แมวเปอร์เซีย มีนิสัยและลักษณะอย่างไร?

            แมวเปอร์เซีย แมวที่ใคร ๆ ก็ต่างหลงรักในความน่ารักขนฟูนุ่มนิ่ม ก่อนที่เหล่าทาสแมวจะหลงใหลในความน่ารักหรือจะนำน้องแมวเปอร์เซียมาเลี้ยงนั้น Homeday อยากจะพาทาสแมวทั้งหลายมาทำความรู้จัก เข้าใจกับนิสัยและลักษณะของแมวเปอร์เซียกันก่อนนะคะ เราจะได้เตรียมรับมือและเลี้ยงน้องแมวเปอร์เซียอย่างเข้าใจ อยากทราบกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าลักษณะนิสัยของเจ้าเหมียวเปอร์เซียนั้นมีอะไรที่ควรรู้บ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ลักษณะภายนอกของแมวเปอร์เซีย

             เป็นแมวขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ หัวและหน้ากลมมน จมูกสั้น คอสั้น หูเล็กปลายแหลมมน และดวงตาของเจ้าเปอร์เซียนั้นกลมโตสดใส ขนยาวหนาฟูจนได้รับฉายาให้เป็นหนึ่งในแมวขนสวยเงางามเลยค่ะ สีขนของแมวเปอร์เซียนั้นมีหลากหลายสี บางตัวมีขนสีเดียวทั่วทั้งตัว บางตัวมีขนสองหรือสามสี ซึ่งสีที่พบบ่อยคือ สีขาว, สีครีม, สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน (สีออกเทา) และสีช็อกโกแลต จุดเด่นของแมวเปอร์เซียอีกหนึ่งอย่างคือท่าเดินที่มีท่วงท่าสง่างามดุจแมวเจ้าหญิง

นิสัยของแมวเปอร์เซีย

  • สุภาพ สงบเสงี่ยม เฉลียวฉลาด แต่อ่อนโยนจนทาสแมวหลงรัก
  • ว่านอนสอนง่าย ไม่ซน ชอบอยู่นิ่ง ๆ ไม่ชอบสถานที่หรือสถานการณ์เสียงดัง เพราะเปอร์เซียรักความสงบ 
  • ไม่ชอบก่อกวนเจ้าของ ไม่อ้อน จนทำให้เจ้าของรู้สึกว่าแมวไม่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วเปอร์เซียรักเจ้าของนะคะ
  • มีความเป็นมิตร เข้ากับเด็กได้ดี ด้วยความที่เปอร์เซียรักสงบ ชอบอยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่ชอบการถูกก่อกวนอาจจะต้องใช้เวลาในการอยู่ร่วมกับเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ให้เปอร์เซียคุ้นชิน
  • โดยภาพรวมแล้วเจ้าแมวเปอร์เซียมีนิสัยง่าย ๆ ปรับตัวกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมได้ดีค่ะ หมดความกังวลว่าจะเลี้ยงยากไปได้เลย

การดูแลแมวเปอร์เซีย

  • แมวเปอร์เซียนั้นไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก เล่นกับเจ้าของบ้าง เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายได้ใช้พลังงาน เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของเปอร์เซียแล้วค่ะ
  • การให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน แนะนำว่าควรให้ในปริมาณ 60 กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) 
  • อาหารต้องสะอาด เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของแมวเปอร์เซีย เพราะอาหารมีผลต่อการเจริญเติบโตและความสวยงามของแมว 
  • ผู้เลี้ยงต้องใส่ใจกับความสะอาดของแมว และที่อยู่ของแมวอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีและไม่เป็นโรค 

โรคประจำที่ควรทราบ

  • โรคผิวหนัง : การติดเชื้อที่หู (Ear Infection), การติดเชื้อราในแมว (Dermatophytosis)
  • โรคระบบประสาท : โรควิตกกังวลต่อการแยกจาก หรือเกิดจากบาดแผลทางใจ (Separation Anxiety Disorder)
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy : HCM)
  • โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (Hip Dysplasia)
  • โรคระบบทางเดินอาหารและตับ : ภาวะก้อนขนอุดตัน (Hairball obstruction), ภาวะหลอดเลือดดำที่ตับลัดเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด (Portosystemic Shunts : PSS)
  • โรคระบบทางเดินปัสสาวะและไต : โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างของแมว (Feline Lower Urinary Tract Disease : FLUTD), ภาวะเกิดถุงน้ำภายในไต (Polycystic Kidney Disease : PKD)
  • โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติของสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic Syndrome)
  • โรคตา : ภาวะไม่มีเปลือกตาตั้งแต่กำเนิด (Eyelid Agenesis), โรคต้อกระจก (Cataract), โรคเชอร์รี่อาย (Cherry Eye), โรคเปลือกตาม้วนออก (Ectropion Eyelids), คราบน้ำตา (Tear Staining) จากการที่ร่างกายผลิตน้ำตามากเกินไป

           ดังนั้นการเลี้ยงแมวเปอร์เซียควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและรับวัคซีนให้ครบตามคำแนะนำของแพทย์นะคะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.baanlaesuan.com

            ตอนนี้เหล่าทาสแมวก็คงจะรู้จักกับลักษณะ นิสัยใจคอ รวมไปถึงการดูแลน้องแมวเปอร์เซียกันพอสมควรแล้วนะคะ หากใครแพ้ในความน่ารักของแมวเปอร์เซียอยากจะเลี้ยง หรือกำลังเลี้ยงอยู่ต้องเข้าใจ และดูแลน้องแมวอย่างถูกต้องและเหมาะสมนะคะ เพื่อให้น้องแมวเปอร์เซียนั้นน่ารักอยู่กับเราไปนาน ๆ

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด