ต้นปาล์มเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการจัดสวนบ้าน เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและฝน พร้อมทั้งดูแลง่าย นอกจากจะช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับบ้านแล้ว ต้นปาล์มยังมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศภายในบ้านได้อีกด้วย การเลือกสายพันธุ์ปาล์มที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปลูก

สายพันธุ์ปาล์มแนะนำสำหรับคนรักการจัดสวน
หมากเหลือง – ราชาแห่งการฟอกอากาศ
หมากเหลืองเป็นปาล์มที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษจากอากาศและคายความชื้นให้แก่บ้าน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chrysalidocarpus lutescens มีถิ่นกำเนิดในมาดากัสการ์ลักษณะเด่นคือลำต้นหุ้มด้วยกาบสีเหลืองขนาดใหญ่ และสามารถแตกกอได้สูงถึง 9 เมตร
ข้อดีของหมากเหลืองคือสามารถดัดใบให้เป็นพุ่มสวยงามได้และดัดลำต้นให้กางออกพอดีกับพื้นที่ นิยมปลูกในที่ร่มหรือแดดรำไร และต้องการการรดน้ำเมื่อดินแห้ง สำหรับการดูแล ควรให้น้ำตอนเช้าวันละครั้งแต่อย่าให้แฉะ และให้ปุ๋ยคอกอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 1 ครั้ง
ปาล์มใบไผ่ – มิตรแท้ของสัตว์เลี้ยง
ปาล์มใบไผ่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chamaedorea elegans มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกและกัวเตมาลา เป็นปาล์มขนาดเล็กที่สูงไม่ถึง 2 เมตร มีใบสีเขียวเข้มเรียวแหลมคล้ายใบไผ่ ข้อดีสำคัญคือไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงและช่วยดูดสารพิษภายในบ้าน
การดูแลปาล์มใบไผ่ค่อนข้างง่าย ต้องการแสงแดดปานกลางหรือรำไร รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และไม่จำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งบ่อย เนื่องจากโตช้า ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อหรือเพาะเมล็ด ควรปลูกในดินร่วน
ปาล์มหางกระรอก – ความงามแบบธรรมชาติ
ปาล์มหางกระรอกหรือฟอกซ์เทล มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Wodyetia bifurcata มีลักษณะเด่นที่ใบสีเขียวรูปขนนกปลายแหลม ออกเป็นพวงคล้ายหางหมาป่า สูงได้ถึง 15 เมตร เหมาะสำหรับปลูกกลางแจ้ง
ความพิเศษของปาล์มหางกระรอกคือผลสามารถนำมาเชื่อมรสชาติเหมือนลูกตาลได้ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ต้องการแสงแดดและน้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

ปาล์มสำหรับพื้นที่จำกัด
ปาล์มพัด – ตัวเลือกสำหรับบ้านขนาดเล็ก
ปาล์มพัดหรือปาล์มมงกุฎมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pritchardia pacifica มีถิ่นกำเนิดในฟีจี ตองงา และซามัว ลักษณะคล้ายกับปาล์มชวาแต่มีขนาดเล็กกว่า ความสูงประมาณ 1-10 เมตร สามารถปลูกในบ้านได้
ใบเป็นรูปพัด ขอบหยักมีรอยจีบ ปลายแหลม สีเขียวอ่อน สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิดและขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เนื่องจากชอบแดดมาก ควรปลูกในสวนหรือกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัด
ปาล์มสิบสองปันนา – เล็กแต่สวยงาม
ปาล์มสิบสองปันนาหรือ Pygmy Date Palm มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phoenix loureiri เป็นปาล์มขนาดเล็กที่โตช้า ความสูงประมาณ 2 เมตร ใบสีเขียวเป็นรูปขนนก มีใบย่อยเรียงเป็นสองข้างโค้งลง
มีคุณสมบัติช่วยดูดสารพิษในอากาศ และผลสุกสีม่วงอมแดงถึงดำรับประทานได้ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ชอบแสงแดด ต้องการน้ำปานกลาง เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกลงแปลงดิน รวมทั้งปลูกในบ้านได้

ปาล์มสายพันธุ์พิเศษ
ตาลฟ้า – ความงามสีเขียวอมฟ้า
ตาลฟ้าหรือปาล์มมาดากัสการ์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bismarckia nobilis มีถิ่นกำเนิดบนหมู่เกาะมาดากัสการ์ จุดเด่นคือใบสีเขียวอมฟ้าเป็นใบเดี่ยวรูปพัดเรียงเวียนที่ปลายลำต้น
ข้อดีของตาลฟ้าคือให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี เสริมความสวยงามและโดดเด่นของบ้าน ใบสามารถนำมามุงหลังคาหรือสานตะกร้า และแกนกลางกินได้หรือทำแป้งสาคูได้ อย่างไรก็ตาม ก้านตาลฟ้าคมมากอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ และอาจทำลายพื้นที่โดยรอบหน้าบ้าน
แส้หางม้า – ต้นไม้สะสมน้ำ
แส้หางม้ามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Beaucarnea recurvata จุดเด่นคือโคนต้นจะกลมโตเพราะเอาไว้สะสมอาหาร ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเรียวแหลม โค้งลงแผ่กระจายคล้ายน้ำพุหรือแส้ม้า
ความพิเศษของแส้หางม้าคือไม่ต้องการน้ำมาก ทำให้เป็นพืชในร่มที่สมบูรณ์แบบหากคุณมักจะเดินทางบ่อยหรือเป็นคนขี้ลืม หากปลูกในกระถางก็สามารถควบคุมความสูงของลำต้นได้ ชอบแสงแดดตลอดวันและควรรดน้ำแค่ตอนดินแห้งเท่านั้น

ปาล์มขนาดใหญ่สำหรับสวนกว้าง
ปาล์มยะวา – ทนทานทุกสภาพอากาศ
ปาล์มยะวาหรือปาล์มชวา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Livistona rotundifolia มีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นปาล์มต้นเดี่ยวสูงได้ถึง 15 เมตร ใบเป็นรูปพัดเกือบกลม แผ่นใบหนาสีเขียวเป็นมัน
ข้อดีของปาล์มยะวาคือทนแดดและทนน้ำท่วมได้ เติบโตได้ดีในดินร่วน สามารถปลูกในร่มมีแสงรำไรได้เช่นกัน ออกดอกได้ตลอดทั้งปี และผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง
ปาล์มจีน – ทนทานแข็งแกร่ง
ปาล์มจีนมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Livistona chinensis มีถิ่นกำเนิดในจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ลำต้นมีข้อปล้องชัดเจนหุ้มด้วยกาบสีน้ำตาล ใบเดี่ยวสีเขียวรูปพัด แผ่นใบแผ่กว้าง
ปาล์มจีนค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่เจาะจงเกี่ยวกับสภาพการเจริญเติบโตมากเกินไป ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับชาวสวนมือใหม่ ต้องการแสงแดดตลอดวันและปลูกในดินได้ทุกชนิด ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

คำแนะนำการดูแลปาล์มทั่วไป
การดูแลต้นปาล์มให้เจริญเติบโตได้ดีต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ แสงแดดเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากปาล์มส่วนใหญ่ต้องการแสงแดดมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน การให้น้ำควรทำเมื่อดินมีความชื้นเพียงพอ หลีกเลี่ยงการให้น้ำเมื่อแล้งจัดหรือฝนตกหนัก
การใส่ปุ๋ยสำหรับปาล์มในปีแรกหลังจากการปลูกควรใส่ 4-5 ครั้ง ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไปควรใส่ 3 ครั้งต่อปี ช่วงที่เหมาะสมคือต้นฝน กลางฝน และปลายฝน ควรใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบตามที่ปาล์มต้องการ คือ N, P, K, Ca, Mg, S, B, Cu และ Zn
ประโยชน์ของการปลูกปาล์มในบ้าน
ต้นปาล์มมีประโยชน์มากมายต่อการจัดสวนบ้าน นอกจากจะช่วยเพิ่มความร่มรื่นและสร้างบรรยากาศที่สงบแล้ว ปาล์มหลายสายพันธุ์ยังมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศและดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน และเบนซีน ยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศ
ตามความเชื่อด้านฮวงจุ้ย ต้นปาล์มช่วยเสริมโชคลาภและความมั่นคง สร้างบรรยากาศที่สงบและร่มเย็น นิยมปลูกในบ้านและที่ทำงานเพื่อเพิ่มพลังแห่งความสำเร็จ
สรุป
การเลือกสายพันธุ์ปาล์มสำหรับจัดสวนบ้านควรพิจารณาจากขนาดพื้นที่ สภาพแสง และความต้องการในการดูแล สำหรับผู้เริ่มต้น หมากเหลืองและปาล์มใบไผ่เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากดูแลง่ายและมีประโยชน์ในการฟอกอากาศ หากมีพื้นที่จำกัด ปาล์มพัดและปาล์มสิบสองปันนาเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนผู้ที่มีสวนกว้างสามารถเลือกปาล์มยะวาหรือปาล์มจีนที่ให้ร่มเงาได้ดี การดูแลที่ถูกต้องจะทำให้ต้นปาล์มเจริญเติบโตและให้ประโยชน์กับบ้านของคุณอย่างยั่งยืน
#สาระ #ต้นปาล์ม #จัดสวนบ้าน #ปาล์มทนแดด #ไม้ประดับ #ฟอกอากาศ #ดูแลง่าย #หมากเหลือง #ปาล์มใบไผ่ #ตาลฟ้า #แส้หางม้า