The Palm (copy)

ไตรมาส 3 บ้าน-คอนโดขายได้ใหม่หดตัวหนัก ซัพพลายเปิดใหม่ลดลง 14.8%

REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดผลสำรวจที่อยู่อาศัยไตรมาส 3/66 ยอดขายได้ใหม่หดตัวหนัก กทม.-ปริมณฑล จำนวนหน่วย -9% มูลค่า -12% ขณะที่ซัพพลายเปิดใหม่ลดลง 14.8% ลุ้นตลาดฟื้นตัวปีหน้า

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า อุปทานที่อยู่อาศัยในประเทศไทย จากข้อมูลการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน พบว่าไตรมาส 3 ปี 2566 มีจำนวนหน่วยที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ 17,087 หน่วย ลดลง 48.7 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และเป็นการขยายตัวติดลบเป็นไตรมาสแรกในรอบ 7 ไตรมาส โดยคาดว่าปี 2566 จะมีออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศจำนวน 79,232 หน่วย ลดลง 13 .6 % เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศจำนวน 91,689 หน่วย

ขณะที่ในด้านของการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย พบว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-ส.ค.66) มีจำนวนพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้างทั่วประเทศ 25,756,920 ตร.ม. ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับ 8 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ส.ค.65) ที่มีจำนวนพื้นที่ก่อสร้าง 26,253,998 ตร.ม. ซึ่งในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 พบว่าพื้นที่ก่อสร้างโครงการแนวราบลดลง 3.9 % ขณะที่พื้นที่ก่อสร้างอาคารชุด เพิ่มขึ้น 27.5 % ส่วนทั้งปี 2566 มีการคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้างทั่วประเทศประมาณ 36,326,225 ตร.ม. ลดลง 9 % โดยในส่วนของพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้างแนวราบทั่วประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 33,341,208 ตร.ม. ลดลง10 % และพื้นที่การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดทั่วประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 2,985,017 ตร.ม. เพิ่มขึ้น 4.6%

9 เดือนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ลด 20.3%

ดร.วิชัย กล่าวอีกว่า หากพิจาณาแยกเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่า 9 เดือนแรกของปี 2566 พื้นกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 65,101 หน่วย ลดลง 20.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากพิจารณาในเชิงมูลค่า พบว่าที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่า 376,324 ล้านบาท  3.3 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะที่ข้อมูลในรายไตรมาส พบว่าในไตรมาส 3 ปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 20,369 หน่วย ลดลง14.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อยู่ที่ 166,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

มูลค่าขายใหม่ไตรมา3/66 หดตัวแรง

สำหรับด้านอุปสงค์พบว่า  ในไตรมาส 3 ปี 2566 มีจำนวนหน่วยและมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีจำนวน 94,946 หน่วย ลดลง 7.0% และ 267,655 ล้านบาท ลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่ขายได้ใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 18,392 หน่วย ลดลง -9.1% และ 99,428 ล้านบาท ลดลง -12.2% ตามลำดับ

บ้าน-คอนโดราคาเกิน 7.5 ล้านขยายตัวมากสุด

ส่วนภาพรวมอุปสงค์ 9 เดือนของปี 2566 หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงมีจำนวน 270,650 หน่วย ลดลง  4.2% แต่มีมูลค่าจำนวน 766,791 ล้านบาท เพิ่ม 1.6% โดยพบว่า กลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้โอนกรรมสิทธิ์ใหญ่ที่สุดที่มีหน่วยการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงระหว่าง 5.9% ถึง 8.8% ขณะที่กลุ่มบ้านระดับราคาเกินกว่า 3  ล้านบาทขึ้นไปมีการขยายตัวสูง โดยที่อยู่อาศัยในระดับราคาเกินกว่า 7.5 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มราคาที่มีหน่วยและมูลค่าขยายตัวมาก นอกจากนี้ ผลเบื้องต้นจากการสำรวจภาคสนาม   ยังได้พบว่า หน่วยและมูลค่าขายได้ใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ปรับตัวลดลง 24.7% และ 21.0% ตามลำดับ

การชะลอตัวของอุปสงค์ได้กดดันให้อุปทานที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวลดลงโดยพบว่า ภาพรวมอุปทาน         9 เดือนของปี 2566 จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่ได้รับใบอนุญาตจัดสรรลดลง 16.4% และพื้นที่ที่ได้รับใบอนุญาตปลูกสร้างใน 8 เดือนแรกลดลง 1.9% ซึ่งพบว่า อุปทานที่มีการปรับตัวลดลงนั้นเป็นประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่สอดคล้องกับทิศทางของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่มุ่งเน้นที่อยู่อาศัยในระดับราคาสูง เนื่องจากผู้ซื้อเป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อที่ดี และสามารถได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายกว่าที่อยู่อาศัยระดับราคาต่ำถึงปานกลาง

สำหรับทิศทางในปี 2567 หากรักษาโมเมนตั้มได้ต่อเนื่อง คาดว่าหน่วยและมูลค่าโอน มีโอกาสขยายตัว 4.0% และ 4.6% โดยคาดว่าปี 2567 จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ 392,936 หน่วย มูลค่า 1.114 ล้านล้านบาท โดยสัดส่วนบ้านแนวราบยังมีสูงอยู่ที่ 70% อาคารชุด 30% และด้านซัพพลายจะเริ่มกลับมาขยายตัว 2-4% อีกครั้ง เพื่อรองรับการขยายตัวของดีมานด์ที่คาดว่าจะสูงขึ้น

ดร.วิชัย ให้ความเห็นว่า  เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 2566 ได้สะท้อนว่าสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาพรวมทั่วประเทศ มีอุปสงค์ที่อยู่อาศัยในตลาดปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการปรับตัวลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากความสามารถของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลางถึงราคาต่ำ ซึ่งได้ส่งผลให้มีการปรับตัวลงของปริมาณอุปทานที่อยู่อาศัยในตลาดในปี 2566 ที่ชัดเจน โดยจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่อยู่อาศัยราคาปานกลางค่อนข้างสูง ถึงราคาสูง เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความพร้อมในการขอสินเชื่อมากกว่า และส่งผลให้ปริมาณอุปทานที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ลดลงในขณะที่มูลค่าไม่ได้ลดลงและกลับเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่า ผู้ประกอบการเริ่มมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปัจจุบันมีอุปทานคงค้างมาก และมีการแข่งขันกันสูง จึงมองการขยายตัวไปสู่พื้นที่ภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ และจังหวัดท่องเที่ยวที่มีเศรษฐกิจดี

จีนยังครองแชมป์โอนคอนโดมากสุด 2.47 หมื่นล้าน

สำหรับสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 3 ปี 2566 พบว่า มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 3,365  หน่วย มูลค่า  17,048 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11.6% และ 21.1% ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด โดยมีการขยายในเชิงจำนวนหน่วย เพิ่มขึ้น 0.4% แต่ในเชิงมูลค่าลดลง 2.0% 

ในภาพรวมของ 9 เดือนของปี 2566 มีจำนวนหน่วยและมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 10,703  หน่วย มูลค่า 52,259 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.6% และ 23.3% ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีการขยายในเชิงจำนวนหน่วยและมูลค่า เพิ่มขึ้น 37.6% และ 31.6% ตามลำดับ

สำหรับ 5 อันดับแรกลูกค้าต่างชาติรับโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 9 เดือนแรก มีดังนี้

            อันดับ 1 คือ สัญชาติจีนยังคงซื้อห้องชุดมากที่สุดเป็น จำนวน 4,991 หน่วย มูลค่า 24,740 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 39.2 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 5.0 ล้านบาท/หน่วย

            อันดับ 2 คือ รัสเซีย  จำนวน 962 หน่วย มูลค่า 3,436 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 42.6 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 3.6 ล้านบาท/หน่วย

            อันดับ 3 คือ สหรัฐอเมริกา  จำนวน 422 หน่วย มูลค่า 2,102 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 55.5 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 5.0 ล้านบาท/หน่วย

            อันดับ 4 คือ ไต้หวัน  จำนวน 378 หน่วย มูลค่า 1,841 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 40.1 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 4.9 ล้านบาท/หน่วย และ

            อันดับ 5 คือ สหราชอาณาจักร  จำนวน 372 หน่วย มูลค่า 1,813 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 56.7 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 4.9 ล้านบาท/หน่วย

นอกจากนี้ พบว่า ผู้รับโอนฯ สัญชาติพม่ารับโอนฯห้องชุดมีจำนวนหน่วยเป็นอันดับ 7 จำนวน 347 หน่วย แต่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 มูลค่า 2,250 ล้านบาท โดยมีการซื้อขนาดพื้นที่เฉลี่ย 51.4 ตร.ม/หน่วย และมีราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาท/หน่วย

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติมากสุดคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และระยอง

ดร.วิชัย ได้กล่าวสรุปว่า คนต่างชาติยังให้ความสนใจต่อการซื้ออสังหาฯในประเทศไทย ห้องชุดยังคงเป็นที่ต้องการของคนต่างชาติ ดังจะเห็นได้ว่า จำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาสูงกว่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 แล้ว และมีสัดส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพิ่มเป็น 11.6% และ 21.1% ของทั้งหมด ขณะที่ในช่วงก่อนหน้า มีสัดส่วนของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ไม่เกิน 10% และมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ไม่เกิน 15% ของทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้น หากการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาเต็มที่ เชื่อว่าตลาดอาคารชุดจะได้รับความสนใจของคนต่างชาติมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ :

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
“ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ส่งมอบรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีให้กับลูกค้า มั่นใจ แม้ดูรถไม่เป็น ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองคุณภาพดีได้
อสังหาฯ เดือด BAM ลดหนักจัดเต็ม FLASH SALE 7.7
ข่าวสาร
พรีโม ผนึก 3 พันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ มอบสิทธิพิเศษซ่อมห้องชุด ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน* ตอกย้ำ Primo Care เคียงข้างคุณด้วยความใส่ใจ
ข่าวสาร
BAM ร่วมกับ ปันกัน สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ในกิจกรรม “BAM x ปันกัน ปันของรัก ส่งน้องเรียน”
ข่าวสาร
SAM “ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ร่วมออกบูท “มันนี่ เอ็กซ์โป หาดใหญ่” จัดโปรฯเด่นทรัพย์มือสองฟรี! ค่าโอน และ“คลินิกแก้หนี้ by SAM”ช่วยแก้หนี้สารพัดบัตร
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..