หลายคนที่เลี้ยงแมวอาจเคยได้ยินเรื่องโรคแมวข่วน หรือ Cat Scratch Disease (CSD) มาบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจว่าโรคนี้คืออะไร ติดต่อได้อย่างไร และป้องกันได้หรือไม่ บทความนี้จะอธิบายทุกแง่มุมของโรคแมวข่วนอย่างละเอียด เพื่อให้เจ้าของแมวเข้าใจและสามารถดูแลทั้งตัวเองและสัตว์เลี้ยงได้อย่างปลอดภัย
โรคแมวข่วนคืออะไร?
โรคแมวข่วน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Bartonella henselae ซึ่งสามารถติดต่อจากแมวสู่คนได้ผ่านการข่วนหรือกัด โดยเชื้อนี้มักอาศัยอยู่ที่เล็บและในช่องปากของแมว แต่ไม่ได้หมายความว่าแมวทุกตัวจะมีเชื้อนี้ ส่วนใหญ่พบในแมวจรจัดหรือแมวที่ออกไปนอกบ้านเป็นประจำ เนื่องจากมีโอกาสสัมผัสกับหมัดซึ่งเป็นพาหะสำคัญของเชื้อ
การติดเชื้อในคนมักเกิดขึ้นหลังจากถูกแมวที่มีเชื้อข่วนหรือกัด โดยบริเวณที่ถูกข่วนจะเกิดรอยแดงและบวมภายใน 3-10 วัน ต่อมาอาจมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว และต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงอาจบวมโต

อาการของโรคแมวข่วน
อาการในคน
- ระยะแรก (1-2 สัปดาห์หลังถูกข่วน):
- รอยแดงและบวมบริเวณที่ถูกข่วน
- อาจมีตุ่มหนองเล็กๆ
- รู้สึกเจ็บหรือคัน
- ระยะที่สอง (2-4 สัปดาห์):
- ต่อมน้ำเหลืองบวมโต โดยเฉพาะบริเวณใกล้รอยข่วน
- มีไข้ต่ำๆ
- อ่อนเพลีย
- ปวดเมื่อยตามตัว
- เบื่ออาหาร
อาการในแมว
ส่วนใหญ่แมวที่มีเชื้อจะไม่แสดงอาการป่วย แต่บางตัวอาจมี:
- ไข้เล็กน้อย
- เบื่ออาหารชั่วคราว
- ซึม

ใครบ้างที่มีความเสี่ยง?
กลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่:
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น
- ผู้ป่วยเอดส์
- ผู้ป่วยมะเร็ง
- ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- หญิงตั้งครรภ์

การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยโรคแมวข่วนจาก:
- ประวัติการสัมผัสกับแมว
- อาการทางคลินิก
- การตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อเชื้อ
- การตรวจชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองในกรณีที่จำเป็น
การรักษา
- กรณีอาการไม่รุนแรง:
- ส่วนใหญ่หายได้เองภายใน 2-4 เดือน
- รักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้
- ประคบอุ่นบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่บวม
- กรณีอาการรุนแรง:
- ให้ยาปฏิชีวนะ
- อาจต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล
- ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

การป้องกัน
สำหรับเจ้าของแมว
- ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสแมว
- หลีกเลี่ยงการเล่นรุนแรงที่อาจทำให้แมวข่วนหรือกัด
- ทำความสะอาดบาดแผลทันทีหากถูกข่วนหรือกัด
- ระมัดระวังเป็นพิเศษหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
สำหรับการดูแลแมว
- กำจัดหมัดอย่างสม่ำเสมอ
- ตัดเล็บแมวเป็นประจำ
- พาแมวไปตรวจสุขภาพตามกำหนด
- จำกัดการออกนอกบ้านของแมว
- ทำความสะอาดบาดแผลหรือรอยข่วนบนตัวแมว
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ไม่จำเป็นต้องยกเลิกการเลี้ยงแมวหากพบว่าแมวมีเชื้อ
- โรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน
- แมวเด็กมีโอกาสมีเชื้อมากกว่าแมวโต
- การรักษาสุขอนามัยที่ดีช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
- ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายได้เอง
สรุป
โรคแมวข่วนเป็นโรคติดต่อจากแมวสู่คนที่พบได้ไม่บ่อย แต่ควรระมัดระวังโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง การป้องกันทำได้ง่ายๆ ด้วยการรักษาสุขอนามัยที่ดีและการดูแลแมวอย่างเหมาะสม หากสงสัยว่าอาจติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
#Homeday #สัตว์เลี้ยง #สาระ #โรคแมวข่วน #CatScratchDisease #โรคติดต่อจากแมว #การเลี้ยงแมว #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #สัตวแพทย์ #โรคติดต่อจากสัตว์ #การดูแลแมว #สุขภาพ #การป้องกันโรค