Q District

รู้จักกับ Sleep Tourism เทรนด์ท่องเที่ยวเพื่อการนอนที่กำลังมาแรง

Sleep Tourism มีใครเคยได้ยินเทรนด์ใหม่นี้กันบ้างหรือยังครับ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับ Staycation การท่องเที่ยวใกล้บ้าน เปลี่ยนไปนอนโรงแรม หากิจกรรมสบาย ๆ ทำเพื่อพักผ่อน แบบไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง เทรนด์นี้ก็ฮิตมาก ๆ ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาครับ และปัจจุบันก็มีหลายท่านที่ยังใช้วิธีนี้ในการพักผ่อนอยู่ แทนที่จะขับรถ 2-3 ชั่วโมงไปทะเล หรือเดินทางไปต่างประเทศ เพราะการเปลี่ยนบรรยากาศจากอะไรเดิม ๆ ไม่จำเป็นต้องไกลบ้านครับ แล้ว Sleep Tourism มีความแตกต่างกับ Staycation อย่างไรบ้าง วันนี้จะพามาทำความรู้จักกันครับ

Sleep Tourism คืออะไร?

ชื่อก็แปลความหมายได้ตรงตัวเลยครับ มันก็คือ ‘การท่องเที่ยวเพื่อการนอน’ นั่นแหละครับ โต้ง ๆ แบบนี้เลย มันจะแตกต่างตรงที่ Staycation เราอาจจะพักในโรงแรมที่มีกิจกรรมให้เราทำ เช่น ว่ายน้ำ เข้าสปา นวดอโรมา ทานบุฟเฟ่ต์ ปั่นจักรยานชมเมือง หาประสบการณ์ใหม่ ๆ ฯลฯ แต่ Sleep Tourism จะเป็นการ “ย้ายที่นอน” เพื่อปรับปรุงคุณภาพในการนอนหลับของเราอย่างแท้จริง เพื่อให้เราได้นอนเต็มอิ่ม ได้ฮีลลิงทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มรูปแบบ 

การนอนที่บ้าน แตกต่างจาก Sleep Tourism อย่างไร?

แตกต่างแน่นอนครับ เพราะ Sleep Tourism สถานที่ที่เราไปเข้าพัก จะต้องมีจุดเด่นเรื่องที่นอน หมอน ผ้าห่ม ที่ได้คุณภาพ ที่สามารถมอบประสบการณ์การนอนหลับที่ยอดเยี่ยมให้กับเราได้ ต้องอยู่ในพื้นที่ที่สงบ หรือไม่เช่นนั้น ห้องก็ต้องมีความสามารถในการบล็อกเสียงรบกวนจากภายนอกได้ อุณหภูมิภายในห้องและเตียงต้องเหมาะสม บางที่ก็อาจจะมีโปรแกรมหรือเทคโนโลยีเสริมเพิ่มเติมโดยเฉพาะ ที่สามารถช่วยยกระดับคุณภาพการนอนหลับของเราได้ คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หลับยาก ตื่นกลางดึก ตื่นนอนแล้วเหนื่อยล้าไม่สดชื่น รู้สึกง่วงนอนระหว่างวัน Sleep Tourism จะสามารถช่วยเยียวยาได้อย่างแน่นอน

Sleep Tourism เหมาะกับใครบ้าง?

Sleep Tourism เหมาะทั้งสำหรับคนทั่วไปและผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ สำหรับบุคคลทั่วไปที่กำลังมองหาประสบการณ์การนอนที่แปลกใหม่ในช่วงวันหยุด หรืออยากผ่อนคลายจากความเครียดและความเหนื่อยล้า การหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวันด้วยการนอนหลับก็เป็นอะไรที่น่าลอง ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ Sleep Tourism ก็สามารถช่วยให้สุขภาพและการนอนหลับของเราดีขึ้นได้ครับ

ข้อดีของ Sleep Tourism

1. Sleep Tourism ช่วยแก้ปัญหาการนอนหลับ

ข้อดีของ Sleep Tourism ประการแรก แน่นอนว่าเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการนอนหลับครับ สำหรับคนที่มีปัญหานี้อยู่ การได้ท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ทั้งโรคความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดในสมอง, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคซึมเศร้า และอื่น ๆ

2. Sleep Tourism ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและร่างกาย

Sleep Tourism ทำให้เราได้นอนในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ไหลเวียนตลอดทั้งคืน ปริมาณออกซิเจนที่เพิ่มขึ้น จะสามาระช่วยในการคิด การทำงานของสมอง ทำให้มีสมาธิมากขึ้น ช่วยสลายกรดแลคติกในกล้ามเนื้อได้ ทำให้เราหายเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ ได้เร็วขึ้น

3. Sleep Tourism ช่วยบรรเทาความเครียดจากการมองเห็นและการได้ยิน

ความเครียดนั้นอยู่รอบ ๆ ตัวของเราครับ ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอนที่เป็นเซฟโซนของเรา บางคนทำงานที่บ้าน แค่มองเห็นภาระงาน ก็อาจทำให้เกิดความกังวล นอนไม่หลับได้แล้วครับ บางคนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง มีเสียงรบกวนจากงานปาร์ตี้ของเพื่อนบ้าน และปัญหาอื่น ๆ การออกไป Sleep Tourism จะช่วยให้เราได้พักหายใจ คลายความเครียดได้อย่างแน่นอน

4. Sleep Tourism มอบประสบการณ์และความทรงจำที่ไม่เหมือนใคร

Sleep Tourism จะเปิดประสบการณ์ในการนอนหลับที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มักจะนอนไม่สบาย ปวดเนื้อ เมื่อยตัว ตกหมอน นอนไม่หลับ หลับยาก และปัญหาอื่น ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้เราได้รับพลังงานกลับไปทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นความทรงจำที่ดี และเป็นการใช้เวลาในวันหยุดอย่างคุ้มค่ามาก ๆ ครับ

Sleep Tourism เป็นเทรนด์ที่จะได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างแน่นอนครับ เทรนด์ของการดูแลสุขภาพในช่วงหลังยุคโควิด-19 กำลังมาแรงมากจริง ๆ และการนอนหลับ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องของสุขภาพที่เราต้องให้ความสำคัญ ในอนาคต การท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักต่าง ๆ จะเริ่มหันมาสนใจเทรนด์นี้กันมากขึ้น นักท่องเที่ยวเชิงนอนหลับอย่างเรา ๆ ก็จะได้มีตัวเลือกมากขึ้นกันอย่างแน่นอนครับ

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
บี.กริม เพาเวอร์ และ ดิจิทัล เอดจ์ ร่วมตอกเข็มฤกษ์ เริ่มโครงการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 24,520 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดให้บริการปลายปี 2569 เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง AI และ Cloud ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข่าวสาร
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ปักหมุดต้นแบบ ‘องค์กรสร้างคน’ ส่งต่อความรู้ด้านการบริหารบุคลากรสู่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
ข่าวสาร
ที่สุดของกรุงเทพฯ เปิดแล้ว Central Park แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์คนเมืองผสานธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
ข่าวสาร
KTC สร้างสะพานพันธมิตร ขับเคลื่อน K-Food Soft Power จากเกาหลีสู่การเดินทางที่มีความหมาย
ข่าวสาร
แม่ทัพใหญ่ BAM ร่วมเสวนา OSK Speak Thai Fight “สู้ได้…หรือได้แค่สู้” ตอกย้ำบทบาท AMC เสาหลักแก้ปัญหาหนี้เสีย สร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
Loading..