
[????]


เพื่อขยับขยายที่อยู่อาศัยกันใช่ไหมคะ
แต่การที่เรามีเงินที่พร้อมอาจไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสมซะทีเดียว 

เพราะว่ายังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องวิเคราะห์ให้ละเอียด
ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหลังที่ต้องการอีกด้วยค่ะ
วันนี้แอดมินจัดเตรียม เช็คลิสก่อนที่จะทำการซื้อบ้านมาให้ชมกันค่ะ
ตามไปดูกันเลยค่า

.


.
เงินออม
: อาจจะใช้สำหรับเป็นเงินต้นของการซื้อบ้าน เนื่องจากธนาคารอาจจะไม่ปล่อยวงเงินกู้ให้เรา 100% ดังนั้นการที่มีเงินก้อนซัก 15-20% ของราคาบ้าน จะทำให้สามารถนับมาทบกับเงินที่กู้ได้เพื่อซื้อบ้านในฝันหรือสามารถเอาไปใช้จ่ายสิ่งของภายในบ้านได้ค่ะ


.
เครดิต
: ถ้าหากว่ามีหนี้สินที่ค้างชำระจากการกู้ยืมก่อนหน้า หรือค่าบัตรที่ยังจ่ายยอดไม่ครบ อาจทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ ดังนั้นเราจึงต้องเคลียหนี้สินให้เสร็จก่อนนะคะ


.
บัญชีธนาคาร
: ธนาคารจะขอดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งทำให้ในช่วง 6 เดือนนี้ควรจะมีเงินคงไว้ในบัญชีอย่างสม่ำเสมอและไม่ควรถอนออกหมด ถ้าหากมีรายได้เสริมประจำเดือน หรือทำอาชีพฟรีแลนซ์ เช่น พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับเงินเป็นรายครั้ง/รายวัน ก็ควรจะโอนเข้าในบัญชีอย่างสม่ำเสมอเช่นกันนะคะ


.
อัตราดอกเบี้ย
: สินเชื่อบ้านจะเป็นสินเชื่อระยะยาว คือมีเวลาผ่อนชำระคืนหลายปีตั้งแต่ 5 – 30 ปี และ สินเชื่อบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก คือดอกเบี้ยจะลดลงตามเงินต้นคงเหลือ ดังนั้นหากมีเงินสักก้อนก็เอามาโปะเงินต้นให้ลดลงได้ เพื่อที่ดอกเบี้ยจะได้ลดลงตาม และสามารถปิดยอดหนี้ก่อนกำหนดได้ โดยจ่ายแค่เงินต้น ดังนั้นควรเช็คอัตราดอกเบี้ย
ของแต่ละธนาคารให้ละเอียดก่อนตัดสินใจค่ะ


.


.
เลือกทำเลที่ดี ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
⇒ เรื่องของทำเลเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าตัวบ้านซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตขอเราในระยะยาว ดังนั้นเราควรที่จะดูแผนผังของโครงการนั้นด้วยว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรที่อยู่ใกล้ๆโครงการบ้าง เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

.
*เตรียมเอกสารการขอกู้*
⇒ สำหรับการยื่นเอกสารที่จำเป็นในการขอกู้ ซึ่งจะระบุตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ทั้งนี้ผู้ที่ทำอาชีพอิสระหรือพ่อค้าที่ไม่มีเงินเดือน อาจจะต้องเตรียมเอกสารแสดงรายได้ และ เอกสารการทำงานมากขึ้นค่ะ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น

.
*อ่านสัญญาให้ดีก่อนจะเซ็น*
⇒ การซื้อขายบ้านต้องมีสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจำเป็นจะต้องอ่านสัญญาต่างๆ ที่ทางธนาคารและโครงการที่เข้าไปซื้อบ้านอ่านให้ชัดเจนและเข้าใจ รวมถึงความถูกต้องในการสะกดตัวหนังสือหรือตัวเลข เพื่อป้องกันผลประโยชน์ต่างๆ โดยทั้งในสัญญากู้ซื้อบ้าน และ สัญญาจะซื้อจะขายค่ะ 


.
สุดท้ายนี้แอดมินแนะนำว่า การเลือกซื้อบ้านที่ดีก็เหมือนการเลือกความสุขให้กับตัวเราเอง และครอบครัวได้ในระยะยาว ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจซื้อบ้านควรตรวจสอบ และศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและให้มั่นใจก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับปัญหาที่อาจตามมาในภายหลังนะคะ 



.
.
ที่มา : sanook