สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาคอนโด ควรจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง นอกจากของเรื่องราคา และทำเล เพื่อให้คอนโดที่เราต้องการซื้อนั้น ตอบโจทย์ชีวิตเราได้เป็นอย่างดี วันนี้แอดมินจะขอนำเสนอ เรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. ดีไซน์ภายในห้องของคอนโด
- ห้องแบบสไตล์ Loft จะมีเพดานห้องสูงถึง 4 เมตรขึ้นไป จะมีพื้นที่ชั้นลอยขนาดเล็ก โดยอาจจะตกแต่งชั้นลอยนี้ให้เป็นห้องนอนก็ได้ โดยพื้นที่ชั้นลอยนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าพื้นที่ชั้นล่าง เช่น พื้นที่ลอย 15 ตร.ม. พื้นที่ชั้นล่าง 40 ตร.ม.ข้อดี คือ เราจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น และจ่ายค่าส่วนกลางในส่วนของพื้นที่ 40 ตร.ม.เท่านั้น แต่พื้นที่ชั้นลอยนั้นอาจจะไม่ได้แข็งแรงมากเท่าพื้นที่ชั้นล่าง
- ห้องแบบ Simplex จะเป็นห้องแบบปกติที่เราเห็นโดยทั่วไป มีความสูงของเพดานห้องเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5-2.8 เมตร
- ห้องแบบ Duplex ห้องแบบนี้จะคล้ายกับบ้าน 2 ชั้นเลย โดยมีเพดานสูงตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป โดยเพดานของชั้นล่าง และชั้นบนจะใกล้เคียงกัน มีความแข็งแรงของวัสดุมากกว่าแบบ Loft จึงทำให้ต้องเสียค่าส่วนกลางแพงกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดที่มีพื้นที่เหมือนบ้าน
2. คอนโด Pre-Sale กับ คอนโดพร้อมอยู่ ต่างกันอย่างไร?
- คอนโด Pre-Sale คือ คอนโดที่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ แต่เปิดให้จอง ในระหว่างการก่อสร้าง โดยเราอาจจะดูจากโมเดลคอนโด แบบแปลนห้อง หรือตัวอย่างห้อง ที่โครงการสร้างขึ้นมาให้เข้าชม เพื่อตัดสินใจเลือก ข้อดี คือ เราจะได้ห้องในราคาที่ถูกกว่า คอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว และในระหว่างโครงการกำลังสร้างเรายังสามารถผ่อนดาวน์กับโครงการ โดยไม่มีดอกเบี้ยจนกว่าคอนโดจะสร้างเสร็จอีกด้วย โดยปกติจะใช้เวลาสร้างเสร็จเฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี ยังพอมีเวลาให้เราหมุนเงินเตรียมค่าใช้จ่ายวันโอน นอกจากนั้นยังสามารถสร้างสถานะการเงิน ให้มีโปรไฟล์สวยๆ เพื่อเตรียมยื่นกู้แบงค์ได้อีกด้วย
- คอนโดพร้อมอยู่ จะเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาที่พักอาศัย พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที เพราะถ้าเราตัดสินใจเลือกโครงการใดแล้ว เมื่อยื่นกู้กับธนาคารผ่าน ก็ตรวจรับห้องโอนกรรมสิทธิ์ และเข้าอยู่ได้ทันที แต่เราอาจจะต้องมีเงินเพียงพอสำหรับค่าโอนกรรมสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายในการจองห้องไว้ด้วย นอกจากนี้บางโครงการก็จะมีของแถม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมตกแต่งบิ้วอิน ทำให้เราแค่หิ้วกระเป๋าก็เข้าอยู่ได้แล้ว ข้อเสียของคอนโดพร้อมอยู่ คือ เราอาจจะ ไม่มีตัวเลือกมากนัก เพราะโครงการอาจจะเปิดขายมาแล้วตั้งแต่ Pre-Sale จึงเป็นไปได้ที่จะเหลือห้องมุมอับ ใกล้ลิฟต์ ใกล้บันได ใกล้จุดทิ้งขยะ ที่หลายๆ คนมักจะไม่ค่อยเลือกซื้อกัน
3. การเลือกทำเลของคอนโด
- โดยดูจากการใช้ชีวิตของเราเป็นหลัก หากเราต้องการความสะดวกสบาย ในการเดินทางก็ต้องทำเลที่ใกล้กับรถไฟฟ้า แต่ยิ่งโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น หรือเราอาจจะลองเลือกคอนโดที่มีระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าออกมาหน่อย อาจจะประมาณ 500-600 เมตร บางโครงการจะมีบริการรถบัสส่งถึงสถานีรถไฟฟ้าด้วย ค่าส่วนกลางก็อาจจะเพิ่มขึ้นมา ให้เราลองคำนวนจากค่าใช้จ่ายว่า ต้องนั่งรถสาธารณะเพิ่มขึ้น แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน
- ดูสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ชีวิตเรา ว่าโครงการอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ที่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น หรือใกล้กับแหล่งบริการสาธารณสุข โรงพยาบาล แค่ไหน และดูเรื่องมลภาวะ เสียงรบกวน กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ มลพิษต่างๆ ความปลอดภัย รวมไปถึงดูทางเข้าออกของโครงการด้วยว่าสะดวกหรือไม่ ซอยคับแคบเกินไปหรือเปล่า ให้เราลองไปสำรวจพื้นที่โครงการนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อ ขอแนะนำว่าให้สลับไปดูทั้งช่วงเช้า กลางวัน และกลางคืนด้วย เพราะที่อยู่อาศัยเราจะต้องอยู่กันไปในระยะยาว ดังนั้นควรดูดีๆก่อนตัดสินใจ
4. ความสำคัญของพื้นที่ส่วนกลาง
- ในทุกๆ โครงการ พื้นที่ส่วนกลางในเบื้องต้น ส่วนมากจะเป็น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Co-working space สวนสาธารณะสีเขียว สิ่งสำคัญเลย เราต้องดูเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยว่ามีอะไรบ้าง บันไดหนีไฟ ระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ จำนวนที่จอดรถ และจำนวนลิฟต์ โดยปกติแล้ว โครงการจะให้ที่จอดรถอยู่ที่ประมาณ 40-50% ของจำนวนยูนิต ซึ่งไม่ควรน้อยกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาที่จอดรถ นอกจากนี้ราคาค่าส่วนกลาง แต่ละห้องจะไม่เหมือนกัน เพราะห้องขนาดใหญ่จะจ่ายค่าส่วนกลางแพงกว่านั่นเอง
ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด ที่เรานำมาฝากกัน ที่สำคัญอย่าลืมแวะเข้าไปดูโครงการจริงเสียก่อน และจดรายละเอียดที่เราต้องการจะทราบ หรือถามพนักงานขายให้เข้าใจ ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง เพราะเราต้องอยู่อาศัย ไปในระยะยาว จะได้ไม่ต้องเสียใจในภายหลัง เราหวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับมือใหม่ทุกท่านที่กำลังมองหาคอนโดนะคะ