สำหรับคนที่ฝันอยากเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อคือเรื่องของเงินดาวน์ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย การวางแผนทางการเงินสำหรับเงินดาวน์ที่ดีจะช่วยให้การซื้อคอนโดเป็นไปอย่างราบรื่น ลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะแนะนำทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเงินดาวน์คอนโด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการจ่าย ขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงเคล็ดลับในการบริหารจัดการเงินดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ

เงินดาวน์คอนโดคืออะไร? ทำไมต้องวางเงินดาวน์ก่อนซื้อ
เงินดาวน์คอนโด คือ เงินก้อนที่ผู้ซื้อต้องจ่ายให้กับผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นหลักประกันในการจองห้องชุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการ Pre-sale หรือโครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เงินดาวน์นี้จะถูกนำไปหักจากราคาห้องที่จองไว้ ทำให้วงเงินกู้ลดลงและเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น
การวางเงินดาวน์คอนโดมีความสำคัญเพราะเป็นการแสดงเจตนาและความจริงจังในการซื้อ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการลดภาระในการผ่อนชำระในระยะยาว เนื่องจากเงินกู้ที่น้อยลงย่อมส่งผลให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายน้อยลงด้วย นอกจากนี้ การวางเงินดาวน์ยังช่วยให้ผู้ซื้อสามารถทำสัญญาและโอนย้ายเพื่อเข้ามาอยู่ได้ทันทีเมื่อคอนโดสร้างเสร็จ
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเงินดาวน์คอนโดต้องจ่ายให้กับธนาคารเหมือนการผ่อนคอนโดทั่วไป แต่ความจริงแล้วการผ่อนคอนโดกับการผ่อนดาวน์คอนโดเป็นเงินคนละส่วนกัน ผู้ซื้อจะต้องจ่ายหรือผ่อนเงินดาวน์ให้กับโครงการคอนโดโดยตรง ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการดาวน์คอนโด?
โดยทั่วไปแล้ว เงินดาวน์คอนโดจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของราคาห้องที่ต้องการซื้อ ซึ่งจำนวนเงินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับราคาของโครงการนั้นๆ บางโครงการอาจมีโปรโมชั่นเรียกเก็บเงินดาวน์น้อยกว่านี้เพื่อดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย
สำหรับค่างวดในการผ่อนดาวน์ในแต่ละเดือนจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการทำสัญญาและรูปแบบการผ่อนดาวน์ที่คุณเลือก ยิ่งระยะเวลาผ่อนดาวน์นานเท่าไร ค่างวดก็จะยิ่งน้อยลงตามไปด้วย
ตัวอย่างเช่น หากซื้อคอนโดราคา 4,500,000 บาท และต้องวางเงินดาวน์ 10% คือ 450,000 บาท
- ถ้าเลือกผ่อนดาวน์เป็นเวลา 30 เดือน จะต้องจ่ายเดือนละ 15,000 บาท
- ถ้าเลือกผ่อนดาวน์เป็นเวลา 15 เดือน จะต้องจ่ายเดือนละ 30,000 บาท
การเลือกระยะเวลาในการผ่อนดาวน์จึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระเงินของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดภาระทางการเงินที่มากเกินไป
วิธีการจ่ายเงินดาวน์คอนโดมีกี่แบบ?
การจ่ายเงินดาวน์คอนโดมีหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมกับฐานะทางการเงินของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ดังนี้
การจ่ายดาวน์คอนโดแบบเงินก้อนครั้งเดียว
รูปแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเก็บก้อนใหญ่และต้องการเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้เสร็จสิ้นในคราวเดียว การจ่ายดาวน์แบบครั้งเดียวคือการชำระเงินดาวน์ทั้งหมดด้วยเงินก้อนเดียว หรือบางคนอาจเลือกชำระผ่านบัตรเครดิตก็ได้ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโครงการ)
วิธีนี้มักพบได้บ่อยในโครงการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะผู้ซื้อสามารถทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และเข้าอยู่ได้ทันที นอกจากนี้ การจ่ายดาวน์ครั้งเดียวยังอาจได้รับส่วนลดพิเศษจากโครงการอีกด้วย ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตามการชำระเงินในแต่ละเดือน และสามารถจัดการกับเรื่องเอกสารต่างๆ ได้ง่ายกว่า
การผ่อนดาวน์คอนโดแบบเท่ากันทุกงวด
เป็นรูปแบบที่เหมาะกับผู้ที่มีเงินก้อนแต่อยากสำรองไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน การผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวดคือการแบ่งจ่ายเงินดาวน์เป็นงวดๆ เท่ากันในแต่ละเดือน
รูปแบบนี้มักใช้ในช่วงทำสัญญาซื้อขายหรือในระหว่างที่รอให้การก่อสร้างคอนโดเสร็จสมบูรณ์ โดยทั่วไปโครงการมักให้เวลาผ่อนประมาณ 1-3 ปี หรือตามระยะเวลาการก่อสร้างคอนโด วิธีนี้ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถบริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทราบจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนอย่างชัดเจน
การผ่อนดาวน์คอนโดแบบมีงวดบอลลูน
มีลักษณะคล้ายกับการผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวด แต่จะมีงวดพิเศษที่เรียกว่า “งวดบอลลูน” ซึ่งเป็นงวดที่ต้องจ่ายเงินในจำนวนที่มากกว่าปกติ
ตัวอย่างเช่น การผ่อนดาวน์ 300,000 บาท ในระยะเวลา 18 เดือน อาจแบ่งเป็นงวดปกติเดือนละ 10,000 บาท จำนวน 15 งวด และมีงวดบอลลูนเดือนละ 50,000 บาท ในงวดที่ 1, 9 และ 18
ผู้ที่เลือกผ่อนดาวน์แบบนี้จำเป็นต้องวางแผนการเงินให้ดี เพื่อให้มีเงินก้อนพร้อมชำระในงวดบอลลูนที่กำหนดไว้ ข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยให้ค่างวดในเดือนปกติมีจำนวนไม่สูงเกินไป แต่ต้องระมัดระวังและเตรียมเงินสำหรับงวดบอลลูนให้พร้อม

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจวางเงินดาวน์คอนโด
ระยะเวลาในการผ่อนดาวน์คอนโด
ระยะเวลาในการผ่อนดาวน์คอนโดของแต่ละโครงการจะไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะยึดตามระยะเวลาการก่อสร้างเป็นหลัก ซึ่งโครงการคอนโดขนาดใหญ่ที่มียูนิตเยอะมักมีระยะเวลาในการผ่อนนานกว่าโครงการขนาดกลางหรือเล็ก
โดยทั่วไป ระยะเวลาผ่อนดาวน์จะอยู่ที่:
- โครงการแบบ Low Rise (อาคารไม่สูงมาก): ประมาณ 10-18 เดือน
- โครงการแบบ High Rise (อาคารสูง): ประมาณ 24-36 เดือน
การรู้ระยะเวลาผ่อนดาวน์ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม และเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าใจถึงระยะเวลาในการผ่อนดาวน์ยังช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าควรเลือกวิธีการจ่ายดาวน์แบบใดจึงจะเหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด
เงื่อนไขและข้อกำหนดของการดาวน์คอนโด
คอนโดเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ดังนั้นก่อนตัดสินใจวางเงินดาวน์ คุณควรศึกษารายละเอียดและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อบังคับต่างๆ ของแต่ละโครงการให้ถี่ถ้วน เนื่องจากคอนโดแต่ละที่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
สิ่งที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่:
- จำนวนเงินดาวน์ที่ต้องวาง
- ระยะเวลาในการผ่อนดาวน์
- เงื่อนไขการขายดาวน์ต่อ (หากต้องการเปลี่ยนมือ)
- เงื่อนไขการขอคืนเงินดาวน์
ตัวอย่างเช่น หากคุณเปลี่ยนใจและต้องการขายดาวน์คอนโดต่อ ควรตรวจสอบในสัญญาว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ หรือหากต้องการขอคืนเงินดาวน์ โครงการจะคืนให้ได้เฉพาะในกรณีที่กู้สินเชื่อไม่ผ่าน หรือกรณีที่โครงการไม่สามารถสร้างเสร็จตามกำหนดเวลาเท่านั้น
หากวางเงินดาวน์แล้วแต่กู้ไม่ผ่าน มีทางออกอย่างไร?
การวางเงินดาวน์แล้วแต่ไม่สามารถกู้เงินซื้อคอนโดได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ในสัญญาข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมักจะมีการระบุเงื่อนไขและข้อกำหนดเกี่ยวกับกรณีนี้ไว้ หากคุณประสบกับปัญหาดังกล่าว มีแนวทางในการแก้ไขดังนี้:
- เจรจาต่อรองกับโครงการ: ติดต่อกับโครงการเพื่อขอให้ช่วยประสานงานกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ร่วมโปรโมชั่นกับโครงการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
- ขอเลื่อนวันรับโอนกรรมสิทธิ์: การขยายเวลาจะช่วยให้คุณมีโอกาสในการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม
- หาผู้กู้ร่วม: หากคุณวางแผนซื้อคอนโดเพื่ออยู่กับครอบครัว อาจพิจารณาชวนพ่อแม่ พี่น้อง หรือคนในครอบครัวมากู้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อ
- ขอคืนเงินดาวน์: หากพยายามทุกวิถีทางแล้วยังไม่สามารถกู้ได้ คุณอาจเจรจากับโครงการเพื่อขอคืนเงินดาวน์ เนื่องจากถือเป็นเหตุสุดวิสัย
- ขายดาวน์คอนโดต่อ: สำหรับคอนโดในโครงการที่มีชื่อเสียงหรือตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มักมีคนสนใจซื้อต่อ และยังมีโอกาสได้กำไรจากการขายดาวน์อีกด้วย

เทคนิคในการผ่อนคอนโดให้หมดเร็วขึ้น
หลังจากที่ผ่านขั้นตอนการวางเงินดาวน์และได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว คุณจะเริ่มต้นการผ่อนชำระคอนโด นี่คือเทคนิคที่จะช่วยให้คุณผ่อนคอนโดหมดเร็วขึ้น:
- ผ่อนให้ตรงเวลา: เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติม และยังช่วยสร้างประวัติการชำระเงินที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อต้องการรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นในอนาคต
- โปะเงินก้อน: การนำเงินก้อนมาชำระเพิ่มเติมเพื่อลดเงินต้น เป็นวิธีที่ช่วยลดระยะเวลาการผ่อนได้มาก เพราะเงินที่ชำระเพิ่มจะถูกนำไปตัดเงินต้นโดยตรง ไม่มีดอกเบี้ย หากคุณได้รับโบนัส เงินปันผล หรือมีเงินเย็นจำนวนมาก การนำมาโปะคอนโดจะช่วยให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น
- เพิ่มเงินค่างวด: หากคุณผ่อนมาสักระยะและพบว่ายังมีเงินเหลือในแต่ละเดือน ลองเพิ่มค่างวดให้มากขึ้น เช่น จากเดิมผ่อนเดือนละ 10,000 บาท ให้เพิ่มเป็นเดือนละ 12,000 บาท การเพิ่มค่างวดเพียงเล็กน้อยสามารถช่วยลดระยะเวลาการผ่อนลงได้หลายปี
- รีไฟแนนซ์: โปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำมักอยู่ในช่วง 1-3 ปีแรกของการกู้ หลังจากนั้นดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการทำรีไฟแนนซ์ หรือการยื่นกู้กับธนาคารใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยและทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น
สรุป
การวางเงินดาวน์คอนโดเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย การเข้าใจถึงความหมาย รูปแบบ และขั้นตอนต่างๆ ของการดาวน์คอนโดจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร
นอกจากนี้ การรู้เทคนิคในการผ่อนคอนโดให้หมดเร็วขึ้นยังช่วยให้คุณประหยัดเงินจากดอกเบี้ยและเป็นเจ้าของคอนโดได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้ สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าการซื้อคอนโดเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและเตรียมความพร้อมทางการเงินให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
#สาระ #การเงิน #ดาวน์คอนโด #วิธีดาวน์คอนโด #เงินดาวน์คอนโด #ผ่อนดาวน์คอนโด #กู้ซื้อคอนโด #ซื้อคอนโด #การเงิน #อสังหาริมทรัพย์