ซื้อบ้านตัวอย่างดีไหม? เปิด 8 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านตัวอย่าง

           มีใครกำลังจะซื้อบ้านกันอยู่บ้างคะ หลายครั้งเวลาไปชมบ้านตัวอย่างแล้วรู้สึกถูกใจในงานตกแต่งของทางโครงการกันใช่มั้ยล่ะคะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น, มุมทานข้าว, ห้องน้ำ, ห้องครัว และห้องนอน ต่างก็ลงล็อกพอดีเป๊ะ ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่าลงตัว เพราะส่วนใหญ่เป็นบิลต์อิน แถมยังคุมโทนสีและสไตล์ไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด ทำให้เหมือนเราได้อยู่บ้านในฝันตาม Pinterest เลยก็ว่าได้ แต่อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจกันนะคะ เพราะแม้ราคากับสิ่งที่ได้ จะล่อตาล่อใจเราสุด ๆ แต่บ้านตัวอย่างก็อาจซ่อนจุดบอดหลาย ๆ จุดเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จำตอบคำถามที่ว่า “ซื้อบ้านตัวอย่างดีไหม?” วันนี้ Homeday เลยนำ 8 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านตัวอย่างมาฝากกันค่ะ แต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านกันได้เลย

@homeday.co.th 🖼️ ซื้อบ้านตัวอย่างดีไหม? เปิด 8 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านตัวอย่าง 🛋️ #บ้านตัวอย่าง #บ้าน #บ้านหลังแรก #ซื้อบ้าน #แต่งบ้าน #แต่งบ้านงบน้อย #ไอเดียแต่งบ้าน #tiktokแต่งบ้าน #รู้หรือไม่ #บ้านพร้อมอยู่ ♬ This Food – raspberrysounds

1. วัสดุอาจแข็งแรงกว่าหรือแข็งแรงน้อยกว่าบ้านจริงก็ได้

           บางโครงการ (ส่วนใหญ่) ก็รีบสร้างบ้านตัวอย่าง เพื่อที่จะรีบเปิดการขายค่ะ ถ้ามองด้วยตาเปล่าเราจะแยกไม่ออกเลย ว่าระหว่างบ้านจริงกับบ้านตัวอย่างนั้น มีโครงสร้างหรือวัสดุอะไรที่มีความแตกต่างกัน ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีความรู้ เดินเช็กเปรียบเทียบเอาระหว่างบ้านจริงและบ้านตัวอย่างค่ะ ถ้าโชคดี ก็อาจได้เจอกับบ้านตัวอย่างที่มีคุณภาพดีเทียบเท่าหรือมากกว่าบ้านจริงค่ะ

2. เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่

           การซื้อบ้าน สิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านค่ะ ไหนจะต้องคุมโทน คุมสี คุมสไตล์ ไหนจะงานบิลต์อินที่ต้องหาช่าง แต่ละส่วนก็อาจจะต้องใช้ช่างคนละเจ้ากัน ทำให้หลาย ๆ คนค่อนข้างท้อใจกับขั้นตอนนี้พอสมควรค่ะ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นสไตล์ไหน ขอแค่ดูรวม ๆ แล้วมีความเข้ากัน สวยงาม ได้งานบิลต์อินสวย ๆ จัดวางอย่างลงตัว ใช้พื้นที่ภายในบ้านทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่า ก็อาจจะชอบบ้านตัวอย่างกันค่ะ แต่หลาย ๆ โครงการวัสดุก็อาจจะไม่ค่อยดี เน้นงานไม้อัดส่วนใหญ่ อาจมีปัญหาแผ่นปิดผิวหรือสีลอกในอนาคต อย่างไรก็ต้องทำการตรวจเช็กดูด้วยค่ะ ว่าไลฟ์สไตล์การใช้งานของเราเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มั้ย อีกทั้งบางครั้งเฟอร์ก็มักชำรุดเสียหายจากการใช้งานของลูกค้าที่เข้ามาชมบ้านด้วยค่ะ ถ้ารับได้ ก็ต้องมาวัดกันที่ความคุ้มค่าของราคาขายอีกทีหนึ่งค่ะ

3. บ้านเก่า ช้ำ มีตำหนิ

            เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ บางโครงการยูนิตน้อย ปิดการขายไว บ้านตัวอย่างก็จะไม่เก่ามาก บางโครงการยูนิตเยอะ ขายหมดช้า ผู้คนแวะเวียนเข้ามาดูบ้านตัวอย่างกันอยู่เรื่อย ๆ จับตรงนั้น ดูตรงนี้ นานวันเข้า บ้านก็เริ่มเก่าค่ะ ผนังอาจมีรอยคราบสกปรก, วอลเปเปอร์หลุดลอก, เฟอร์นิเจอร์ชำรุดเสียหาย, กระเบื้องบิ่นแตก, ประตูเป็นรอย และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตกลงร่วมกัน บางโครงการก็อาจจะซ่อมให้ค่ะ หากราคาขาย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เสียหายแล้วคุ้มค่า ไม่ใช่ตำหนิที่ใหญ่อะไรมากนัก ก็ถือว่าน่าซื้อค่ะ

4. อยู่ติดหน้าหมู่บ้านหรือสโมสร

           บ้านตัวอย่างส่วนใหญ่ หากไม่อยู่บริเวณหน้าโครงการ ก็มักจะอยู่ใกล้กับสโมสรของตัวหมู่บ้านค่ะ หากมองเป็นข้อเสีย ก็จะขาดความเป็นส่วนตัวพอสมควรค่ะ ใครที่ไม่ชอบเสียงรถบนถนนใหญ่วิ่งผ่านตลอดเวลา ไม่ชอบเสียงจอแจของผู้คนที่มาใช้บริการส่วนกลาง ก็อาจจะไม่ถูกใจได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่ชอบความสะดวก ไม่ต้องมีจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถออกไปใช้บริการขนส่งสาธารณะหน้าหมู่บ้านได้แบบง่าย ๆ หรือหากใครชอบส่วนกลาง เข้าไปใช้บริการบ่อย การอยู่ใกล้ก็ถือว่าสะดวกดีทีเดียวค่ะ

5. ควบคุมงบประมาณได้

            การจะซื้อบ้านหลังนึงนั้น นอกจากค่าบ้านแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนการตกแต่งอีกด้วยค่ะ บางครั้งก็มีราคาแพงพอ ๆ กับราคาบ้านเลย หลายคนแม้จะตั้งงบประมาณในแต่ละส่วนเอาไว้ แต่ก็มักจะมาตกม้าตายที่งานตกแต่งตลอด ยิ่งใครที่ชอบงานบิลต์อิน บางครั้งทั้งแก้ทั้งเพิ่ม รู้ตัวอีกทีก็เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ไปเสียแล้วค่ะ สำหรับบ้านตัวอย่างนั้น งานตกแต่งจัดเต็มมาไว้ให้เลย หากราคารวมตัวบ้านอยู่ในงบ หรือน้อยกว่างบที่เราตั้งไว้ ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ 

6. งานระบบน้ำและไฟอาจมีปัญหา

            เนื่องจากเป็นบ้านหลังแรก ๆ ที่โครงการสร้าง บวกกับความเร่งรีบ ในบางครั้งก็อาจพลาดในเรื่องของระบบน้ำและระบบไฟได้ค่ะ ก่อนการโอนต้องได้รับบริการตรวจเช็กระบบน้ำและไฟเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ค่ะ หากสภาพบ้านที่เช็กพบ มีหลายจุดที่ต้องซ่อมแซม หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในอนาคตหลังจากการซ่อมแซมไปแล้ว ก็แนะนำว่าไม่ควรเสี่ยงค่ะ

7. เรื่องปลวกมองข้ามไม่ได้

            ต้องสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการค่ะ ว่าได้ฉีดปลวกตามระยะเวลาหรือไม่ บางหลังอาจถึงขั้นไม่ได้ฉีดเลยก็มีค่ะ ตรงนี้ถ้าบ้านยังพอที่จะสามารถวางระบบสำหรับการฉีดปลวกได้ ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แนะนำว่าให้ติดต่อรับบริการตรวจปลวกฉีดปลวกให้เรียบร้อย หากไม่สามารถวางระบบเดินท่อปลวกได้ ก็สามารถเรียกบริการกำจัดปลวกเข้ามาตามระยะเวลาที่เหมาะสมได้เลยค่ะ

8. รอนาน

            ใครที่ใจร้อน อยากจ่ายจบ พร้อมเข้าอยู่เลย บ้านตัวอย่างไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของคุณค่ะ เพราะกว่าจะพร้อมเข้าอยู่ได้นั้น ก็ต้องรอจนกว่าโครงการจะขายบ้านหมดเสียก่อน ระยะเวลารอสำหรับแต่ละโครงการนั้นก็ไม่เท่ากันอีกด้วยค่ะ 

            บ้านตัวอย่างแต่ละหลัง แต่ละโครงการ มีคุณภาพและราคาที่ไม่เหมือนกัน สำคัญที่สุดเลย คือเราต้องจ้างทีมตรวจบ้านเข้ามาดูก่อนจะตัดสินใจโอนค่ะ เพราะเพียงตาเปล่า จะไม่สามารถแยกได้เลย ระหว่างบ้านปกติ กับบ้านตัวอย่าง อาจจะมีโครงสร้างภายในบางจุดที่แตกต่างกัน บางคนซื้อบ้านตัวอย่างไป 10-20 ปี บ้านก็ยังปกติดีค่ะ บางคนซื้อไปได้ไม่นานก็มีปัญหารั่วซึม ซื้อบ้านตัวอย่างดีหรือไม่ดีนั้น จึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนั่นเอง หากบ้านตัวอย่างที่เราซื้อ มีโครงสร้างแข็งแรง ได้บิลต์อินคุณภาพดีทั้งหลัง ในราคาที่คุ้มค่ามากกว่าการบิลต์เฟอร์นิเจอร์ด้วยตัวเอง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยค่ะ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด