ตอกย้ำสถาปัตยกรรมมีความสำคัญในทุกเรื่องราวจากอดีตจนถึงปัจจุบันและนำไปสู่อนาคต สมาคมสถาปนิกสยามฯ ร่วมกับ ทีทีเอฟ แถลงข่าวความพร้อมจัดงานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้แนวคิด “ทบทวน ทิศทาง: Past Present Perfect” ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษมากมาย รวมถึงจัดแสดงสินค้านวัตกรรมเพื่อการออกแบบ-ก่อสร้างครบวงจร จากผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 1,000 ราย คาดมีผู้ร่วมชมงานจากทั่วโลกกว่า 325,000 คน ตลอด 6 วันของการจัดงาน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความพร้อมของการจัดงานสถาปนิก’68 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความยิ่งใหญ่ต่อยอดการนำเสนอนิทรรศการเนื่องในโอกาสครบรอบ 90 ปี สมาคมฯ ซึ่งปีนี้ได้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “ทบทวน ทิศทาง: Past Present Perfect” นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ระลึกถึงการเดินทางของสถาปัตยกรรมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่ามีการเดินทางผ่านเรื่องราวและส่งต่อมายังปัจจุบันได้อย่างไร และที่ผ่านมาสถาปนิกได้ร่วมงานกับหลากหลายวิชาชีพ จากทั่วทุกภูมิภาค ได้สำรวจและทบทวนถึงทิศทางที่สถาปัตยกรรมไทยได้ก้าวเดินผ่านมาหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานเทคนิคและวัฒนธรรมจากอดีต การปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและความต้องการของสังคมในแต่ละยุค รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เคยเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันว่าเรามีเส้นทางและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนและตัวตนของสถาปนิกอย่างไรเพื่อมองอนาคตไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม การจัดงานสถาปนิก’68 นอกจากวัตถุประสงค์ของการเป็นพื้นที่เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกในแวดวงสถาปัตยกรรม ผ่านงานแสดงนิทรรศการ การประชุมสัมมนา การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ที่มีบทบาทส่งเสริมวิชาชีพสถาปัตยกรรม การพัฒนาองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม มีส่วนสำคัญต่อคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม รวมถึงยังสามารถสะท้อนศิลปวัฒนธรรม และมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจของประเทศได้ ทั้งยังเป็นสื่อกลางในการจัดแสดงงานออกแบบ วัสดุก่อสร้าง การให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เทคโนโลยี นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ รวบรวมผู้ประกอบการแบรนด์ชั้นนำของไทยและต่างประเทศ มาจัดแสดงบนพื้นที่เดียวกันที่ใหญ่มากถึง 75,000 ตร.ม.แล้ว คาดว่าจากความน่าสนใจของการจัดแสดงนิทรรศการ กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ และสินค้าบริการที่ครบวงจร งานสถาปนิก’68 จะได้ผลตอบรับที่ดีมีผู้เข้าร่วมงานทั้งไทยและต่างประเทศรวม 6 วันของการจัดงานกว่า 325,000 คน

นายธันว์ ศรีจันทร์ ประธานจัดงานสถาปนิก’68 กล่าวถึงความพร้อมด้านกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในงานสถาปนิก’68 ว่า ปีนี้ได้จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจไว้มากมาย อาทิ นิทรรศการ “ทบทวน ทิศทาง” การนำเสนอแนวคิดการทบทวนคุณค่าของงานสถาปัตยกรรมในอดีต หาข้อมูล วิเคราะห์ และนำมาออกแบบใหม่อีกครั้ง โดยผ่านการตีความของสถาปนิก อาจารย์ นักศึกษาจากโรงเรียนออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการเชื่อมช่วงเวลาจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นตัวอย่างการตีความจากอดีตสู่อนาคต ต่อด้วย “ชิ้นแรก ชิ้นล่า : From the First Piece to the Latest” พื้นที่นำเสนอผลงาน 2 ชิ้นประกอบไปด้วย ผลงานการออกแบบชิ้นแรก ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง และผลงานการออกแบบชิ้นล่าสุดที่แสดงถึงการพัฒนาและความก้าวหน้าของผลงานในปัจจุบัน อีกทั้ง เรื่องเล่า 3 รุ่น เป็นความสัมพันธ์ของคน 3 วัย ที่จะมาสะท้อนแนวทาง ต่อยอด ส่งต่อ ผ่านการทำงานร่วมกัน “บทสนทนา พร้อมภาพประกอบของคน 3 วัย หลากหลายสายงาน” ถัดมาคือ นิทรรศการสมาคมมัณฑนากร แห่งประเทศไทย : TIDA และ นิทรรศการและพื้นที่สัมมนาวิชาการ “TALA : ไทยไท” ปิดท้ายกับ นิทรรศการ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย : TUDA ซึ่งในแต่ละโซนมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย อาทิ การเปิดให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านงานสถาปัตยกรรม การเปิดรับสมาชิก การให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัล และจุดจำหน่ายสินค้าของสมาคมฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการจากทาง 4 องค์กรวิชาชีพสถาปนิก ได้แก่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย, สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย, สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ยังมีนิทรรศการวิชาการ ซึ่งเป็นนิทรรศการประกวดแบบเชิงแนวความคิด (ASA Experimental Design Competition) การแสดงผลงานการประกวดแบบในระดับนานาชาติที่เปิดให้สมาชิกสมาคมฯ สถาปนิก นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมส่งผลงานแสดงแนวคิดในการออกแบบภายใต้ธีม “อนาคตนิยม Future Nostalgia In Architecture”
ส่วนของนิทรรศการวิชาชีพ ประกอบด้วย นิทรรศการอาษาอนุรักษ์ นำเสนอผลงานที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2568, ASA Vernadoc 2025 นำเสนอผลงานเก็บข้อมูลสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นด้วยวิธี Vernadoc, โครงการอนุรักษ์โบราณสถานเพื่อเป็นอนุสรสถานมหาเถระเจ้าอุทุมพร และนิทรรศการเครือข่ายอนุรักษ์ แสดงงานของเครือข่ายอนุรักษ์ที่เคยทำงานร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยามฯ, นิทรรศการผลงานสถาบันการศึกษา, นิทรรศการงานประกวดแบบภาครัฐและองค์กรอื่นๆ นำเสนอผลงานออกแบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและเมือง, นิทรรศการ ASA TOD การนำเสนอแนวทางเลือกในการพัฒนาที่ดินรอบสถานีขนส่งสาธารณะตามแนวทาง Transit Oriented Development (TOD) เพื่อส่งเสริมการใช้ที่ดินในรูปแบบที่อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทางของระบบขนส่งต่างๆ พร้อมนิทรรศการและงานเสวนา ‘น้ำท่วม กับ หมวกยายเตียม’ จากน้ำใจ สู่การออกแบบที่พักพิงฉุกเฉินสะเทินน้ำสะเทินบกเพื่อชุมชน เป็นต้น
ในส่วนงานพื้นที่กิจกรรมและบริการ จะประกอบด้วย ACT+ASA Shop พื้นที่จำหน่ายหนังสือและของที่ระลึกสมาคม, ACT+ASA Club พื้นที่พบปะ จุดพักผ่อนประจำของชาวอาษา, มุมสถาปนิกอาสา พื้นที่บริการให้คำปรึกษา เรื่องแบบบ้าน จากสถาปนิกอาสา, ASA Night ในรูปแบบใหม่ กิจกรรมสังสรรค์พบปะตามประเพณีของเหล่าสมาชิกอาษาทุกรุ่น ทุกสมัย ทุกสถาบัน และ ASA Day Hey งานคอนเสิร์ตที่จะเป็นจุดศูนย์รวมเพื่อให้สมาชิกคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก๋าพบปะสังสรรค์ มอบความบันเทิงและได้ทำความรู้จักกับสมาชิกสมาคมกันมากขึ้น ซึ่งความพิเศษในปีนี้ มีการจัดประกวดดนตรีของ “เด็กถาปัด” ASA Day Hey Student Band Auditiion 2025 เพื่อเฟ้นหาวงเปิดสำหรับงาน ASA Day Hey อีกด้วย
สุดท้ายในส่วนของงานสัมมนา วิชาการ ประกอบด้วย ASA Forum & Professional Seminar ซึ่งในครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนความรู้จากรุ่นสู่รุ่น โดยแบ่งเป็นส่วน ASA International Forum 3 Gen ซึ่งจะเป็นงานบรรยายของสถาปนิกต่างชาติที่มีภูมิหลังและผลงานที่แสดงลักษณะของแต่ละยุคอย่างชัดเจน ขณะที่งานสัมมนา ASA Professional Seminar จะเป็นงานที่เชิญผู้เชี่ยวชาญในไทยของแต่ละสาขาวิชาที่มีประโยชน์แก่การประกอบวิชาชีพของสถาปนิกในปัจจุบัน โดยงานครั้งนี้จะมีความพิเศษ ASA Classroom สำหรับกิจกรรมสัมมนาที่มาในรูปแบบการทำ Workshop หรือสอนการใช้งานโปรแกรม Computer สำหรับงานออกแบบต่างๆ ทางด้านสถาปัตยกรรม โดยเน้นให้ผู้เข้าฟังได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและสามารถนำไปใช้ได้จริงด้วย

ด้าน นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า งานสถาปนิก’68 ในปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยเน้นการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย ซึ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยภาพรวมอุตสาหกรรมสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างของประเทศไทยในปัจจุบันถือว่ากำลังค่อยๆ ฟื้น จากปัจจัยด้านการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน รวมถึงเทรนด์การออกแบบที่เน้นเรื่องความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้มีการขยายตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างและโซลูชันการออกแบบที่สอดรับกับวิถีชีวิตสมัยใหม่มากขึ้น
สำหรับการจัดงานในปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีพื้นที่จัดแสดงสินค้าถูกจองไปแล้วกว่า 85% มีผู้แสดงสินค้าเข้าร่วมงานจำนวน 842 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2568) เพิ่มขึ้น 5.65% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รวมถึงผู้แสดงสินค้ารายใหม่จำนวน 191 ราย และผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศจำนวน 302 ราย หรือคิดเป็น 14.20% ของพื้นที่แสดงสินค้าทั้งหมด ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดวัสดุก่อสร้างไทยและโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ
ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 50.91% โดยสัดส่วนของผู้เข้าชมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มในวงการการก่อสร้าง อาทิ สถาปนิก วิศวกร นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้รับเหมา สูงถึง 83.51% ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 49.33% จากปีก่อน สำหรับสัดส่วนผู้เข้าชมจากต่างประเทศอยู่ที่ 16.66% ของยอดลงทะเบียนทั้งหมด ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดระยะเวลา 6 วันของการจัดงาน จะมีผู้เข้าชมงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 325,000 คน โดยมีสัดส่วนผู้เชี่ยวชาญในสาขาสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง (Professional Visitors) เพิ่มขึ้นจากเดิม 55% เป็น 60% ในปีนี้
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานคือการจัดแสดงพื้นที่ในรูปแบบพิเศษ หรือ Thematic Pavilion โดยปีนี้มีการจับคู่ดีไซเนอร์และแบรนด์วัสดุก่อสร้างมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ถึง 6 พื้นที่ ได้แก่ 1. Looklen Architects x S-ONE GROUP, 2. pbm X NIPPON PAINT, 3. Flat12x X VANACHAI GROUP, 4. A&A x FAMELINE, 5. ativich x VG, 6. POAR x WOODDEN ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสีเขียว วัสดุแห่งอนาคต การออกแบบเพื่อความยั่งยืน และเทคโนโลยีดิจิทัลในงานสถาปัตยกรรม เพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ที่สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้างจริงได้ เช่น สีนวัตกรรมของ NIPPON PAINT ที่ผลิตด้วย “ยางพารา” รายแรกในเอเชีย นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมที่น่าสนใจจากผู้แสดงสินค้าที่นำมาเปิดตัวภายในงานเป็นครั้งแรกภายใต้กิจกรรม Best Innovation Award 2025 อาทิ
-
- ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม New Interior Series จากแบรนด์ TOSTEM – ที่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสุนทรียภาพที่กลมกลืน ไร้รอยต่อ ลดทอนส่วนเกินที่ไม่จำเป็น เช่น ซ่อนสกรูและฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้มองเห็นจากภายนอก
- จระเข้ คิ้ว GREEN จากแบรนด์ JORAKAY – GPVC นวัตกรรม PVC ไร้สารอันตราย เจ้าแรกในไทย ใช้สำหรับช่วยปกป้องขอบมุมกระเบื้อง ด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นสูง ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยคำนึงถึงการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
- VENENO Collection UNITEC Technology จากแบรนด์ WDC – กระเบื้องพอร์ซเลน ใช้ปูพื้น ผนัง สำหรับงานออกแบบสถาปัตยกรรม โดยมีการผสมผสานนวัตกรรมทางผิวหน้าที่ล้ำสมัย ทำให้ขอบเขตการใช้งานได้ออกจากกรอบเดิมของวัสดุปิดผิว
- Super Hooth ระบบบำบัดกลิ่นและควัน จากแบรนด์ HOOTH – นวัตกรรมใหม่สำหรับเครื่องดูดควันระบบที่ใช้สำหรับครัวบ้าน เพื่อตอบโจทย์ด้านคุณภาพในการดูดกลิ่น ควัน ละอองน้ำมัน รวมถึงรักษาสภาพแวดล้อมบริเวณรอบบ้านไม่ให้เกิดเขม่าและคราบน้ำมัน
- Kanguru ตู้อเนกประสงค์แขวนรั้ว จากแบรนด์ DOS – คิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานสำหรับบ้านที่มีพื้นที่หน้าบ้านจำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาและออกแบบการใช้งานอย่างลงตัว ด้วยการรวมเอา ป้ายบ้านเลขที่ กล่องพัสดุ ตู้จดหมาย และถังขยะ รวมเข้าด้วยกันในรูปแบบ 3 in 1
ที่สำคัญยังมีผู้ประกอบการด้านวัสดุก่อสร้างชั้นนำอย่าง SCG ที่เตรียมนำเทรนด์วัสดุก่อสร้างและโซลูชันตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “SEAMLESS QUALITY LIVING เชื่อมต่อทุกมุมมองเพื่อการใช้ชีวิต” มาจัดแสดงภายในงาน พร้อมจัดเต็มสินค้านวัตกรรมงานออกแบบที่สวยงาม ปลอดภัย และอยู่สบายเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในทุก ๆ วัน เข้ากับแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “Waste to Construction” ที่นำวัสดุเหลือใช้กลับมาเพิ่มมูลค่า และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ตอกย้ำผู้นำ “Low Carbon Materials” พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ โซลูชันยกระดับการอยู่อาศัยใช้พลังงานสะอาดและเสริมสร้างคุณภาพอากาศที่ดี นอกจากนี้ยังมีโปรเจค Green Collaboration พิเศษที่เปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรกอีกด้วย
และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน ทางผู้จัดได้เตรียมบริการรถตู้รับ-ส่งฟรีจากงานสู่ปลายทางสถานีรถไฟฟ้าหลัก (MRT สถานีสวนจตุจักร, MRT สถานีพระราม 9) ตั้งแต่เวลา 09.30 – 20.30 น. รวมทั้งยังมอบสิทธิพิเศษต่างๆ จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 29 ราย ครอบคลุมทั้งหมวดอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรม และการเดินทาง เช่น Bangkok Airways, Grab, Bolt, LINE MAN RIDE, โรงแรมทีเค พาเลซ, โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ม และร้านอาหารบริเวณโดยรอบอิมแพ็คอีกมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้
นายศุภแมน กล่าวปิดท้ายว่า งานสถาปนิก’68 จะเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมสถาปัตยกรรมและก่อสร้างไทยก้าวหน้าและเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมุ่งหวังการสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่น ซึ่งจะดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัสวงการสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างในประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจออกแบบ-ก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระดับนานาชาติ
สำหรับงานสถาปนิก’68 ภายใต้แนวคิด ทบทวน ทิศทาง : Past Present Perfect มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้แล้ววันนี้! พร้อมรับหนังสือ Architect’25 Hand Guide (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด) และลุ้นรับของที่ระลึกหน้างาน มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.ArchitectExpo.com และ Facebook Page : งานสถาปนิก : ASA EXPO