The Palm (copy)

มะยงชิดมีกี่สายพันธุ์ และปลูกอย่างไรให้ออกผลดก?

มะยงชิดเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบในช่วงหน้าร้อน ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอม และเนื้อสัมผัสที่นุ่มฉ่ำ ทำให้มะยงชิดเป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาสูง เกษตรกรหลายรายจึงหันมาให้ความสนใจปลูกมะยงชิดเพื่อสร้างรายได้ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับมะยงชิดอย่างละเอียด ทั้งประวัติความเป็นมา สายพันธุ์ยอดนิยม วิธีการปลูกและดูแลให้ออกผลดก เพื่อให้คุณสามารถปลูกมะยงชิดไว้รับประทานเองหรือปลูกเพื่อการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มะยงชิดคืออะไร? ทำความรู้จักกับผลไม้มงคลรสชาติเยี่ยม

มะยงชิด (Marian Plum) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bouea oppositifolia (Roxb.) เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ในวงศ์ Anacardiaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับมะม่วง มะปราง และมะกอก ต้นมะยงชิดสามารถสูงได้ถึง 10-30 เมตร มีลำต้นสีน้ำตาลแก่ แตกกิ่งก้านเป็นทรงพุ่ม ใบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน (oblong) มีสีเขียวอ่อนปนน้ำตาลเมื่อยังอ่อน และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเมื่อแก่ ความยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร กว้าง 3-5 เซนติเมตร ผิวใบเป็นมัน

ดอกมะยงชิดมีสีขาว ขนาดเล็กประมาณ 0.5 เซนติเมตร คล้ายกับดอกมะปราง ออกเป็นช่อที่ซอกใบ ส่วนผลมีลักษณะกลมยาวรีคล้ายไข่เป็ด เมื่อยังอ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ในแต่ละผลจะมีเมล็ดเพียง 1 เมล็ด โดยเนื้อในของเมล็ดมีสีม่วง

มะยงชิดกับมะปราง แตกต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่างมะยงชิดกับมะปราง เนื่องจากทั้งสองชนิดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างที่สังเกตได้ดังนี้:

  1. ขนาดของผล: มะยงชิดมีขนาดผลใหญ่กว่ามะปราง
  2. สีผล: เมื่อผลดิบ มะปรางจะมีสีเขียวซีด ขณะที่มะยงชิดมีสีเขียวจัดกว่า เมื่อสุกมะปรางจะมีสีเหลืองนวลอ่อน ส่วนมะยงชิดจะมีสีเหลืองอมส้ม
  3. รสชาติ: มะปรางมีรสหวานถึงหวานจืด บางสายพันธุ์มียางทำให้รู้สึกคันคอ ส่วนมะยงชิดมีรสหวานอมเปรี้ยว ไม่มียาง กินแล้วรู้สึกระคายคอน้อยกว่า
  4. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: มะปราง (Bouea macrophylla) มีใบรูปหอก (lanceolate) และผลกลมสีเหลือง ขณะที่มะยงชิด (Bouea oppositifolia) มีใบรูปขอบขนาน (oblong) และผลรูปไข่สีแดงปนเหลือง

นอกจากนี้ ในอดีตคนสมัยสุโขทัยเรียกมะยงชิดว่า “ลำยง” ซึ่งกลายพันธุ์มาจากมะปรางพื้นบ้าน โดยหากมีรสหวานมาก เปรี้ยวน้อย จะเรียกว่า “มะยงชิด” ถ้าหวานน้อยเปรี้ยวมาก จะเรียกว่า “มะยงห่าง” และถ้าเปรี้ยวอย่างเดียว เรียกว่า “กาวาง”

3 สายพันธุ์มะยงชิดยอดนิยมที่เกษตรกรควรรู้จัก

มะยงชิดมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพดีมี 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่:

มะยงชิดสายพันธุ์เพชรกลางดง

สายพันธุ์นี้มีจุดเด่นคือเป็นพันธุ์เบา ออกผลง่าย ต้านทานโรคและแมลงได้ดีมาก มีเอกลักษณ์จำเพาะพันธุ์ที่โดดเด่นแตกต่างจากพันธุ์อื่น จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน แหล่งกำเนิดอยู่ที่บ้านกลางดง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นสายพันธุ์ที่มีอนาคตสดใสและเป็นที่ต้องการของตลาด

มะยงชิดสายพันธุ์ทูลเกล้า

สายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงโด่งดังในนามของจังหวัดนครนายก ถือเป็นดาวค้างฟ้าของวงการมะยงชิดไทย และเป็นพันธุ์ที่ถูกแอบอ้างชื่อมากที่สุด ผลมีขนาดใหญ่ เมล็ดลีบเล็ก รสหวานแหลม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

มะยงชิดสายพันธุ์บางขุนนนท์

เป็นสายพันธุ์ที่มีประวัติยาวนาน ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกกันว่า “มะปรางเสวย” มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ก่อนจะแพร่ขยายแปลงสวนมาสู่บางขุนนนท์ จัดเป็นพันธุ์มะยงชิดที่เก่าแก่และมีคุณภาพดีที่สุด ยากที่จะหาพันธุ์อื่นมาเทียบเท่าได้

วิธีปลูกมะยงชิดให้เติบโตแข็งแรง

การปลูกมะยงชิดไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีความพิถีพิถันในการดูแล โดยมีขั้นตอนดังนี้:

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูก

ควรเริ่มปลูกมะยงชิดในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม เพราะอากาศมีความชื้นเหมาะสม ทำให้ต้นกล้าสามารถตั้งตัวได้ดี

การเตรียมหลุมปลูก

  1. ขุดหลุมขนาดประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร
  2. เตรียมดินปลูกโดยผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก และปุ๋ยหมักในสัดส่วนที่เหมาะสม
  3. ใส่ดินผสมลงในหลุม เกลี่ยให้สม่ำเสมอ
  4. นำกิ่งพันธุ์มะยงชิดที่ได้จากการทาบกิ่งมาปลูก (แนะนำให้ใช้การทาบกิ่งเพราะจะได้ต้นที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ ไม่กลายพันธุ์)
  5. กลบดินและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
  6. ปักไม้หลักและผูกเชือกยึดกับต้นเพื่อป้องกันลมโยก

การดูแลต้นกล้าในระยะแรก

  1. ทำที่พรางแสงเพื่อลดแสงแดดในช่วงแรก โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน
  2. ใช้ฟางหรือหญ้าคลุมโคนต้นช่วงฤดูร้อนเพื่อช่วยรักษาความชื้น
  3. รดน้ำบริเวณโคนต้นอย่างสม่ำเสมอทุก 2-3 วัน แต่ไม่ให้แฉะเกินไป
  4. หลังปลูกไปแล้วประมาณครึ่งเดือน ให้เติมปุ๋ยรอบโคนต้น
  5. เมื่อต้นโตให้ใส่ปุ๋ยทุก 6 เดือน

การปลูกมะยงชิดในกระถาง สำหรับพื้นที่จำกัด

สำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด การปลูกมะยงชิดในกระถางเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยมีวิธีการดังนี้:

  1. เลือกกระถางขนาดใหญ่ อย่างน้อย 12 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้รากมะยงชิดมีพื้นที่เพียงพอในการเจริญเติบโต
  2. เตรียมดินผสมโดยใช้ดินดำ 1 ส่วน แกลบ 2 ส่วน และมูลสัตว์ 1 ส่วน คลุกให้เข้ากัน
  3. ใส่ดินผสมลงในกระถาง โดยใส่ประมาณ 2 ใน 3 ของกระถาง
  4. นำกิ่งพันธุ์ที่ได้จากการทาบกิ่งมาปลูก และกลบดินที่เหลือ
  5. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น ปักไม้ยึดไว้ด้านข้างและใช้เชือกผูกเพื่อพยุงต้น
  6. รดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางกระถางในที่ที่มีแสงแดดรำไรในช่วงแรก

วิธีการดูแลมะยงชิดให้ออกผลดก

การให้น้ำ

  1. ในช่วงแรกควรรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ ประมาณ 3-5 วันต่อครั้ง
  2. เมื่อต้นมะยงชิดอายุได้ประมาณ 3-6 เดือน ค่อยเปลี่ยนมารดน้ำ 7-10 ครั้งต่อเดือน
  3. รดน้ำอย่างสม่ำเสมอช่วงแตกใบอ่อนและหลังติดดอก
  4. งดให้น้ำประมาณหนึ่งเดือนก่อนช่วงออกดอก (ธันวาคม-มกราคม) เพื่อกระตุ้นการออกดอก

การใส่ปุ๋ย

การใส่ปุ๋ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มะยงชิดเติบโตดีและให้ผลผลิตสูง จากการศึกษาพบว่าการใส่ปุ๋ยในปริมาณ 3-4 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี สามารถเพิ่มผลผลิตได้ถึง 2.3 เท่า เมื่อเทียบกับการไม่ใส่ปุ๋ย โดยแบ่งใส่ปุ๋ย 3 ครั้ง คือ:

  1. หลังเก็บผลผลิต (50% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมด ในอัตราส่วน N-P2O5-K2O 4:3:2)
  2. หลังติดผล 30 วัน (25% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมด ในอัตราส่วน N-P2O5-K2O 1:1:1)
  3. หลังติดผล 60 วัน (25% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมด ในอัตราส่วน N-P2O5-K2O 2:2:3)

การป้องกันโรคและแมลงศัตรู

มะยงชิดอาจประสบปัญหาโรคและแมลงศัตรูได้ โดยโรคที่พบบ่อยได้แก่:

  1. โรครากเน่าโคนเน่า (Crown Rot) ป้องกันโดยไม่ให้น้ำท่วมขัง และใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี
  2. โรคราแป้ง สามารถป้องกันด้วยการฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อรา
  3. เพลี้ยแป้งและเพลี้ยอ่อน ป้องกันได้ด้วยการฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรหรือน้ำสบู่อ่อนๆ

ประโยชน์ของมะยงชิดที่คุณอาจไม่เคยรู้

มะยงชิดนอกจากจะรับประทานสดแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย ดังนี้:

คุณค่าทางโภชนาการ

มะยงชิดอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและวิตามินหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน บำรุงสายตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

การแปรรูปมะยงชิด

มะยงชิดสามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลาย เช่น:

  1. น้ำมะยงชิดโซดา – เครื่องดื่มแก้กระหายคลายร้อน
  2. แยมมะยงชิด – ทาขนมปังหรือใช้เป็นส่วนผสมในขนมอบ
  3. มะยงชิดชีสพาย – ขนมหวานรสชาติกลมกล่อม
  4. เค้กมะยงชิด – ขนมที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
  5. มะยงชิดดอง – อาหารว่างรสเปรี้ยวอมหวาน

มะยงชิดเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และให้ผลตอบแทนคุ้มค่า โดยเริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 2-3 ปี ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม และออกผลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หรือประมาณ 75-80 วันหลังออกดอก การปลูกมะยงชิดจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่ต้องการพืชให้ผลผลิตในระยะยาวและมีราคาดี

การปลูกมะยงชิดให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจในธรรมชาติของพืช การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ และการดูแลอย่างถูกวิธี หากทำตามคำแนะนำข้างต้น คุณก็จะมีต้นมะยงชิดที่แข็งแรง ให้ผลดก และสร้างความสุขให้กับผู้ปลูกอย่างยาวนาน

#สาระ #มะยงชิด #วิธีปลูกมะยงชิด #ผลไม้ไทย #มะยงชิดสายพันธุ์ #การดูแลมะยงชิด #ปลูกไม้ผล #เกษตรกรรม #พืชเศรษฐกิจ

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
“ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2025” ส่งมอบรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีให้กับลูกค้า มั่นใจ แม้ดูรถไม่เป็น ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองคุณภาพดีได้
อสังหาฯ เดือด BAM ลดหนักจัดเต็ม FLASH SALE 7.7
ข่าวสาร
พรีโม ผนึก 3 พันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ มอบสิทธิพิเศษซ่อมห้องชุด ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน* ตอกย้ำ Primo Care เคียงข้างคุณด้วยความใส่ใจ
ข่าวสาร
BAM ร่วมกับ ปันกัน สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ในกิจกรรม “BAM x ปันกัน ปันของรัก ส่งน้องเรียน”
ข่าวสาร
SAM “ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ร่วมออกบูท “มันนี่ เอ็กซ์โป หาดใหญ่” จัดโปรฯเด่นทรัพย์มือสองฟรี! ค่าโอน และ“คลินิกแก้หนี้ by SAM”ช่วยแก้หนี้สารพัดบัตร
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..