โครงการบ้านที่ดี ควรดูอะไรบ้าง?

           ใครที่กำลังเตรียมตัวซื้อบ้าน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เลือกซื้อจากแค่เฉพาะแบบบ้านและทำเลที่ชอบเท่านั้นนะคะ เพราะการซื้อบ้านกับแต่ละโครงการ แต่ละแบรนด์บ้านนั้น มีเรื่องที่ต้องดูละเอียดลึกซึ้งอีกเยอะเลยค่ะ เพราะหากตัวบ้านดี ทำเลโดน แต่สังคมภายในหมู่บ้านไม่ดี ไม่มีการดูแลการจัดการที่เหมาะสม ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นเดียวกันค่ะ วันนี้ Homeday เลยจะมาแนะนำวิธีเช็กโครงการบ้านที่ดี ว่าต้องดูจุดไหนบ้าง เพื่อให้เราสามารถนำเช็กลิสต์เหล่านี้ ไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านได้เลยค่ะ

1. ความน่าเชื่อถือของโครงการ

           โครงการที่น่าเชื่อถือ ในที่นี้หมายถึง โครงการจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดตัวเป็นจำนวนมาก พบเห็นผ่านตา ได้ยินชื่อเสียงบ่อย ๆ ได้แก่ พฤกษา, แสนสิริ, เอพี, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ศุภาลัย, อนัดดา, ควอลิตี้ เฮ้าส์, แอล.พี.เอ็น., พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, ออริจิ้น เป็นต้น หากเป็นโครงการจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่มีจำนวนการเปิดตัวน้อย หรือไม่เป็นที่รู้จัก ก็อาจมีความเสี่ยงได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโครงการเหล่านั้นจะเป็นโครงการที่ไม่ดีเสมอไปนะคะ

2. วัสดุก่อสร้างและการตกแต่ง

           ในเรื่องของงานโครงสร้างต่าง ๆ จุดนี้อาจจะสำรวจคุณภาพด้วยตาเปล่าของเราเองได้ค่อนข้างยากค่ะ แต่หากเป็นพวกคุณภาพของพื้น บันได บานประตู บานหน้าต่าง งานบิลต์อิน ชุดสุขภัณฑ์ หรือสิ่งที่เราสามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ตรงนี้ดูได้ค่อนข้างง่ายค่ะ หากเราไม่มีความรู้ หรือดูด้วยตัวเองไม่เป็นจริง ๆ ในตอนที่เข้าไปเยี่ยมชมบ้าน อาจพาผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เข้าไปดูบ้านพร้อม ๆ กับเราด้วยก็ได้ค่ะ

3. ทำเลที่ตั้ง

           ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะทำเลต้องใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งไลฟ์สไตล์เท่านั้นนะคะ ในเรื่องของการตั้งอยู่ใกล้ขนส่งมวลชน ใกล้ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งค่ะ แต่เราต้องดูลึกไปถึงภาพรวมในแต่ละช่วงเวลาด้วย เช่น ในตอนเช้าการจราจรโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง ช่วงเวลากลางคืนเปลี่ยวหรือไม่ สังคมโดยรอบเป็นอย่างไรบ้าง ถนนหนทางเป็นอย่างไร และอื่น ๆ เพราะแม้เราจะได้โครงการที่ตั้งอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากแค่ไหน แต่ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ นั้นไม่เอื้ออำนวยสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาว ก็อาจต้องลองมองหาทางเลือกอื่นแทนค่ะ

4. ความเป็นส่วนตัว

  • รอบโครงการ : ให้ดูว่าโครงการของเรา ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ที่ผู้คนผ่านสัญจรไปมาตลอดทั้งวันหรือเปล่า เช่น ใกล้กับห้างสรรพสินค้า วัด โรงเรียน สถานบันเทิง ตลาด และอื่น ๆ หากสำรวจดูแล้ว ต้องมาพิจารณาอีกทีจากความรู้สึกส่วนบุคคลค่ะ ว่าระยะนั้นใกล้ไปสำหรับเราหรือเปล่า จะเกิดเสียงรบกวนทั้งในเรื่องของรถที่ผ่านไปมา หรือมีเสียงผู้คนจอแจมากไปหรือไม่ หากผู้อยู่อาศัยต้องการความสงบ โครงการดังกล่าวก็อาจไม่เหมาะกับเราค่ะ แต่หากไม่ได้ซีเรียสเรื่องความสงบมากนัก ก็ตัดข้อนี้ทิ้งไปได้เลยค่ะ
  • ภายในโครงการ : ต้องสำรวจระยะของถนนเมน ถนนภายในซอย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากถนนในซอยแคบไป บ้านตรงข้ามก็อาจมองสำรวจเข้ามาในบ้านเราได้ง่าย ทำให้รู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของการจอดรถหน้าบ้านและการจอดรถข้างบ้านบนถนนเมนในอนาคต ที่เราอาจต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วย

5. พื้นที่ส่วนกลาง

           พื้นที่ส่วนกลาง มีสิ่งอำนวยครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่ เช่น ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ก็อยากได้พื้นที่สวน สนามเด็กเล่น ให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายเสริมพัฒนาการ, เป็นคนชอบการออกกำลังกาย ก็ต้องเลือกโครงการที่มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามบาส สนามแบต และอื่น ๆ, ใช้ชีวิตอยู่กับผู้สูงอายุ ก็ต้องเลือกโครงการที่ใส่ใจส่วนกลาง วีลแชร์สามารถเข้า-ออกได้สะดวก เป็นต้น เพราะเราต้องจ่ายค่าส่วนกลาง ดังนั้นก็ควรเลือกโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางถูกใจเราด้วยนั่นเองค่ะ

6. การออกแบบบ้าน

           ต้องตอบโจทย์ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ หากมีผู้สูงอายุ ต้องเลือกโครงการที่มีห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์รอบรับเอาไว้ให้ที่ชั้นล่าง อีกทั้งยังต้องตั้งอยู่ใกล้ห้องน้ำ เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน หากเป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหาร ครัวก็ต้องมีขนาดใหญ่ มีระบบระบายอากาศ มีประตูปิดไม่ให้กลิ่นอาหารรบกวนพื้นที่อื่น ๆ ภายในบ้าน หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ก็ต้องเลือกห้องนอนที่มีห้องน้ำภายในตัวทุกห้อง เป็นต้น ระมัดระวังเรื่องการออกแบบบ้านที่เราอาจไม่ได้ใช้งานจริง เช่น ห้องพระ, ห้องซักรีด, ห้องเก็บของ, ระเบียง บางโครงการทำมาให้ในขนาดที่เล็กเกินไป เป็นการเปลืองเนื้อที่โดยที่ไม่ได้สามารถใช้งานได้จริง แบบนี้ก็ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกันค่ะ

7. ระบบรักษาความปลอดภัย

           มาตรฐานของระบบรักษาความปลอดภัยนั้น ขึ้นอยู่กับระดับของโครงการและแบรนด์บ้านค่ะ อย่างน้อยที่สุด ด้านหน้าโครงการและรอบ ๆ โครงการ ควรมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับลูกบ้าน มีจุดเฝ้าเวรยามเป็นระยะภายในหมู่บ้าน มีระบบการแลกบัตร คัดกรองการเข้าออกที่เข้มงวด รั้วโครงการต้องสูง ป้องกันการปีน หากมีไม่ครบตามข้างต้น ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยค่ะ

8. นิติบุคคลและบริการหลังการขาย

           สำหรับเรื่องของนิติบุคคล อาจต้องลองสืบค้นดูทางอินเทอร์เน็ตค่ะ ว่าโครงการบ้านที่เราสนใจนั้น มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับนิติบุคคลบ้างหรือไม่ มีระบบการจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ส่วนในเรื่องของบริการหลังการขาย ก็อย่างเช่น มีบริการซ่อมแซมดูแลเรื่องต่าง ๆ ของลูกบ้านอย่างไรบ้าง หากมีข้อนี้เพิ่มเข้ามาด้วย ก็จะแสดงถึงความใส่ใจของทางโครงการที่มีต่อลูกบ้านได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

            และนี่คือทั้งหมด 8 ข้อหลัก ๆ ที่เราควรดูให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกโครงการบ้านค่ะ เพราะส่งผลต่อเราไปจนถึงระยะยาวเลย ความสำคัญของแต่ละข้อนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยด้วย หากข้อไหนเราไม่ได้ซีเรียส หรือกังวลเกี่ยวกับมันมาก ก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ะ แต่หากมีได้ครบทุกข้อนี้ ก็จะถือว่าโครงการบ้านนั้น ๆ เป็นโครงการบ้านที่ดี มีคุณภาพ และใส่ใจลูกบ้านเป็นอย่างดีนั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด