The Palm (copy)

อยากซื้อบ้าน แต่ติดเครดิตบูโร แก้ปัญหาอย่างไร?

ปัญหาที่สร้างความกังวลใจ เกี่ยวกับการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านในอันดับต้นๆ ก็คือ การติดเครดิตบูโร ถ้าหากว่ามีการค้างชำระหนี้มาก่อน จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ไหม อันดับแรก เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “เครดิตบูโร” กันก่อนว่า คืออะไร และมีความเกี่ยวข้องกับการขอขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

เครดิตบูโร คือ อะไร

“เครดิตบูโร” คือ “บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัท ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลประวัติของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด สินเชื่อเพื่อบ้าน ผ่อนรถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงประวัติการกู้ ผ่อน จ่ายของเรานั่นเอง ดังนั้นประวัติด้านการเงินของเรา เกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ จะถูกบันทึก และจัดเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติที่ดี หรือประวัติที่ไม่ดีก็ตาม

โดยสถาบันทางการเงินต่างๆ จะนำข้อมูลที่ได้เหล่านี้มาตรวจสอบดูพฤติกรรมการใช้เงิน และวินัยในการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละเดือน เพื่อให้แน่ในว่า เมื่อทางสถาบันทางการเงิน หรือธนาคาร ทำการอนุมัติปล่อยสินเชื่อ ให้กับบุคคลดังกล่าวแล้ว ผู้กู้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามข้อกำหนดในสัญญาการกู้ยืม

นอกจากคำว่า “เครดิตบูโร” แล้วยังมีอีกคำหนึ่งที่มักได้ยินควบคู่กันนั่นก็คือ “แบล็คลิสต์” ซึ่งมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 2 คำนี้ ว่าเป็นคำเดียวกัน มีความหมายเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” เป็นเพียงตัวกลางที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูล เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินให้กับสถาบันต่างๆ ใช้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการปล่อยหรือการอนุมัติสินเชื่อ ให้กับบุคคลที่มาขอยื่นกู้เท่านั้น

แบล็คลิสต์ คือ อะไร

หลังจากที่ได้รู้จักกับ “เครดิตบูโร คือ อะไร” กันไปแล้ว เรามาทำความรู้จักกับคำว่า “Blacklist / แบล็คลิสต์” กันบ้างว่าคำๆ นี้ มีอิทธิพล และส่งผลกระทบอย่างไรกับการปล่อยกู้ หรือการอนุมัติสินเชื่อซื้อบ้านของเราบ้าง

การขออนุมัติสินเชื่อก่อสร้างหรือซื้อบ้านนั้น ทางสถาบันทางการเงิน หรือธนาคารจะดูปัจจัยหลายๆ ปัจจัยประกอบการตัดสินใจ เพราะ “บ้าน” ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ และมีมูลค่าสูง ดังนั้นปัจจัยหนึ่งที่เจ้าหน้าที่จะนำมาใช้ในการพิจารณานั่นก็คือ ข้อมูลจากทาง “เครดิตบูโร”

หากผู้ขอยื่นกู้มีประวัติดี มีวินัยในการชำระหนี้ดี ก็จะมีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติสูง แต่ถ้าหากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ผ่อนชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด รวมถึงมียอดค้างชำระหนี้อยู่ในระบบ ทางสถาบันการเงิน หรือธนาคารย่อมไม่ไว้วางใจในการอนุมัติสินเชื่อดังกล่าว เนื่องจากมีแนวโน้มว่าผู้กู้จะมีหนี้เสีย หรืออาจผิดค้างชำระหนี้จนเกิดปัญหาตามมา

ดังนั้นการติด “แบล็คลิสต์” เป็นเพียงคำนิยามของ “ผู้ที่มีประวัติในการผ่อนชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ได้ตามข้อตกลง” เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีการขึ้นบัญชีรายชื่อในระบบใดๆ

หากติดเครดิตบูโรแล้ว สามารถกู้ซื้อบ้านได้ไหม

จากข้อมูลข้างต้น เราได้ทำความรู้จักการติดเครดิตบูโร และการติดแบล็คลิสต์มาแล้ว เป็นที่ทราบกันแน่นอนว่า ปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารจะใช้พิจารณาอนุมัติปล่อยกู้สินเชื่อซื้อบ้านเป็นอันดับต้นๆ นั่นก็คือ ประวัติธุรกรรมทางการเงิน

ดังนั้นจึงทำให้ผู้ขอยื่นกู้ที่ติดเครดิตบูโร ไม่ได้รับอนุมัติในการขอสินเชื่อดังกล่าว เพราะสถาบันทางการเงิน หรือธนาคาร จะมองในภาพรวม ว่ายังไม่มีความพร้อมในการขอสินเชื่อซื้อบ้านในครั้งนี้ รวมถึงพฤติกรรมที่บ่งบอก ว่าไม่มีวินัยในการผ่อนชำระหนี้ในอนาคตมากพอ อีกทั้งยังมีแนวโน้ม ที่จะผ่อนชำระหนี้ ไม่ตรงตามข้อกำหนดอีกด้วย

แต่ก็ใช้ว่าผู้ที่มีประวัติในการติดเครดิตบูโรแล้ว จะไม่มีโอกาสในการขอสินเชื่อ เพียงแต่ว่าจะต้องทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เสร็จสินเสียก่อน จึงจะทำการขอยื่นกู้สินเชื่ออีกครั้งได้ค่ะ

ขั้นตอนการแก้ปัญหาเมื่อติดเครดิตบูโร ก่อนทำการกู้ซื้อบ้าน

สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหา ในการขออนุมัติสินเชื่อซื้อบ้านไม่ผ่าน เนื่องจากติดเครดิตบูโร วันนี้เรามีทางวิธีการแก้ไข มาแนะนำค่ะ

1. เราต้องรู้จักสถานะทางบัญชีในเครดิตบูโรของเราก่อน

รายงานข้อมูลเครดิตนั้น จะทำการเก็บข้อมูลของเราย้อนหลังไปทั้งหมด 36 เดือน (หรือ 3 ปี) ว่าเรามีประวัติทางการเงินอย่างไรบ้าง และมีสถานะทางการเงินในบัญชีเป็นอย่างไร โดยให้เราดูที่ตัวเลขที่กำกับไว้ คือ

  • ตัวเลข 10 ความหมาย คือ มีสถานะปกติ โดยเจ้าของบัญชี มีการชำระสินเชื่อตามจำนวนยอดเงินปกติ ตรงตามเงินไข และไม่มียอดค้างชำระ
  • ตัวเลข 11 ความหมาย คือ มีสถานะปิดบัญชีโดยเจ้าของบัญชีได้ทำการชำระหนี้ตามยอดค้างหมดแล้ว
  • ตัวเลข 12 ความหมาย คือ มีสถานะในการพักชำระหนี้โดยเจ้าของบัญชี ได้ทำการขอพักชำระหนี้ที่เคยมียอดค้างชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ ซึ่งทำให้สถานะในระหว่างการพักชำระหนี้ ไม่ปรากฏในระบบ ว่ามียอดค้างชำระ
  • ตัวเลข 20 ความหมาย คือ มีสถานะในการค้างชำระหนี้ในระบบเกิน 90 วันซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียต่อเจ้าของบัญชี เนื่องจากมียอดค้างชำระหนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และหากเจ้าของบัญชี ไม่ทำการติดต่อขอชำระหนี้ อาจถูกดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอีกด้วย

ฉะนั้นแล้วผู้ที่ติดเครดิตบูโร ควรทำการตรวจเช็คสถานะบัญชีตัวเองให้ทราบแน่ชัดเสียก่อน เพื่อทำการวางแผน และจัดการแก้ไขในลำดับต่อไป โดยเราสามารถทำการตรวจสอบสถานะเครดิตบูโรของเราเองเพียง 15 นาที ตามสถานที่ด้านล่างนี้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ 100 บาท

1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 2 
2. อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ปากซอยสุขุมวิท 25
3. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
4. ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 4
5. อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
6. CITI Advance สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เมกา บางนา

2. วางแผน และจัดการด้านการเงิน

หลังจากที่เราทำการเช็คสถานะบัญชีเครดิตบูโรของเราเรียบร้อยแล้ว จากนั้นทำการคำนวณ และวางแผนในการผ่อนชำระหนี้คงค้างทั้งหมดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเปลี่ยนสถานะให้กลับมาเป็นบัญชีปกติ โดยเริ่มจากการขอพักชำระหนี้ ชำระหนี้ตามจำนวนขั้นต่ำ หรือมากว่า เพื่อปิดบัญชี ให้ไม่มียอดค้างในระบบ

3. วางแผนก่อนการขอยื่นกู้

สร้างเครดิต เช่น การขอสินเชื่อบัตรเครดิต ที่จำเป็นต้องใช้ โดยทำการชำระเต็มวงเงิน หรือตามข้อตกลงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดชำระ หรือขอยื่นกู้ร่วมกับคนในครอบครัวที่มีประวัติเครดิตบูโรที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ ก็เป็นอีกทางเลือกค่ะ

เชื่อว่าหลายคน คงเข้าใจแล้วว่า เครดิตบูโร คืออะไร ดังนั้นก็ควรจัดการวางแผนด้านการเงินของเราให้ดี เพื่อให้การขอสินเชื่อผ่านการอนุมัติได้โดนง่าย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และแนวทางการแก้ปัญหา ให้กับทุกท่านที่กำลังเผชิญกับเรื่องของการขอสินเชื่ออยู่นะคะ

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
บี.กริม เพาเวอร์ ปิดดีลซื้อกิจการ “Apulia Green Energy” รุกคืบธุรกิจกักเก็บพลังงานในอิตาลี
ข่าวสาร
Klink Advanced Technology ผนึกกำลัง BYD – Solis – Trina Solar จัดงาน “Solar + Battery = Real Saving” เปิดฉากการปฏิวัติพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย
ข่าวสาร
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ “รังสิต” ศักยภาพพุ่ง รับการเติบโตปี 68 ดันดีมานด์แนวราบ พร้อมเปิดเกมรุกด้วยบ้านคุณภาพตอบโจทย์ Real Demand
ข่าวสาร
ททท. ผนึกกำลัง KTC กระตุ้นท่องเที่ยวหน้าฝนผ่านแคมเปญ “Isan Greencation” พร้อมหนุนท่องเที่ยวอีสานเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
ข่าวสาร
ศุภาลัย ส่งโปรฯ แรงกลางปี “ยิ้ม ยืด ยาว” ช่วยผ่อนยาว 36 เดือน เติมรอยยิ้มคนอยากมีบ้าน พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท*
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..