ผนังขึ้นราเป็นปัญหากวนใจภายในบ้านที่มาพร้อมกับหน้าฝนที่รับมือได้ยาก เพราะรู้ตัวอีกทีคราบราดำก็เปลี่ยนผนังบ้านของคุณที่เคยสดใสให้หม่นหมอง ไม่น่ามองไปเสียแล้ว ซึ่งปัญหาผนังขึ้นราในช่วงหน้าฝนเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างผนังที่รั่วซึม หรือปัจจัยด้านสภาพอากาศที่ทำให้อากาศภายในห้องชื้นติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดเชื้อราบนผนัง
นอกจากปัญหาเชื้อราบนผนังจะส่งผลให้บ้านของคุณไม่สวยงามและน่าอยู่น้อยลงแล้ว เชื้อราเหล่านั้นยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของสมาชิกในบ้านได้ด้วย โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีสมาชิกในบ้านเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ อย่างโรคภูมิแพ้และโรคหืดหอบ หรือบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ น้องหมาน้องแมว สปอร์ของเชื้อราก็อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังและระบบทางเดินหายใจได้
เชื้อราบนผนังจึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามแม้จะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ก็ตาม ในบทความนี้ Homeday จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีรับมือกับเชื้อราบนผนังเมื่อหน้าฝนมาเยือน
วิธีจัดการปัญหาผนังขึ้นราในช่วงหน้าฝนให้อยู่หมัด
สภาพอากาศเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ แต่การรับมือกับคราบดำบนผนังที่เกิดจากเชื้อราไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ยิ่งถ้าคุณสังเกตเห็นร่องรอยเหล่านั้นเร็ว และลงมือจัดการได้เร็วเท่าไหร่ ปัญหาผนังขึ้นราก็จัดการได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ไปดูวิธีจัดการกับเชื้อราบนผนังในช่วงหน้าฝนกันเลย
หาต้นตอของความชื้นและเชื้อรา
เชื้อราและสปอร์เชื้อราเป็นสิ่งที่มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ทั้งในอากาศ และพื้นผิวต่าง ๆ ซึ่งเชื้อราเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้น ดังนั้น เมื่อความผนังบ้านเริ่มมีความชื้นสะสมเลยมีความเสี่ยงที่เชื้อราจะเติบโตมากกว่าปกติจนทำให้เกิดรอยดำจากเชื้อราขึ้น ซึ่งความชื้นสะสมอาจเป็นผลมาจากปัญหาทางด้านโครงสร้าง อย่างบ้านที่สร้างมาหลายปีอาจมีรอยแตกตามผนัง หลังคาที่รั่วซึม หรือยางขอบหน้าต่างที่เสื่อมสภาพจนเกิดความชื้นสะสมในผนัง และเกิดเชื้อราตามมา
หรือบางครั้งสาเหตุของปัญหาผนังขึ้นราอาจมาจากความชื้นสะสมภายในห้องเป็นเวลานาน ยิ่งในหน้ามรสุมที่มีฝนตกหนักทุกวัน บวกกับห้องระบายอากาศได้ไม่ดีก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความชื้นสะสม และเชื้อราบนผนังตามมาได้เช่นกัน
การรู้ต้นตอของความชื้นและเชื้อราจะช่วยให้คุณสามารถอุดรอยรั่วของปัญหาผนังบ้านขึ้นราได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
กำจัดคราบเชื้อราและเชื้อรา
เมื่อฤดูฝนผ่านพ้นไป ความชื้นจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเชื้อราจะลดจำนวนลงตามไปด้วย แต่ยังทิ้งร่องรอยที่น่าหงุดหงิดใจไว้บนกำแพงบ้านของคุณ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะรอยดำจากเชื้อราแก้ได้หลายวิธี แถมไม่ยุ่งยาก แต่แนะนำว่าในขั้นตอนเหล่านี้ ควรสวมถุงมือยาง และหน้ากากอนามัย และแว่นตาป้องกันสารเคมีเพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อราและสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาด
วิธีกำจัดคราบเชื้อรา
คราบจากปัญหาผนังขึ้นราสามารถเช็ดและขัดให้หลุดออกได้ด้วยการผสมน้ำเปล่ากับน้ำยาซักผ้า หรือคุณจะใช้น้ำยาล้างจานได้ก็ได้เหมือนกัน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสมไว้เช็ดวนไปที่คราบวนเป็นวงกลม ร่วมกับการใช้แปรงขัด โดยเริ่มจากการใช้ขัดเบา ๆ เพื่อถนอมพื้นผิวผนัง และป้องกันสปอร์ของเชื้อราฟุ้งกระจายในอากาศ
สำหรับบ้านหรือคอนโดที่ติดวอลล์เปเปอร์ แล้ววอลล์เปเปอร์ขึ้นรา วิธีนี้อาจช่วยลดคราบได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้ลอกวอลล์เปเปอร์ออกมาดู คุณอาจไม่รู้เลยว่าด้านหลังผืนวอลล์เปเปอร์ของคุณอาจมีคราบเชื้อราซ่อนอยู่หรือร่องรอยความชื้นสะสมจากการรั่วซึมและทำให้เชื้อรากลับมาได้อีก
วิธีกำจัดเชื้อรา
คุณสามารถกำจัดเชื้อราที่เป็นต้นตอของราดำได้หลายวิธี และวิธีเหล่านี้อาจช่วยลดคราบดำฝังแน่นได้ด้วย แถมอุปกรณ์ที่ใช้ก็เป็นของที่ใกล้ตัวสุด ๆ ซึ่ง Homeday ขอแนะนำว่าให้คุณเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น ลองใช้ไปทีละวิธี และไม่ผสมน้ำยาที่จะแนะนำต่อไปนี้รวมกันเพื่อความปลอดภัย ถ้าเข้าใจแล้ว มาดูกันว่ามีตัวช่วยไหนที่จะช่วยกำจัดราบนผนังได้บ้าง
- น้ำส้มสายชู 5–6 เปอร์เซ็นต์: การใช้น้ำส้มสายชูกำจัดเชื้อราถือเป็นวิธีที่อ่อนโยนในการจัดการกับปัญหาผนังขึ้นราในช่วงหน้าฝน ทั้งกับผู้ใช้และผนังมากกว่าวิธีอื่น โดยสามารถใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูแล้วเช็ดที่ผนัง แล้วทิ้งไว้ได้เลย
- สเปรย์แอลกอฮอล์ 80 เปอร์เซ็นต์: เชื่อว่าแทบทุกบ้านน่าจะต้องมีแอลกอฮอล์ติดบ้านไว้ ซึ่งคุณสามารถใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดใส่ผ้าแล้วเช็ดบริเวณผนังที่มีคราบเชื้อรา แทนการฉีดโดยตรงไปที่ผนังเพื่อลดการฟุ้งกระจาย และช่วยให้ผนังแห้งเร็วขึ้น
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์: น้ำยาล้างแผลที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป วิธีใช้ก็เพียงนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วนผสมกับน้ำเปล่า 1 ส่วน และใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสม แล้วเช็ดบริเวณผนังที่ขึ้นราได้เลย
- สารฟอกขาว: สารฟอกขาวเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ควรใช้อย่างระวัง และไม่เหมาะกับผนังไม้ เพราะอาจกัดเนื้อไม้ได้ โดยให้ผสมน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำเปล่า 99 ส่วน เช่น ถ้าคุณใช้น้ำ 1 ลิตรให้ใช้น้ำยาฟอกขาว 10 มิลลิลิตรเท่านั้น จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสมน้ำยาไว้ บิดหมาด แล้วเช็ดราบนผนัง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าเช็ดซ้ำในขั้นตอนสุดท้าย
ป้องกันปัญหาผนังขึ้นรากับมากวนใจในหน้าฝน
อย่างที่ได้บอกไปในตั้งแต่สเต็ปแรกว่าแก้ปัญหาผนังขึ้นราให้ได้ผลและอยู่หมัดต้องเริ่มจากการหาตัวการของปัญหาที่ทำให้เกิดเชื้อราก่อน ซึ่งหากคุณเจอต้นเหตุ และแก้ไข้เรียบร้อยแล้ว เช่น ซ่อมแซมรอยแตกร้าวบนกำแพง อุดรอยรั่วที่ขอบวงกบ หรือเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาตำแหน่งที่รั่ว วิธีต่อไปนี้จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ผนังบ้านที่คุณรักต้องหมองจากเชื้อราได้มากขึ้น
- เพิ่มการไหลเวียนของลมภายในบ้านหรือห้องให้อากาศถ่ายเท อย่างการเปิดหน้าต่างและประตูให้ลมผ่าน หรือการติดเครื่องดูดอากาศ
- เปิดผ้าม่านให้แสงเข้าเป็นประจำ แสงแดดสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อราได้ และยังช่วยลดความชื้นสะสมภายในห้องซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เชื้อราเติบโต
- เลือกใช้น้ำยาป้องกันเชื้อราบนผนังก่อนทาสี หรือเลือกใช้สีทาผนังที่มีสารป้องกันเชื้อราเพื่อลดความเสี่ยงปัญหาผนังขึ้นรา แม้ผนังเกิดการรั่วซึม หากเป็นสีทาภายใน ควรเลือกสีที่ไม่เป็นพิษหรือมีความเป็นพิษต่ำ
เพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้ปัญหาผนังขึ้นราได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะฤดูฝนหรือฤดูไหน ๆ ก็ตาม ซึ่งช่วยทวงคืนผนังที่สะอาดและน่ามองของบ้านคุณให้กลับคืนมา และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพของคนในบ้านที่เกิดจากเชื้อราได้ด้วย
บทความที่คุณอาจสนใจ