KAVE playground

เครดิตบูโรมีผลต่อการกู้ซื้อบ้านอย่างไร? และจะแก้ไขอย่างไรหากติดเครดิตบูโร?

หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือสถานะเครดิตบูโรของคุณ เพราะนี่คือปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครดิตบูโร ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ วิธีตรวจสอบ ไปจนถึงเคล็ดลับในการรักษาและแก้ไขสถานะให้กลับมาปกติ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อบ้านของคุณ

เครดิตบูโรคืออะไร? ทำไมจึงสำคัญต่อการขอสินเชื่อบ้าน?

เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจำกัด ซึ่งเป็นสถาบันที่มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ทุกประเภทของบุคคล ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นสถานะเครดิตบูโร ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรมการชำระหนี้ในอดีตและภาระหนี้สินในปัจจุบันของแต่ละบุคคล

เมื่อคุณยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน คอนโด รถยนต์ หรือแม้แต่การสมัครบัตรเครดิต สถาบันการเงินจะตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของคุณเพื่อประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ หากคุณมีประวัติการชำระเงินที่ดี มีวินัยทางการเงิน ก็จะเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

โดยทั่วไปข้อมูลเครดิตจะถูกเก็บรักษาไว้ในระบบเครดิตบูโรเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ปิดบัญชีสินเชื่อหรือชำระหนี้เสร็จสิ้น และจะถูกลบออกจากฐานข้อมูลโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด นั่นหมายความว่า แม้คุณจะเคยมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีในอดีต แต่หลังจากปิดบัญชีและผ่านไป 3 ปี ประวัติที่ไม่ดีนั้นก็จะหายไปจากระบบ

ตัวเลขสถานะบูโรหมายถึงอะไร? แต่ละเลขมีความสำคัญอย่างไร?

เมื่อคุณตรวจสอบเครดิตบูโร คุณจะพบตัวเลขที่ระบุสถานะของบัญชีสินเชื่อแต่ละรายการ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้มีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้:

  • 10 หรือ 010: สถานะปกติ ไม่มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน (สถานะที่ดีที่สุด)
  • 11 หรือ 011: สถานะปิดบัญชีหรือชำระหนี้ครบตามสัญญา (สถานะที่ดี)
  • 12 หรือ 012: สถานะขอพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ
  • 20 หรือ 020: สถานะหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน (สัญญาณที่ไม่ดี)
  • 21 หรือ 021: สถานะหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ
  • 30 หรือ 030: สถานะอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย
  • 31 หรือ 031: สถานะอยู่ระหว่างการชำระหนี้ตามคำพิพากษา
  • 32 หรือ 032: สถานะศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากคดีขาดอายุความหรือเหตุอื่นๆ
  • 33 หรือ 033: สถานะปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญโดยไม่ติดใจทวงถามอีกต่อไป

นอกจากนี้ยังมีสถานะอื่นๆ เช่น:

  • 40 หรือ 040: สถานะอยู่ระหว่างชำระสินเชื่อเพื่อปรับเป็นสถานะปกติหรือปิดบัญชี
  • 41 หรือ 041: สถานะอยู่ระหว่างตรวจสอบรายการโดยเจ้าของข้อมูลหรือสมาชิก
  • 42 หรือ 042: สถานะโอนหรือขายหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน
  • 43 หรือ 043: สถานะโอนหรือขายหนี้และชำระหนี้เสร็จสิ้น
  • 44 หรือ 044: สถานะโอนหรือขายหนี้ที่อยู่ในสถานะบัญชีปกติ

สถานะที่ดีที่สุด คือ 10 (ปกติ) หรือ 11 (ปิดบัญชีแล้ว) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณมีวินัยทางการเงินดี สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา หากมีสถานะอื่นๆ โดยเฉพาะ 20, 30 หรือ 33 อาจส่งผลให้สถาบันการเงินมองว่าคุณเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยง และอาจมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในอนาคต

คุณสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรได้ที่ไหนบ้าง? มีช่องทางใดบ้าง?

การตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้คุณตรวจสอบเครดิตบูโร ดังนี้:

1. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร (กรุงเทพฯ และปริมณฑล)

คุณสามารถไปที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส พระราม 9, สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หรือห้างเจเวนิว (นวนคร) ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาท และสามารถรับผลได้ภายใน 15 นาที เอกสารที่ต้องเตรียม คือ บัตรประชาชนตัวจริงหรือหนังสือเดินทาง

2. ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส)

มีติดตั้งอยู่ในสถานที่สาธารณะหลายแห่ง เช่น อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส พระราม 9, สถานีกลางบางซื่อ, อาคารสาธรนครทาวเวอร์ เป็นต้น ค่าบริการ 100 บาท และจะได้รับรายงานทางอีเมลทันที โดยใช้บัตรประชาชนตัวจริงหรือหนังสือเดินทางในการยืนยันตัวตน

3. ช่องทางออนไลน์

คุณสามารถขอรายงานเครดิตบูโรผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารหรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ให้บริการ เช่น โมบายแบงก์กิ้งของธนาคารต่างๆ ค่าบริการอยู่ที่ 150 บาท และจะได้รับรายงานทางอีเมล ระยะเวลาในการได้รับผลแตกต่างกันไปตามช่องทางที่ใช้ บางช่องทางสามารถรู้ผลทันที บางช่องทางอาจใช้เวลา 24 ชั่วโมงหรือ 3 วันทำการ

4. ไปรษณีย์ลงทะเบียน

คุณสามารถขอรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียนได้ ค่าบริการ 150 บาท โดยจะได้รับรายงานภายใน 7 วันทำการ สามารถยื่นคำขอได้ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้ ATM โมบายแอปพลิเคชันของธนาคาร หรือที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ

5. บริการฟรี

นอกจากนี้ ยังมีช่องทางที่สามารถขอรายงานข้อมูลเครดิตบูโรแบบสรุปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ แอปพลิเคชันทางรัฐ, ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ, ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส)

เคล็ดลับการแก้ไขเครดิตบูโร เพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้ซื้อบ้าน

หากคุณพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเครดิตบูโร หรือ “ติดเครดิตบูโร” ไม่ต้องกังวล เพราะมีวิธีแก้ไขได้ด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้:

1. ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองอย่างละเอียด

การตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญก่อนการแก้ไขปัญหา คุณจำเป็นต้องทราบสถานะปัจจุบันและรายละเอียดของภาระหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ การตรวจสอบจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง คุณสามารถยื่นขอแก้ไขได้ทันที

2. ชำระหนี้ให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ

วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาและฟื้นฟูสถานะเครดิตบูโร คือการชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อบ้าน การชำระหนี้ตรงเวลาแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยทางการเงินและความรับผิดชอบของคุณ นอกจากนี้ หากเป็นไปได้ ควรพยายามชำระมากกว่ายอดขั้นต่ำ โดยเฉพาะกับบัตรเครดิต เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและเร่งการปลดหนี้

3. พิจารณาการรวมหนี้เพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

หากคุณมีหนี้สินกับหลายสถาบันการเงิน การรวมหนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดี การยื่นขอสินเชื่อเพื่อรวมหนี้จะช่วยให้คุณมีหนี้เพียงก้อนเดียวกับเจ้าหนี้เพียงรายเดียว ทำให้การจัดการง่ายขึ้น อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวมหนี้มักจะต่ำกว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยลดภาระดอกเบี้ยโดยรวมและทำให้คุณมีโอกาสปลดหนี้ได้เร็วขึ้น

4. สร้างประวัติเครดิตใหม่ที่ดี

หลังจากชำระหนี้เก่าหมดแล้ว สิ่งสำคัญคือการสร้างประวัติเครดิตใหม่ที่ดี คุณอาจเริ่มจากการขอสินเชื่อวงเงินเล็กๆ เช่น บัตรเครดิตวงเงินต่ำ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลวงเงินไม่มาก แล้วชำระคืนอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา การทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณในสายตาของสถาบันการเงิน

5. หลีกเลี่ยงการยื่นขอสินเชื่อพร้อมกันหลายที่

การยื่นขอสินเชื่อพร้อมกันหลายที่ในระยะเวลาใกล้เคียงกันอาจส่งผลเสียต่อเครดิตบูโรของคุณ เนื่องจากสถาบันการเงินจะเห็นว่ามีการตรวจสอบข้อมูลเครดิตของคุณบ่อยครั้ง ซึ่งอาจตีความได้ว่าคุณกำลังพยายามหาแหล่งเงินทุนหลายที่พร้อมกัน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางการเงิน ดังนั้น ควรยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่คุณมั่นใจว่าจะได้รับการอนุมัติมากที่สุดเพียงที่เดียว

เมื่อไหร่ที่ควรตรวจสอบเครดิตบูโร? จังหวะเวลาที่เหมาะสม

การตรวจสอบเครดิตบูโรเป็นประจำเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้ว่าคุณจะไม่มีแผนกู้ซื้อบ้านหรือทรัพย์สินมูลค่าสูงในเร็วๆ นี้ นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจสอบ:

1. ตรวจสอบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ควรตรวจสอบเครดิตบูโรของคุณอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบัน การตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยให้คุณรับทราบสถานะเครดิตปัจจุบันของตัวเอง และหากมีข้อผิดพลาดใดๆ คุณจะสามารถแก้ไขได้ทันที นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันการถูกแอบอ้างเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินในนามของคุณ

2. ก่อนการยื่นขอสินเชื่อสำคัญ

หากคุณวางแผนจะซื้อบ้าน คอนโด หรือรถยนต์ ควรตรวจสอบเครดิตบูโรล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการแก้ไขปัญหาหากพบว่ามีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การเตรียมความพร้อมนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อและอาจได้รับข้อเสนอดอกเบี้ยที่ดีกว่า

3. หลังการปิดบัญชีสินเชื่อ

เมื่อคุณชำระหนี้เสร็จสิ้นและปิดบัญชีสินเชื่อแล้ว ควรตรวจสอบเครดิตบูโรอีกครั้งภายหลังประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีนั้นถูกบันทึกว่าปิดเรียบร้อยแล้ว บางครั้งอาจเกิดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล ทำให้ระบบยังแสดงว่าบัญชียังเปิดอยู่หรือมีหนี้ค้างชำระทั้งที่คุณได้ชำระหมดแล้ว

4. หลังจากถูกปฏิเสธสินเชื่อ

หากคุณเคยยื่นขอสินเชื่อและถูกปฏิเสธ ควรตรวจสอบเครดิตบูโรทันที เพื่อหาสาเหตุของการปฏิเสธ บางครั้งอาจเกิดจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือมีการบันทึกประวัติการชำระเงินผิดพลาด ซึ่งคุณสามารถดำเนินการแก้ไขได้หากพบข้อผิดพลาด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครดิตบูโร ที่คนมักสงสัย

1. แบล็คลิสต์คืออะไร? แตกต่างจากติดเครดิตบูโรอย่างไร?

คำว่า “แบล็คลิสต์” เป็นเพียงคำที่ใช้เรียกบุคคลที่มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือมีหนี้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แท้จริงแล้วไม่มีการขึ้นบัญชีดำอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงคำที่ใช้เรียกสถานะเครดิตที่ไม่ดี ซึ่งก็คือ “ติดเครดิตบูโร” นั่นเอง การติดเครดิตบูโรหรือถูกเรียกว่าติดแบล็คลิสต์อาจส่งผลให้สถาบันการเงินไม่ไว้วางใจและอาจปฏิเสธการให้สินเชื่อ

2. หากติดเครดิตบูโร จะกู้ซื้อบ้านได้หรือไม่?

โดยทั่วไป การมีประวัติเครดิตบูโรที่ไม่ดีจะทำให้โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านลดลงอย่างมาก เนื่องจากบ้านและคอนโดเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง สถาบันการเงินจึงต้องมั่นใจในความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถแก้ไขสถานะเครดิตบูโรให้กลับมาเป็นปกติ มีรายได้มั่นคง และมีหลักประกันที่ดี โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อก็ยังมีอยู่ แต่อาจต้องใช้เวลาสร้างประวัติการชำระเงินที่ดีอย่างต่อเนื่องก่อน

3. ข้อมูลเครดิตบูโรจะถูกเก็บไว้นานเท่าไร?

บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะเก็บข้อมูลเครดิตบูโรย้อนหลังเป็นระยะเวลา 3 ปี (36 เดือน) นับจากวันที่ปิดบัญชีหรือชำระหนี้ครบถ้วน ข้อมูลที่มีอายุครบ 3 ปีจะถูกลบออกไปทีละเดือน และเมื่อข้อมูลเดือนสุดท้ายมีอายุครบ 3 ปี ก็จะถูกลบออกจากฐานข้อมูลพร้อมกับบัญชีสินเชื่อนั้นๆ โดยอัตโนมัติ

4. หากตรวจพบว่าข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง จะแก้ไขอย่างไร?

หากคุณตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลในเครดิตบูโรไม่ถูกต้อง คุณมีสิทธิยื่นคำขอให้แก้ไขข้อมูลให้ตรงกับความเป็นจริง โดยการแจ้งไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าของข้อมูล เมื่อสถาบันการเงินตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องจริง ทางสถาบันจะส่งข้อมูลที่ถูกต้องให้กับบริษัทข้อมูลเครดิตเพื่อทำการแก้ไข โดยปกติจะแจ้งผลการตรวจสอบภายใน 30 วัน หากข้อมูลยังไม่ถูกต้อง คุณสามารถยื่นคำขอให้บริษัทข้อมูลเครดิตลงบันทึกข้อโต้แย้งไว้ในรายงานข้อมูลเครดิตได้

5. การตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเองบ่อยๆ มีผลเสียหรือไม่?

การตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเองจะไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตของคุณ เพราะถือเป็นการตรวจสอบเพื่อทราบข้อมูลส่วนตัวเท่านั้น (Soft Inquiry) แต่หากสถาบันการเงินเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลเครดิตของคุณเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ (Hard Inquiry) การตรวจสอบนี้จะถูกบันทึกไว้ และหากมีการตรวจสอบจากหลายสถาบันในระยะเวลาใกล้เคียงกัน อาจส่งผลต่อคะแนนเครดิตได้

สรุป

เครดิตบูโรเป็นเครื่องมือสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ การมีเครดิตบูโรที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อที่มีวงเงินสูงอย่างสินเชื่อบ้านหรือคอนโด

การรักษาสถานะเครดิตบูโรให้ดีนั้นไม่ยาก เพียงมีวินัยในการชำระหนี้ให้ตรงเวลา ไม่ก่อหนี้เกินความสามารถในการชำระ และหมั่นตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีปัญหา ก็ควรรีบดำเนินการแก้ไขทันที

แม้ว่าการติดเครดิตบูโรอาจส่งผลให้โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อลดลง แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการชำระหนี้ค้างและสร้างประวัติการชำระเงินที่ดีขึ้นใหม่ การลงทุนเวลาและความพยายามในการแก้ไขและรักษาสถานะเครดิตที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์ทางการเงินในระยะยาว และเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดในอนาคต

#สาระ #การเงิน #เครดิตบูโร #สถานะบูโร #การเช็คเครดิตบูโร #วิธีแก้ไขเครดิตบูโร #สินเชื่อบ้าน #การกู้ซื้อบ้าน #ประวัติเครดิต #สถาบันการเงิน #ข้อมูลทางการเงิน #หนี้เสีย

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
CEO BAM – 2 กูรูอสังหาฯ’ ฟันธง! ลงทุนทรัพย์มือสองกับ BAM รับผลตอบแทนสูงสุด 29% แถมเสี่ยงต่ำ ชี้! ยุคนี้ เป็นโอกาสทองของ NPA
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา ย้ำผู้นำอสังหาฯ ไทยยั่งยืน ตั้งบริษัท “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” มุ่งสู่ Decarbonization อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผนึกพันธมิตรสายกรีนต่อยอด Better Futures Project ปี 4 “RE” Lifestyle Roadshow ทั่วทุกภูมิภาค
ข่าวสาร
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำทาวน์โฮมและบ้านแฝด เดินเกม ZONING EXPANSION บุกทำเลใหม่ ‘เมืองเอก วิภาวดี-รังสิต’
ข่าวสาร
สัมผัสบรรยากาศหรูในสไตล์ Mountain Resort “โครงการบ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่”
ข่าวสาร
บ้านแข็งแรง…เริ่มต้นจากรากฐานที่ดี “พรีคาสท์” เทคโนโลยีสร้างบ้านแกร่ง รากฐานแห่งความมั่นคงของที่อยู่อาศัยยุคใหม่
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..