–
การเลือกซื้อแอร์ที่ดีที่สุดสำหรับห้องแต่ละห้อง มีปัจจัยและรายละเอียดมากมาย มากกว่าแค่ตารางเมตรของห้องกับ BTU ค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะประเทศไทยที่อากาศร้อนจัดเกือบตลอดทั้งปี และเปิดแอร์ทุกวันเกือบจะตลอดเวลาแบบนี้ ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อแอร์เป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ เพราะหากเราเลือกผิดแล้วล่ะก็ นอกจากจะส่งผลกับค่าไฟของเราแล้ว ยังส่งผลให้แอร์ของเรา เสียหายและมีอายุการใช้งานน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วยค่ะ ดังนั้นวันนี้ Homeday เลยนำ 6 วิธีเลือกซื้อแอร์ ให้ตรงสเป็กห้อง ประหยัดไฟ ใช้งานได้ยาวนาน มาฝากทุกคนกัน จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ
@homeday.co.th 6 วิธีเลือกซื้อแอร์ ให้ตรงสเป็กห้อง ประหยัดไฟ ใช้งานได้ยาวนาน 🌬️ #วิธีประหยัดไฟฟ้า #เปิดแอร์หน้าร้อน #ประหยัดไฟ #ประหยัดไฟเบอร์5 #ลดค่าไฟฟ้า #รู้หรือไม่ #tiktokuni ♬ Get On It – Chris Alan Lee
1. วิธีเลือกซื้อแอร์ ขนาดห้อง ต้องสัมพันธ์กับ BTU
วิธีการเลือกซื้อแอร์ที่ถูกต้อง เราจำเป็นที่จะต้องเลือก BTU ให้สัมพันธ์กับขนาดของห้องค่ะ เพราะหากเราไม่คำนวณให้ดีแล้วล่ะก็ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ค่ะ กล่าวคือถ้าเลือก BTU สูงเกินไป คอมเพรสเซอร์จะทำงานตัดบ่อย ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการทำงานลดลง เกิดความชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน และต้องจ่ายค่าไฟที่มากขึ้นอีกด้วยค่ะ ในทางตรงกันข้าม การเลือก BTU ต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานตลอดเวลา เพื่อพยายามที่จำทำให้คุณภูมิถึงจุดองศาที่เราตั้งไว้ จึงเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ทำให้ระบบสึกหรอ ในที่สุดตัวเครื่องก็จะเสียก่อนเวลาอันควรค่ะ
2. วิธีเลือกซื้อแอร์ ถ้าจะให้ดี ต้องใส่ใจรายละเอียดแวดล้อมด้วย
ขนาดของห้องในที่นี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการนับเฉพาะความกว้างของพื้นที่ แต่จริง ๆ แล้วตามหลักการ เราจะต้องประเมินถึงความสูงจากพื้นถึงเพดาน, จำนวนคนที่อาศัยอยู่ในห้องเป็นประจำ, ประเภทของห้อง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว, ระหว่างวันโดนแดดมากหรือน้อย, สภาพอากาศส่วนใหญ่ตลอดทั้งปี, มีบานหน้าต่างมากหรือน้อย เป็นต้น ซึ่งเราสามารถใช้งานเว็บไซต์ www.calculator.net/btu-calculator.html เพื่อคำนวณหาขนาด BTU ที่เหมาะสมของแต่ละห้องในบ้านเรา เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อแอร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมค่ะ
3. คุณสมบัติที่ตอบโจทย์ ก็เป็นหนึ่งในวิธีการเลือกซื้อแอร์ที่ต้องพิจารณา
ในยุคสมัยนี้ นวัตกรรมใหม่ ๆ ของแอร์ก็มีอัปเดตกันอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ตัวอย่างเช่น สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้เพียงปลายนิ้ว สามารถเปิดแอร์ก่อนกลับถึงบ้านได้เลย, สามารถเช็คค่าไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ผ่านแอป ทำให้ไม่เผลอใช้จนเกินพอดี, มีระบบฟอกอากาศ, ระบบทำความสะอาดตัวเองหลังปิดเครื่องอัตโนมัติ, ตรวจจับอุณหภูมิและความเคลื่อนไหว, ส่งลมเย็นพร้อมกันได้ 2 ทิศทาง, โหมด ECO และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณสมบัติของแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นนั้น ก็จะมีความแตกต่างกันไป ควรพิจารณาเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของเราเป็นหลักค่ะ
4. วิธีเลือกซื้อแอร์เสียงของเครื่อง ส่งผลต่อการพักผ่อนมากกว่าที่คิด
แม้ว่าแอร์รุ่นใหม่ ๆ ในยุคนี้ ส่วนใหญ่จะทำงานค่อนข้างเงียบมาก แต่ก็ควรตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องปรับอากาศก่อนตัดสินใจซื้ออยู่ดีค่ะ ถือเป็นรายละเอียดวิธีเลือกซื้อแอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ส่งผลอย่างมากกับบางคน ระดับที่ 30dBA จะเท่ากับเสียงทั่วไปของบ้านที่เงียบสงบ มากขึ้นมาหน่อยที่ 50dBA ก็จะใกล้เคียงกับภายในรถที่เงียบในขณะขับ หากสูงกว่าระดับนี้ จะถือว่าเลวร้าย ไม่เหมาะกับการพักผ่อนแล้วล่ะค่ะ นอกจากตัวแอร์ภายในห้องแล้ว คอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านนอก ก็เป็นอีกหนึ่งต้นตอของเสียงรบกวนเช่นกัน ดังนั้นหากเตียงหรือพื้นที่พักผ่อนอยู่ใกล้ระเบียง หน้าต่าง ที่มีคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ใกล้ ๆ ก็อาจส่งเสียงดังรบกวนได้ค่ะ แนะนำให้ระมัดระวังการติดตั้งให้เหมาะสมด้วยค่ะ
5. วิธีเลือกซื้อแอร์ที่คุ้มค่า ต้องเลือกที่ประหยัดพลังงาน
เลือกซื้อแอร์ ต้องเลือกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แต่ตอนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ออกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โฉมใหม่ ที่เรียกกันว่า “เบอร์ 5 ติดดาว” ออกมาแล้วนะคะ ซึ่งจะแบ่งเกณฑ์ประสิทธิภาพเป็น 4 ระดับได้แก่ เบอร์ 5 / เบอร์ 5 1 ดาว / เบอร์ 5 2 ดาว / เบอร์ 5 3 ดาว จำนวนดาวยิ่งมากก็ยิ่งประหยัดไฟค่ะ นอกจากนี้แอร์ที่มีค่า EER หรือ SEER สูง ก็จะยิ่งกินไฟน้อยค่ะ ดังนั้นให้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วย เพื่อลดภาระค่าไฟค่ะ
6. เลือกซื้อแอร์ที่มีบริการหลังการขายที่ดี
หนึ่งในปัจจัยการเลือกซื้อแอร์ คนส่วนใหญ่มักจะละเลยในข้อนี้ไปค่ะ บอกเลยว่าบริการหลังการขายนั้นมีความสำคัญมากทีเดียว อาจจะลองปรึกษากับแต่ละแบรนด์ที่เรากำลังจะเลือกซื้อ ว่าแต่ละเจ้ามีบริการหลังการขายเมื่อเครื่องเกิดปัญหาอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันค่ะ เพราะแน่นอนว่าแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่กับเราไปได้เป็น 10 ปีเลยค่ะ ดังนั้นจึงมีบ้างที่อาจจะเกิดปัญหาได้ ยิ่งสภาพอากาศประเทศที่ร้อนจัด ๆ เปิดแอร์กันเกือบทุกวันแบบนี้ ยิ่งต้องให้ความสำคัญเลยล่ะค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทั้ง 6 วิธีการเลือกซื้อแอร์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อเหลือเกินค่ะ ว่าต้องมีหลายจุดที่หลาย ๆ ท่านละเลยไปกันอย่างแน่นอน บอกเลยว่าทั้ง 6 วิธีที่เรานำมาฝากกันนั้น ล้วนมีความสำคัญสำหรับการใช้งานแอร์และค่าไฟในระยะยาวของเราเลยค่ะ ใครที่กำลังจะเปลี่ยนแอร์ใหม่ ก็อย่าลืมนำวิธีทั้งหมดนี้ไปพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อกันด้วยนะคะ
บทความที่คุณอาจสนใจ