเหล็กรางเลื่อน โดยที่ Resident จะสามารถผ่านเข้า-ออกโครงการได้ด้วยระบบ Access Card Control และในส่วนของ Visitor จะต้องแลกบัตรกับรปภ. โดยจะมีกล้อง CCTV บริเวณป้อมรปภ. เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับและป้ายทะเบียน

พื้นที่ส่วนกลาง

อาคารคลับเฮ้าส์จะอยู่ติดกับ Main Gate เป็นอาคาร 2 ชั้นที่ประกอบไปด้วย Co-Working Space พร้อมฟรี WIFI, สระว่ายน้ำระบบเกลือกลางแจ้ง ขนาด 7×15 เมตร ความลึก 1.2 เมตร แบ่งแยกสระเด็กและบริเวณชั้น 2 จะเป็นห้อง Fitness ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเล่นที่หลากหลาย ครบครัน รองรับได้เพียงพอกับลูกบ้านในโครงการ แถมยังได้เทควิวสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะอีกด้วย

ภาพภายใน Fitness จากโครงการ The Plant & Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5

ภาพสระว่ายน้ำจากโครงการ The Plant & Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5

ภาพภายใน Co-working Space จากโครงการ The Plant & Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5

ทางโครงการออกแบบเป็นสวนสไตล์แลนด์สเคปในรูปแบบ Park & Play มีการตกแต่งด้วยเส้นสายจุดนำสายตาและซุ้มทางเดินรูปทรงสี่เหลี่ยม พร้อมที่นั่งพักไว้หลบแดดตามจุดต่าง ๆ มีทางเดิน Jogging Track รอบสวนและลานสนามหญ้าโล่งกว้างเพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้งานอย่างสบาย ๆ

บริเวณ Pavillion ที่นั่งพักผ่อนซึ่งจะอยู่ด้านในสุดของสวน แบ่งเป็นสนามเด็กเล่นในร่ม ทำให้เด็ก ๆ สามารถวิ่งเล่นกันได้อย่างเต็มที่โดยไม่ร้อนอีกด้วยครับ

แบบบ้าน : Viller Trends

  • บ้านแฝด 2 ชั้น
  • พื้นที่ใช้สอย : 130 ตร.ม.
  • 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

บ้านหลังแรกที่เราพามาชมกันในวันนี้ จะเป็นแบบบ้านมาตรฐานหรือบ้านเปล่าที่พร้อมส่งมอบให้กับลูกบ้านเลยครับ เป็นแบบบ้านแฝดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของทางโครงการ มีชื่อแบบบ้านว่า Viller Trends ฟังก์ชันครบแบบ 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ และจอดรถได้ 2 คัน บริเวณที่จอดรถจะเป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบมาให้ และพื้นที่ด้านข้างบ้านที่ได้มาแบบกว้างมากได้อารมณ์บ้านเดี่ยว สามารถจัดสวนขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ หรือจะต่อเติมทำเป็น Glass House ไว้ปลูกพืชผักสวนครัวแบบไฮโดรโปนิกส์ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งทางโครงการได้ปูหญ้ามาตรฐานไว้ให้ครับ 

ประตูทางเข้าหลักของตัวบ้าน เป็นประตูกระจกบานสไลด์ครับ เปิดเข้ามาถึงก็จะเจอกับพื้นที่ Open Plan ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ Living และ Dining ก่อนเลย ส่วนทางฝั่งของพื้นที่วางโซฟา สำหรับแบบบ้านนี้ สามารถวางเป็นชุดขนาด 2-3 ที่นั่งได้ลงตัวครับ พื้นที่ด้านหน้าโซฟา เหลือระยะห่างไปจนถึงฝั่งชั้นวางทีวีค่อนข้างเยอะ สามารถเพิ่มโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ โดยยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้คล่องตัว หรือจะใช้ทำกิจกรรม เล่นเกม ยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายต่าง ๆ ก็สะดวกครับ

ติดกับประตูทางเข้า จะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ผนังฝั่งนี้ก็สามารถบิลต์อินทำเป็นชั้นวางทีวีได้เลย หรือจะวางเป็นชั้นแบบลอยตัวก็เหมาะครับ พื้นที่ตรงจุดนี้จะเข้ามุมมาให้แบบพอดีเลย สามารถใส่จอทีวีขนาดใหญ่ได้ครับ ระยะการรับชมถือว่าห่างจากฝั่งพื้นที่วางโซฟาได้มาตรฐาน ไม่ใกล้จอจนเกินไปแน่นอน

ติดกันกับฝั่งของชั้นวางทีวี จะเป็นห้องน้ำชั้น 1 ครับ ภายในห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์พื้นฐานมาครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และ Hand Shower สามารถใช้งานรองรับแขกก็ได้ หรือจะแบ่งใช้งานเป็นห้องอาบน้ำส่วนตัวของสมาชิกในบ้านเลยก็ได้ครับ เนื่องจากบ้านหลังนี้ได้ฟังก์ชันมา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำนั่นเอง

ถัดเข้าไปด้านในสุด เชื่อมต่อมาจากพื้นที่ Living มุม Dining ตรงนี้ สามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้อย่างลงตัวเลยครับ เหลือพื้นที่รอบ ๆ โต๊ะให้สามารถลุกเดินเข้า-ออกได้สะดวก พร้อมเชื่อมต่อกับโซนหลังบ้านที่สามารถทำเป็นครัวไทยได้เลย

ติดกันกับส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร จะเป็นครัวปิดของตัวบ้านนั่นเองครับ ภายในสามารถออกแบบบิลต์อิน ทำเคาน์เตอร์ครัวเป็น L-Shape ได้เลย มีพื้นที่เพียงพอให้วางตู้เย็น, เตา และซิงก์ล้างจานได้แน่นอน ฝั่งผนังด้านบนก็สามารถเพิ่มเป็นตู้หรือชั้นวางของเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้เลยครับ ด้านข้างจะมีบานประตูกระจกแบบสไลด์ไว้เปิดระบายอากาศ พร้อมเชื่อมต่อกับส่วนด้านหลังบ้าน สามารถจะเพิ่มเติมครัวไทยตรงนี้แทนก็ได้นะครับ สำหรับใครที่ทำอาหารที่ต้องใช้ครัวหนักเป็นประจำ หรือจะใช้วางพวกเครื่องซักผ้าก็ได้เช่นกัน

ขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้านกันครับ บริเวณโถงบันไดจะมีช่องแสงด้านล่างอยู่ 1 จุดทำให้โถงดูสว่าง ไม่มืดทึบในเวลากลางวัน ในส่วนของตู้ Load Center จะอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ ที่มาพร้อมระบบ Air Flow ช่วยระบายอากาศภายในบ้านด้วยครับ

โซนพักผ่อนจะแบ่งเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง เราจะเข้าไปดูห้อง Master Bedroom ทางซ้ายมือกันก่อนเลยครับ ตัวห้องภายในขนาดใหญ่ทีเดียวครับ จัดแบ่งสัดส่วนการใช้งานมาได้อย่างดีอีกด้วย โดยเมื่อเราเปิดประตูห้องเข้ามา เราก็จะเข้ามายืนอยู่บริเวณพื้นที่พักผ่อนก่อนเลยครับ

พื้นที่ตรงนี้จะสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้เลย โดยยังเหลือพื้นที่รอบ ๆ ให้สามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่ได้ทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเพิ่มตู้หรือชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้ จัดมุมโต๊ะทำงานก็ยังได้ หรือจะเพิ่ม Partition กั้นปลายเตียงสำหรับแขวนทีวีก็ยังได้ เพราะพื้นที่ฝั่งปลายเตียง หรือทางขวามือจากประตูทางเข้า จะเป็นพื้นที่ที่ออกแบบเอาไว้ให้ สำหรับทำเป็น Walk-in Closet นั่นเองครับ เราสามารถบิลต์อิน Partition เพิ่มเติมเพื่อทำให้พื้นที่มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมเองได้

ส่วนห้องน้ำภายในของห้อง Master Bedroom ก็อยู่เชื่อมต่อกันกับมุม Walk-in Closet เลยครับ รับรองว่าใช้งานหยิบเสื้อผ้าหรือแต่งตัวก็สะดวก ภายในห้องน้ำลักษณะแปลนการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ จะคล้ายกันกับห้องน้ำชั้น 1 ครับ จะได้ส่วน Shower แบบเข้ามุม มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์พื้นฐานครบครันเช่นเดียวกันครับ

ไปต่อกันที่ Bedroom 2 ที่อยู่ตรงข้ามกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ครับ เป็นห้องนอนขนาดรอง ที่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในที่ใส่ฟังก์ชันได้ครบครัน ขนาดพื้นที่ภายในรองรับเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้ครับ พร้อมหน้าต่างบานสไลด์มาให้ 2 บาน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งยิ่งขึ้น พื้นที่รอบเตียงเหลือให้สามารถใส่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่, โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวีได้ครับ

และห้องสุดท้ายที่ติดกับบันได คือ Bedroom 3 หรือ Multipurpose Room ที่ภายในสามารถใส่เตียงขนาด 3-3.5 ฟุตได้ครับ สามารถวางตู้เสื้อผ้า 2 บานข้างเตียงได้พอดี ปลายเตียงสามารถแขวนทีวีเพิ่มเติมได้ครับ มีเอาไว้สำรองเป็นห้องนอนรับแขก หรือเอาไว้ใช้เป็นห้องนอนที่รองรับสมาชิกครอบครัวในอนาคตก็ได้ครับ

ส่วนห้องน้ำของชั้น 2 ตัวห้องน้ำจะเป็นแบบแปลนตอนลึก ด้านในได้ฟังก์ชันมาครบครันเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างครับ สมาชิกที่อยู่อาศัยใน Bedroom 2 และ Bedroom 3 ก็สามารถใช้ห้องน้ำห้องนี้ร่วมกันได้เลยครับ

แบบบ้าน : VILLER II

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น
  • พื้นที่ใช้สอย : 130 ตร.ม.
  • 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

มาดูที่อีกแบบบ้านกันบ้างครับ สำหรับใครที่สนใจเป็นแบบทาวน์โฮม ซึ่งหลังนี้เป็นทาวน์โฮมขนาดใหญ่ที่สุดของทางโครงการและเป็นแบบบ้านมาตรฐานเช่นเดียวกันครับ ชื่อแบบบ้านว่า VILLER II ขนาดพื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตรเช่นเดียวกัน มาพร้อมฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 

จุดเด่นของทาวน์โฮมหลังนี้คือกำแพงที่แยกออกจากกันอย่างอิสระ ทำให้ตัวบ้านได้ช่องแสงและความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น แถมยังได้พื้นที่สวนข้างบ้านมาอีกด้วยครับ ใครที่อยากได้บ้านขนาดเริ่มต้น อยู่อาศัย 1-2 ท่าน ต้องการพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้เดินเล่น หรือได้ปลูกต้นไม้เพิ่มสักหน่อย น่าจะถูกใจทาวน์โฮมหลังนี้กันอย่างแน่นอนครับ

เริ่มต้นจากพื้นที่ชั้น 1 กันก่อนเลย ประตูทางเข้าหลักได้เป็นแบบประตูกระจกบานสไลด์เช่นเดียวกันครับ แปลนภายในถือว่ามีความใกล้เคียงกันกับแบบบ้านแฝด Viller Trends เลยครับ เปิดเข้ามาเราก็จะเจอกับพื้นที่ Open Plan ก่อนเลย บันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ติดประตูทางเข้าเช่นเดียวกันครับ

พื้นที่ Living หรือห้องนั่งเล่นรับแขก รองรับโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้กำลังดี สามารถใส่โต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้ โดยไม่รบกวนพื้นที่ทางเดิน ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามก็สามารถบิลต์อินเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้เลยครับ เนื่องจากตำแหน่งทางเข้าของห้องน้ำชั้น 1 จะไปอยู่ในส่วนพื้นที่ของครัวแทน ทำให้สามารถออกแบบชั้นวางทีวีที่กว้างขึ้นได้

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ Dining ที่รองรับสำหรับการวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้ ด้านข้างติดกัน จะเป็นประตูทางออกเชื่อมไปยังสวนด้านนอก สามารถเปิดรับวิวได้แบบชิล ๆ เลยครับ

หันมาที่อีกฝั่งก็จะเป็นส่วนของพื้นที่ครัวนั่นเอง บ้านจริงทางโครงการไม่ได้กั้นพื้นที่มาให้ครับ หากต้องการใช้งานเป็นครัวปิดก็สามารถเพิ่มเติม Partiton ได้เองเลย พื้นที่ครัวสามารถบิลต์อินเคาน์เตอร์ครัว L-Shape ได้เลยครับ สามารถวางตู้เย็น เตา และซิงก์ล้างจานได้อย่างลงตัว เหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารให้ใช้งานได้แบบสบาย ๆ

ด้านข้างได้บานหน้าต่างระบายอากาศ และประตูเปิดออกเชื่อมลานซักล้าง ด้านนอกสามารถใช้วางพวกเครื่องซักผ้าได้เลยครับ

ส่วนห้องน้ำของชั้น 1 ภายในก็จะได้ฟังก์ชันมาครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์พร้อม Low Wall ไว้วางพวกขวดแชมพู ครีมอาบน้ำและติดตั้ง Hand Shower สามารถใช้งานอาบน้ำได้เลย ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องใช้งานห้องน้ำพร้อม ๆ กัน อย่างเช่นช่วงเช้าก็ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดีครับ

กลับมากันตรงบริเวณบันไดชั้น 1 กันครับ ตรงผนังด้านหลังที่ติดกับฝั่งที่วางทีวีจะเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ สามารถบิลต์อินชั้นวางของด้านในได้เลยครับ เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย ๆ อย่างพวกอุปกรณ์การช่างต่าง ๆ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ เลย

บริเวณโถงบันไดชั้น 2 ซ้ายมือก็จะเจอกับ Bedroom 3 และ Bedroom 2 ห้องน้ำส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน

โดยชั้นนี้จะได้ห้องน้ำมา 1 ห้อง ซึ่งจะเชื่อมเข้าได้ทั้งจากโถงบันไดและ Master Bedroom และด้วยเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้งานร่วมกัน ทางโครงการจึงออกแบบให้ห้องน้ำมีขนาดที่ใหญ่ เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น ภายในก็ได้ชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้น 1 ครับ

ไปดูห้องนอนแรกกันก่อนเลยกับ Master Bedroom ตัวห้องด้านหน้าติดประตูทางเข้าจะเป็นเสมือน Foyer ที่อยู่เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่เป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ให้เราสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นพื้นที่วางเตียงขนาดใหญ่ ที่เราสามารถบิลต์อิน Partition เพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้งานเพิ่มเติมได้ สำหรับพื้นที่วางเตียง ก็รองรับเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตคิงไซซ์ได้สบาย ๆ ครับ หัวเตียงสามารถวางเป็นโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง 

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็สามารถเพิ่มทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน ดูทีวี เพิ่มเป็นโต๊ะทำงานก็ยังได้ครับ หรือถ้าใครที่มีชุดเสื้อผ้าเยอะ ก็สามารถเพิ่มเป็น Walk-in Closet ตรงนี้ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราเลย

ในส่วนของห้องนอน Bedroom 2 และ Bedroom 3 จะมาในไซซ์ที่เท่ากันทุกประการเลยครับ ตัวห้องจะอยู่ติดกัน อยู่ฝั่งด้านหลังของตัวบ้าน ภายในรองรับเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ลงตัว พื้นที่รอบเตียงสามารถวางได้ทั้งโต๊ะหัวเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวี ใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานได้ครบแน่นอนครับ สำหรับครอบครัวที่มีลูก ๆ ก็สามารถให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองได้เลยครับ

และห้องสุดท้าย Bedroom 3 ภายในรองรับเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดี หรือถ้าใครอยากจะปรับตัวห้องนอนรองเป็นห้องสำหรับใช้งานอเนกประสงค์อื่น ๆ ก็สามารถออกแบบได้ตามฟังก์ชันที่ต้องการเลย โดยโครงการรองรับบ้านทุกขนาด เหมาะตั้งแต่ผู้ที่อยู่อาศัยคนเดียวไปจนถึงครอบครัวขนาดกลางได้เลยครับ

ทำเลที่ตั้ง

โครงการตั้งอยู่ในทำเลมหิดล-ศาลายา สะดวกสบายเรื่องการเดินทาง อยู่ใกล้กับถนนเส้นทางสำคัญทั้งถนนพุทธมณฑลสาย 5, ถนนบรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) หรือทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี, ถนนเพชรเกษม, ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฯ ที่เชื่อมโยงได้ทุกจุดหมาย หรือจะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ โครงการก็อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคตสายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑลสาย 4 และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน สถานีศาลายา สิ่งอำนวยความสะดวกรอบย่านครบครัน เพียง 10 นาที* ก็สามารถเข้าถึง Central ศาลายาได้เลย และตลาดน้ำชื่อดังอย่างตลาดน้ำดอนหวาย นอกจากนี้ก็ยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์และมหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย 

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ

สรุป

โครงการ เดอะ แพลนท์ & เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น ฟังก์ชันสูงสุด 3 ห้องนอน ทำเลซอยวัดไร่ขิง 42 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อยู่ใกล้กับถนนหลักสายสำคัญ เดินทางด้วยรถส่วนตัวเข้า-ออกเมืองได้ง่ายดาย ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งสายสีน้ำเงินและสายสีแดงอ่อน เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้รวดเร็วและสะดวกสบาย ไลฟ์สไตล์ใกล้ Central ศาลายาและมหาวิทยาลัยมหิดล เหมาะมากสำหรับผู้ที่ทำงานหรือเรียนในย่านนี้ครับ โครงการรองรับบ้านทุกขนาด เหมาะตั้งแต่ผู้ที่อยู่อาศัยคนเดียวไปจนถึงครอบครัวขนาดกลางครับ

#Homeday #พฤกษา #Pruksa #เดอะแพลนท์ #ThePlant #เนเชอร่าเทรนด์ #NaturaTrend #เดอะแพลนท์เนเชอร่าเทรนด์ปิ่นเกล้าสาย5 #ThePlantNaturaTrendPinkaoSai5 #รีวิวเดอะแพลนท์เนเชอร่าเทรนด์ปิ่นเกล้าสาย5

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด