รู้หรือไม่ว่าจำนวนบ้านและคอนโดมิเนียมมือสองที่รอขายให้คนไปเลือกซื้อมีมากถึง 1.6 แสนยูนิต บ้านเดี่ยวมีมากที่สุด 45% รองลงมาทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม เหตุผลที่บ้านมือสองค้างในระบบเป็นจำนวนมากขนาดนี้ มาจากเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน รายได้ที่ไม่มั่นคงของคนในวัยซื้อบ้าน แบงก์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีหลายเคสที่ยื่นกู้แล้วไม่ผ่าน แต่เหรียญอีกด้านก็ยังพบข้อดีว่ายังเป็นโอกาสของคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้นในราคาต่ำกว่าบ้านเดี่ยวถึง 20-30% ในขณะที่ก็สร้างโอกาสให้กับคนที่อยู่ในสาย Flip ธุรกิจที่เติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

Flip หรือ Flipping คืออะไร?
ธุรกิจนี้คือ การคัดเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดแล้วนำมาปรับปรุง จากนั้นก็ขายต่ออย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไร การซื้อทรัพย์เข้ามาไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ ยิ่งซื้อได้ต่ำกว่าราคาตลาดได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการทำกำไรก็มีมากขึ้น Flipping ในต่างประเทศเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากนั้นก็เริ่มมีนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยเริ่มหันมายึดโมเดลนี้ในการสร้างเงิน อาจได้เห็นกำไร 50,000-100,000 บาทต่อยูนิตหลังจากหักต้นทุนค่าดำเนินการต่าง ๆ แล้ว
ความสำเร็จของ Flip
คนที่สนใจเข้าสู่การทำธุรกิจ Flip ที่เรียกกันว่า Flipper จำเป็นต้องมีประสบการณ์และศึกษาหาข้อมูลอย่างรอบด้าน เพราะหากเลือกทรัพย์ผิด ไม่สามารถปล่อยขายได้ จะเกิดภาวะทุนจม และขาดสภาพคล่องได้
แนวทางที่ต้องรู้ก่อนลงทุนมีอะไรบ้าง?
- ประเภทอสังหาฯ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดส่วนใหญ่เป็นบ้านและคอนโดฯ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายรายได้ปานกลางลงมา และในกลุ่มที่เช่าที่พักเพื่ออยู่อาศัย เพราะหากเทียบราคาเช่ากับซื้อไม่ต่างกันมากจนเกินไป โอกาสการขายก็มีมากขึ้น
- ทำเล ควรออกสำรวจพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์หาจุดเด่นต่าง ๆ เช่น ใกล้แหล่งงาน ใกล้ตลาด อยู่ในซอยไม่ลึกมาก เพราะจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าออกเพิ่มเข้ามา รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ
- ราคา การค้นพบบ้านและคอนโดฯ ในหลากหลายช่องทางทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และการบอกต่อจากนายหน้า เพื่อให้ได้ทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด
- บริหารจัดการต้นทุนในการปรับปรุงและตกแต่งให้สวยพร้อมเข้าอยู่ได้ เช่น ทาสีใหม่ เปลี่ยนอุปกรณ์ที่จำเป็นภายในบ้าน เช่น ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และพื้นห้อง ถ้าเลือกทรัพย์ที่มีปัญหาชำรุดหลายจุดยิ่งต้องคุมต้นทุนให้ดี พร้อมกับคุณภาพงานที่สามารถดึงดูดผู้ซื้อ
- การทำมาร์เก็ตติ้ง วันนี้มีหลายช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้ซื้อ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ดังนั้นการกำหนดลูกค้าไว้ชัดเจนจะทำให้การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น วัยทำงาน ฐานรายได้ รวมถึงนักลงทุนซึ่งเป็นกลุ่มที่ขยายตัวอย่างมาก เพราะลงทุนในทรัพย์ที่ไม่สูง แต่สามารถนำไปปล่อยเช่าสร้างรายได้ประจำ
การซื้อทรัพย์มาในราคาที่เหมาะสมแล้วนำมาเพิ่มมูลค่าจากการปรับปรุงใหม่ เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ และสร้างโอกาสให้กับคนทำธุรกิจ ผู้ซื้อ และนักลงทุน