กลุ่มบิวท์ฯ เปิดมุมมองแนวคิดการทำธุรกิจรับสร้างบ้านปี 68 มุ่งสร้างผลงานคุณภาพ ให้สะท้อนภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้ในทุกมิติ เพื่อเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและอยู่รอดในทุกสถานการณ์ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ยกระดับให้ทุกไซต์งานสามารถเป็นบ้านตัวอย่างได้ เพื่อส่งมอบบ้านคุณภาพสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีของคนอยากมีบ้านในทุกระดับราคา
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ กล่าวถึงมุมมองการทำธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2568 และในอีก 3 ปีข้างหน้า จะเน้นขับเคลื่อนโดยพัฒนาแบรนด์เพื่อนำธุรกิจขององค์กรให้ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นภายในองค์กรเพื่อส่งมอบความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้แม้จะต้องเผชิญกับความผันผวนต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะเห็นได้ชัดว่านับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 หรือแม้แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมาต่อเนื่องจากหลากหลายปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม ทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ ซึ่งถือเป็นการถอดบทเรียนสำคัญที่ทำให้ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ มุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตที่ไม่ได้สะท้อนออกมาแค่ในด้านของยอดขายและกำไร แต่มองที่การสร้างสรรค์กลยุทธ์อย่างไรที่จะนำองค์กรเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและก้าวสู่การเติบโตได้อย่างยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต

นายสุธี กล่าวถึง ความสำคัญของคุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้างว่าเป็นหัวใจและกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันธุรกิจรับสร้างบ้านซึ่งเป็นบ้านที่ผู้บริโภคปลูกสร้างเอง (ไม่รวมธุรกิจบ้านจัดสรร) ทั่วประเทศ มีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งอยู่ในมือของผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยกว่า 90% และอยู่ในมือของบริษัทรับสร้างบ้าน ประมาณไม่เกิน 15,000 ล้านบาท หรือไม่เกิน 7.5% ซึ่งนับว่าน้อยมาก ทั้งนี้ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่นิยมใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านมากนัก ไม่ใช่เป็นเหตุผลด้านราคาที่สูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้รับเหมารายย่อย แต่ปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจอยู่ที่ความคุ้มค่า กล่าวคือ ถ้าบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาก่อสร้างสูงกว่าผู้รับเหมารายย่อย แต่ถ้าบริษัทรับสร้างบ้านปลูกสร้างบ้านได้มาตรฐาน งานก่อสร้างมีคุณภาพดี ( ทั้ง SPEC วัสดุ และฝีมือช่าง) งานถูกต้องตามหลักวิชาช่าง ทั้งวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม งานมีความปราณีตเรียบร้อยสมกับราคาบ้าน รวมทั้งการบริการก่อนและหลังการขายที่ดี มีการรับประกัน ทั้งโครงสร้างบ้าน วัสดุ งานฝีมือ และให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค ในเรื่องการบริการอย่างครบวงจร เช่น งานออกแบบก่อสร้าง ขอใบอนุญาตก่อสร้าง ขอน้ำ ขอไฟฟ้า เลขที่บ้าน ฯลฯ ก็เชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นอีกมาก
ดังนั้นกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ จึงมีกลยุทธ์สำคัญในปี 2568 โดยมีแนวคิดในการทำการตลาดแบบยั่งยืน (Sustainable Marketing) ทั้งด้านคุณภาพงานก่อสร้าง โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพตั้งแต่วันแรกของการก่อสร้าง และงานบริการที่ครบวงจร ควบคู่การทำ Branding เพื่อสร้างการจดจำและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรในระยะยาว โดยคำนึงถึงปัจจัยหลักในการบริหารจัดการทั้งภายในและภายนอก ตั้งแต่พนักงาน ผู้รับงาน ผู้บริโภค ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สิ่งแวดล้อมและชุมชนใกล้เคียง โดยไม่เน้นแข่งขันด้านราคาและโปรโมชันที่ดึงดูดลูกค้าได้ในระยะสั้น หรือการขยาย Capacity ในการรับงาน เพื่อให้มีปริมาณมากขึ้น แต่ไม่สามารถควบคุมคุณภาพหรือมาตรฐานงานก่อสร้างได้ จนส่งผลกระทบต่อลูกค้าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
“โดยจุดสำคัญที่จะเน้นย้ำตั้งแต่แรก คือ การรักษาคุณภาพและมาตรฐานของไซต์งานก่อสร้าง เพราะเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ได้อย่างแข็งแกร่ง และช่วยขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นได้ เพราะไซต์งานก่อสร้างถือเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่แสดงถึงภาพลักษณ์ขององค์กรได้เป็นอย่างดี จนเกิดเป็น Storytelling ที่สร้างความประทับใจให้เห็นถึงกระบวนการก่อสร้าง ไม่ใช่แค่บ้านที่สร้างเสร็จ ให้เกิดเป็นภาพจำแก่ลูกค้าและผู้ที่พบเห็น จนบอกต่อกันในกลุ่มเพื่อนบ้านและผู้บริโภค เพราะกว่าจะเป็นบ้านสักหลังเราไม่ได้อยู่แค่กับลูกค้า แต่เราต้องอยู่ในพื้นที่ของชุมชน สังคม อย่างน้อยๆ 8-12 เดือน หรือมากกว่านั้น การดูแลมาตรฐานและคุณภาพของไซต์งานจึงเป็นมุมมองที่สะท้อนภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในการสร้างแบรนด์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังได้ผนึกกำลังกับทีมผู้รับงาน วิศวกร ทีมช่าง พนักงานขาย และยังเน้นให้ความรู้ทีมซัพพอร์ตหลังบ้านทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยการจัดอบรม การจัดประชุมให้ความรู้ทีมงานเรื่องเทรนด์สเปควัสดุต่างๆ การเพิ่มขั้นตอนการตรวจเช็คความเรียบร้อยของไซต์อย่างละเอียดก่อนส่งมอบ โดยบริษัทฯ ได้ตั้งคณะผู้ตรวจสอบบ้าน ทั้งทีมผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาด ฝ่ายก่อสร้าง และ Inspector เสมือนตัวแทนของลูกค้าที่ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานงานก่อสร้าง สู่ผลลัพธ์ที่นอกจากจะส่งมอบบ้านคุณภาพถึงมือลูกค้าแล้ว ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์การสร้างบ้านที่ดีให้แก่ลูกค้าอีกด้วย และเมื่อลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ แบรนด์ก็จะแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน”
นายสุธี กล่าวต่อว่า การจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคให้เกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในแบรนด์ จนส่งผลให้ตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นฟูได้นั้น จะต้องนำมาด้วยภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้หลากหลายและพิจารณาอย่างละเอียดมากขึ้น เน้นให้ความสำคัญกับสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าราคา โดยเฉพาะแบบบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการ และความมั่นใจในเรื่องการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างบ้านที่มั่นคงแข็งแรง ถือเป็นจุดแข็งสำคัญของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ที่ลูกค้าให้การยอมรับมาอย่างยาวนาน

สำหรับเป้าหมายในปี 2568 เราไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโตที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เป็นการรักษาเป้าหมายที่จะช่วยสร้างฐานของรายได้ที่แข็งแรงและยั่งยืนได้ในระยะยาวเป็นหลัก และด้วยสถานการณ์ตลาดภาพรวมในปีนี้ ยังมีความท้าทายอยู่ในหลายๆ ด้าน ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ สถานการณ์ทางการเมือง และการปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างต่างๆ ฯลฯ จึงตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่มบ้านระดับราคาที่น่าสนใจและมีแนวโน้มขยายตัวยังคงเป็นเซกเมนต์ประมาณ 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป ด้านแผนงานการตลาดเน้นการสื่อสารทั้งสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ และกิจกรรมทางการตลาด ทั้งการออกบูธ และกิจกรรม Site Seeing ที่เปิดบ้านให้ลูกค้าได้เจาะลึกทุกขั้นตอน โดยเน้นการสื่อสารที่ชูจุดแข็งเรื่องผลงานสร้างบ้านคุณภาพ การสร้างคอนเทนต์จากรีวิวของลูกค้าที่ใช้บริการจริง และการยกระดับการบริหารจัดการในทุกขั้นตอนงานก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการพัฒนาการดีไซน์แบบบ้าน ฟังก์ชันภายในบ้าน เทรนด์วัสดุใหม่ๆ และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไว้เติมเต็มความต้องการของลูกค้า และจากความเชี่ยวชาญของทีมสถาปนิกที่เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคแต่ละช่วงวัย จึงสามารถออกแบบและาพัฒนาแบบบ้านที่ครอบคลุมทุกความต้องการ อาทิ แบบบ้านสไตล์ Green Series, Modern Luxury Garage House, Modern Pool Villa ฯลฯ ปัจจุบันมีแบบบ้านให้เลือกสรรกว่า 120 แบบ ในดีไซน์และคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน
สำหรับลูกค้าที่สนใจหรือกำลังมีแผนสร้างบ้าน สามารถมาพบกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ พร้อมรับสิทธิพิเศษ กันได้ใน “งานรับสร้างบ้าน Focus 2025” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 8 ภายใต้แนวคิด “HOME: เพราะบ้าน คือจุดเริ่มต้นของความสุข” หรือสอบถามข้อมูลการสร้างบ้านและติดตามกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ 02 721 3999