KAVE playground

เลมอน ลอว์ (Lemon Law) ของประเทศไทยและแนวทางปฏิบัติที่แท้จริงสำหรับสิทธิในการซ่อมเพียงพอแล้วหรือไม่

โดย นายเอ็ดเวิร์ด แรตคลิฟฟ์ กรรมการบริหาร สถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดร.ถนอมลาภ รัชวัตร์  นักวิจัยอาวุโส สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และ ดร. กฤษฎา แสงเจริญทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

เลมอน ลอว์ (Lemon Law) ของประเทศไทยและแนวทางปฏิบัติที่แท้จริงสำหรับสิทธิในการซ่อมเพียงพอแล้วหรือไม่

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในการปกป้องผู้บริโภคและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เลมอน ลอว์” (Lemon Law) ของประเทศไทย กำลังอยู่ในขั้นตอนการรอการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย อย่างไรก็ตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมุ่งเน้นในเรื่องการกำหนดความรับผิดของผู้ขายสินค้าในกรณีสินค้าที่ซื้อไปนั้นมีความชำรุดบกพร่อง เช่น การซ่อมแซมสินค้า การเปลี่ยนสินค้า การลดราคาสินค้า หรือการได้รับเงินคืนเต็มจำนวน เป็นต้น ขณะที่ R2R จะมุ่งให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในลักษณะที่เป็นการกำหนดความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ขาย หรือผู้ผลิตสินค้า ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมาย หรือร่างกฎหมายฉบับใดที่มีการพูดถึงเรื่องนี้โดยตรงแต่อย่างใด ซึ่งอาจถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรที่จะเริ่มให้ความสนใจในเรื่องนี้ เพื่อเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคไทยและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการออกกฎหมายสิทธิในการซ่อม‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ (Right to Repair – R2R)

งานวิจัยที่กำลังจะเผยแพร่จากสถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ได้สำรวจผู้ประกอบการในภาคการซ่อมกว่า 40 รายในกรุงเทพฯ เผยถึงทั้งความท้าทายและโอกาสในระบบนิเวศการซ่อมของประเทศไทย ผลการวิจัยสะท้อนภาพที่ชัดเจน กว่า 50% ของร้านซ่อมอิสระไม่ได้มีคู่มือการซ่อม ในขณะที่ประมาณ 96% ไม่สามารถเข้าถึงอะไหล่จากศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตหรือผู้ผลิตที่ได้รับการอนุญาต 

การวางเดิมพันขนาดใหญ่: ประเทศไทยเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ โดยมีการนำเข้าสมาร์ทโฟน 14 ล้านเครื่องในปี 2566 (IDC Research) และคาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 97% ภายในปี 2572 (Statista) ทำให้ประเทศไทยเหมาะสมที่จะนำกฎหมายสิทธิในการซ่อม‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ (Right to Repair – R2R) แบบก้าวหน้ามาใช้ ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็น 65% ของขยะอันตรายจากชุมชน จำนวน 450,000 ตันต่อปี (Enviliance ASIA) ในจำนวนนี้ เป็นขยะจากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตมีสัดส่วนมากกว่า 25,000 ตัน ซึ่งมีเพียง 21% ที่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 

แม้ว่า ปัจจุบันมีการสนับสนุนให้ภาคการซ่อมมีศักยภาพมากขึ้นและบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ร้านซ่อมเหล่านี้ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย ส่งผลต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อการซ่อมแซมอิสระ หนึ่งในอุปสรรคที่สำคัญคือการขาดโอกาสในการเข้าถึงอะไหล่ทดแทน พวกเขายังต้องเผชิญกับอุปสรรคจากนโยบายการรับประกันของผู้ผลิตและข้อจำกัดซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การจับคู่ชิ้นส่วน” ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ โดยชิ้นส่วนทดแทนจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ผลิตจึงจะสามารถใช้งานได้ และส่งผลทำให้ต้นทุนค่าซ่อมแพงอุปกรณ์สูงขึ้น นับเป็นอุปสรรคหลักในการสร้างภาคการบริการซ่อมที่ปลอดภัยและแข็งแกร่ง 

ร่างเลมอน ลอว์ (Lemon Law – ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า) ของประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญ แต่ยังคงต้องมีการเสริมสร้างและสนับสนุนในเรื่องการซ่อม แม้ว่าจะมีการนำการคุ้มครองผู้บริโภคใหม่ ๆ เช่น การกำหนดระยะเวลาการซ่อม 30 วันสำหรับผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ และการคุ้มครองความรับผิดชอบในการซ่อมแซม แต่กฎหมายนี้ไม่ได้ครอบคลุมหลักการสำคัญของสิทธิในการซ่อม (R2R) สำคัญๆ เช่น การเข้าถึงเครื่องมือการซ่อม คู่มือและเอกสารสำหรับช่างซ่อมอิสระ และการห้ามการจับคู่ชิ้นส่วน 

หากดูจากตัวอย่างของกฎหมายสิทธิในการซ่อม‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ (Right to Repair – R2R) จากต่างประเทศ สหภาพยุโรป (EU) เพิ่งมีการออกกฎหมายที่ทำให้การซ่อมแซมง่ายขึ้นและราคาถูกลง (European Commission) ขณะที่รัฐบางรัฐในสหรัฐอเมริกา เช่น ออริกอน (Governing) และโคโลราโด (Colorado General Assembly) ได้ผ่านกฎหมายที่จำกัดการปฏิบัติ เช่น การจับคู่ชิ้นส่วน ในขณะที่อินเดียกำลังเปิดตัวดัชนีการซ่อมแซมที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความสามารถในการซ่อมแซมของแบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ (The Economic Times) 

แนวทางปฏิบัติของสิทธิในการซ่อม‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ (Right to Repair – R2R) ของประเทศไทยต้องมีหลายองค์ประกอบสำคัญเพื่อให้ประสบความสำเร็จ งานวิจัยของสถาบันฯ ได้แนะนำให้มีการปรับปรุงการเข้าถึงชิ้นทดแทน เครื่องมือ และคู่มือที่มีราคาที่สามารถเข้าถึงได้ และสร้างแรงจูงใจสำหรับธุรกิจการซ่อม นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการจัดแคมเปญการศึกษาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงประโยชน์จากการซ่อม และการจัดทำโปรแกรมรับรองเพื่อช่วยให้ร้านซ่อมแซมอิสระสามารถแสดงความเชี่ยวชาญ 

สิทธิในการซ่อมสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green) ของประเทศไทย (2564-2570) ซึ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยการผนวกข้อกำหนดสิทธิในการซ่อมที่เข้มแข็งในกรอบกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันจะช่วยกระตุ้นภาคการซ่อมแซม ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ธุรกิจขนาดย่อม, ขนาดกลาง และขนาดเล็ก พร้อมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค และก้าวไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน 

ในอนาคต เมื่อหน้าจอโทรศัพท์ของคุณแตกหรือแบตเตอรี่ไม่ชาร์จ คุณจะสามารถซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ที่มีปัญหาได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย โดยสามารถเลือกใช้บริการจากร้านซ่อมที่ใกล้บ้าน หรือสามารถซ่อมได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องยกเลิกการรับประกัน และจ่ายค่าบริการสูงเกินไปให้กับผู้ผลิต จำเป็นต้องซ่อมแซมเฉพาะกับผู้ผลิต หรือทิ้งโทรศัพท์ที่ยังใช้งานได้เมื่อมีปัญหาน้อย ๆ ในอนาคตจะกลายเป็นจริงได้ หากประเทศไทยมีกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในการซ่อมสิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้ว

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
ธอส. เข้าร่วมพิธีเปิดอาคาร “บุญญา บารมี ปกป้อง” ของสถาบันเพาะกล้าคุณธรรม จังหวัดพิษณุโลก
ข่าวสาร
Aura Bangkok Clinic สาขาที่ 15 บุก Central World ปักหมุด Prime Location ใจกลางกรุงเทพ
ข่าวสาร
อยากมีบ้าน ต้องรีบ! พฤกษา จัดอีเวนต์ใหญ่แห่งปี “PRUKSA D-DAY SALE” ครั้งแรกและครั้งเดียว ยกทัพบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม กว่า 100 โครงการ ลดสูงสุด 40% พร้อมลุ้นรับบ้าน-คอนโด ฟรี! จัดเต็ม 3 วันเท่านั้น! 29-31 ส.ค.นี้ ที่ เพิร์ล แบงก์ค็อก
ข่าวสาร
ORI วางแผนจ่ายคืนหุ้นกู้เต็มจำนวน 1,982 ล้านบาท ครบตามกำหนด 1 กันยายน 2568 นี้
ข่าวสาร
PROUD ร่วมงาน Oppday โชว์รายได้ Q2/68 กำไรโต 118% Backlog แตะ 7,709 ลบ. หนุนรายได้ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
Loading..