–
โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวเปิดตัวใหม่กันอย่างคึกคักจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กระแสนักท่องเที่ยวชาวชาติที่เลือกไทยเป็น Destination ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย และจีน มีทั้งที่ปักหมุดเที่ยวและซื้อคอนโดฯ ไว้เป็นบ้านตากอากาศ โดยเฉพาะใน ภูเก็ต พัทยา และ หัวหิน ในหลายจังหวัดเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดโปรดของต่างชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้มี ‘กรุงเทพฯ-ชลบุรี’ ท็อปลิสต์คอนโด เพียง 2 จังหวัดเท่านั้นที่มาแรงแซงจังหวัดอื่น โดยวัดกันที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติในช่วง 5 ปี กับ 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของ ปี 2566 อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ในรอบ 5 ปี
ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ เป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าก่อนหรือหลังการระบาด ชาวต่างชาติก็ยังชื่นชอบที่จะซื้อคอนโดฯ ใน 2 เมืองหลักอยู่เช่นเดิมก็คือ กรุงเทพฯ และชลบุรี
ปี 2561 กรุงเทพฯ 38,340 ล้านบาท ชลบุรี 11,402 ล้านบาท
ปี 2562 กรุงเทพฯ 31,150 ล้านบาท ชลบุรี 11,637 ล้านบาท
ปี 2563 กรุงเทพฯ 27,758 ล้านบาท ชลบุรี 5,377 ล้านบาท
ปี 2564 กรุงเทพฯ 28,238 ล้านบาท ชลบุรี 5,892 ล้านบาท
ปี 2565 กรุงเทพฯ 39,936 ล้านบาท ชลบุรี 10,264 ล้านบาท
ปี 2566 กรุงเทพฯ 30,172 ล้านบาท ชลบุรี 14,105 ล้านบาท
ทั้งนี้ เหตุผลที่คอนโดฯ กรุงเทพฯ และชลบุรีเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ และทำให้มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เหนือกว่าอีกหลายเมืองท่องเที่ยวสำคัญ มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน
กรุงเทพมหานคร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ติดอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลือกไว้เป็นหมุดหมายของการเดินทาง ล่าสุด เว็บไซต์ travelness เปิดข้อมูล The Most Visited Cities in the World หรือ เมืองที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนมากที่สุดในโลก ปี 2023 ด้วยตัวเลขมากที่สุด 22.78 ล้านคน ขณะที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีนักท่องเที่ยว 19.10 ล้านคนและ อันดับ 3 ลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร มีนักท่องเที่ยว 19.09 ล้านคน
ด้านราคาคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ยังเป็นราคาที่เหมาะสมและจับต้องได้เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ในหลายประเทศที่ราคาพุ่งสูงไปมากแล้ว รวมทั้งความเป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม แวดล้อมด้วยสถานที่เที่ยวทางวัฒนธรรมและสตรีทฟู้ดที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ชาวต่างชาติต้องการซื้อที่พักอาศัยในเมืองหลวงแห่งนี้
ส่วนชลบุรี แน่นอนว่าเป็นจุดหมายของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทางธรรมชาติที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวสันทนาการแสงสีเสียงยามค่ำคืน รวมทั้งใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเศษจากกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับเป็นบ้านตากอากาศหลังที่สอง และการลงทุน
อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สะท้อนถึงปัจจัยบวกของตลาดห้องชุดในไทยที่เปิดกว้างให้แก่ผู้ซื้อต่างชาติ เนื่องจากภาพรวมการถือครองห้องชุดของคนต่างชาติยังมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนตามกฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 49 ของพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งในปี 2567 เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของสัดส่วนผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต่างชาติให้เพิ่มขึ้น และน่าจะสามารถเป็นส่วนที่มาช่วยชดเชยกำลังซื้อของคนไทยที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ได้
ที่มา : กรมที่ดิน
รวบรวมและประมวลผลโดย : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ปัก 7 ทำเล ‘ถูกและดี’ ย่านชานเมือง
- 10 อันดับ จังหวัดที่มีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุมากที่สุด
- 5 คอนโดบางแสน น่าอยู่ น่าลงทุน ทำให้คุณอยากมีบ้านหลังที่ 2
- ตึกที่สูงที่สุดมีตึกไหนบ้าง? เปิด 7 ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตึกไหนจะเข้ารอบ ไปดูกัน
#สมรสเท่าเทียม