–
โครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา (Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra) ออกแบบชีวิตได้อย่างลงตัว ที่…ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา คอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 2 อาคาร ออกแบบด้วยแนวคิด “Simple White” สไตล์ Modern Minimal มอบความแตกต่าง และความสะดวกสบาย ให้คุณรอบด้าน กับส่วนกลางที่มากกว่าถึง 14 รายการ รองรับทุกกิจกรรม มาพร้อมความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตน้อยกว่า บนทำเลศักยภาพ บนถนนนวลจันทร์ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนวงแหวนรอบนอก และโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต สายสีน้ำตาลและสายสีเทา เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ให้คุณใช้ชีวิตได้สุดทุกทาง พร้อมสัมผัส Good Vibes ได้ทุกวัน
จุดเด่นโครงการ
- ฟังก์ชันห้องตอบโจทย์ ครัวปิดติดระเบียง คอนโดที่ดีไซน์ฟังก์ชันห้องให้ใช้งานได้จริง One Bedroom ขนาดเริ่มต้นก็จัดสรรพื้นที่มาได้อย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว
- ส่วนกลางจัดเต็ม 14 รายการ คิดมาเพื่อชีวิตที่แตกต่าง พร้อม Creative Pod ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
- เชื่อมต่อใจกลางเมือง ออกแบบชีวิตได้ดั่งใจ เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 3 นาที* ขนส่งมวลชน ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการคือสายสีชมพู / โครงการในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีนวลจันทร์ เพียง 500 เมตร และ รถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีคลองลำเจียก
- ใกล้ เซ็นทรัลอีสวิลล์ และแหล่งออฟฟิศชั้นนำ เดินทางสะดวก เข้าถึงทุกสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายได้ คล่องตัว
บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานขาย Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา
วันนี้ผมปาล์ม Homeday จะพามาชมโครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา (Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra) โครงการเป็นคอนโด Low-rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร บนที่ดิน 4-2-6.8 ไร่ จำนวนทั้งหมด 413 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A มี 410 ยูนิต และอาคาร B มี 203 ยูนิต โครงการตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ และถนนสำคัญอื่น ๆ อย่างเช่น ถนนประเสิรฐมนูกิจ หรือถนนเกษตร-นวมินทร์, ถนนนวมินทร์, ถนนรัชดา-รามอินทรา และถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนฯ เข้า-ออกเมืองก็ทำได้ดีสะดวกมาก ๆ ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง Shopping Mall, Community Mall, ตลาด, สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำ คอนโดในโซนนี้ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก ส่วนมากจะเป็นแนวราบ เพราะเป็นโซนรองรับการขยายตัวของเมืองตรงแถวพหลโยธิน-แยกเกษตรครับ
บริเวณด้านหน้าที่ตั้งโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา
โครงการนี้ผ่าน EIA แล้วครับ สร้างเสร็จน่าจะปี 2568* บริเวณโดยรอบที่ตั้งโครงการ หน้าโครงการจะเป็นถนนนวลจันทร์ และสถานที่จัดเลี้ยง ฝั่งอาคารทางทิศตะวันออกจะเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย ฝั่งอาคารทางทิศใต้ด้านหลังจะติดกับศูนย์บริการอีซูซุ และฝั่งอาคารด้านทิศตะวันตกจะติดกับที่ดินเปล่าและอเวนิวร้านค้าต่าง ๆ
พื้นที่ส่วนกลาง
ภายในอาคารสำนักงานขาย Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา
โครงการออกแบบด้วยแนวคิด “Simple White” สไตล์ Modern Minimal ที่มอบความแตกต่างและความสะดวกสบาย สอดคล้องตามคอนเซ็ปต์ดีไซน์ Summer Resort ที่นำมาผสมผสานกับส่วนประกอบในการออกแบบอาคาร โดยการนำลายเส้นโค้งแทนคลื่นทะเลในตอนกลางคืนที่จะมีสีเทา และสีขาว-ครีมของแสงจันทร์ ที่ทำให้ความรู้สึกเงียบสงบและผ่อนคลาย ได้การอยู่อาศัยที่เหมือนการพักผ่อนในรีสอร์ต การตกแต่งภายในสื่อถึงกลิ่นอายของ Summer ตัดด้วยโทนสีเหลือง ส้ม และแซมด้วยสีน้ำเงิน ดูสดใสมากขึ้น เหมือนกันกับภายในสำนักงานขายที่ออกแบบมาให้ดูได้เลยครับ
ผังแปลนอาคารเป็นรูปตัว L ทั้ง 2 อาคาร ด้านหน้าจะเป็น อาคาร A ส่วนด้านในจะเป็นอาคาร B จำนวนที่จอดรถรวมเป็น 153 คัน คิดเป็น 37% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ตามมาตรฐานของคอนโดทั่วไป พร้อมรองรับช่องจอด EV Charger มาให้ด้วยครับ และในส่วนของ Facilities พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายกิจกรรม รองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่ให้มาอย่างจัดเต็มถึง 14 รายการ แบ่งเป็น 4 Vibe Zoneได้แก่
1.Hallmark Vibes Zone
- Hallmark Pavilion
- Lobby & Mail Room
- Co – Working Space
- Private Meeting Room
- Creative Pod (Live & Streaming Room)
2. Active Vibes Zone
- Fitness Pool View
- Terrace Lounge
- Vacation Pool
- Play Yard
- Jogging Track
3. Convenient Vibes Zone
- Vending Machine Area
- Grab & Get Delivery Area
- Laundry
- EV Charger
4. Security Vibes 5-Steps
- 24 hrs. Security Guard
- Access Control
- Lift Lock Floor
- CCTV
- Digital Door Lock
ภาพโมเดลส่วนกลางของอาคาร B
Hallmark Pavilion
Lobby & Mail Room
Co-Working Space
Private Meeting Room
Creative Pod (Live & Streaming Room)
Fitness Pool View
Vacation Pool
Play Yard
แบบห้อง : One Bedroom Extra
- พื้นที่ใช้สอย : 33.42-34.29 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 ระเบียง
โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งเครื่องปรับอากาศ, ฉากกั้นอาบน้ำ, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียง, โซฟา, ชุดโต๊ะ+เก้าอี้ รับประทานอาหาร, ชุดครัว Built-in พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ปูพื้นด้วย SPC ลายไม้ จาก LogWood สุขภัณฑ์ จาก Cotto และ Accessories จาก VRH , Victor Hob Hood Sink จากแบรนด์ TEKA พร้อม Backsplash ถือว่าให้มาค่อนข้างครบ ถ้าสร้างเสร็จแล้วสามารถเข้าอยู่ได้เลยนะครับ
แบบห้องของทางโครงการมีทั้งหมด 4 Type ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 25.16-37.91 ตารางเมตร โดยแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดคือ Type D แบบห้อง One Bedroom Plus เป็นห้องนอนที่พลัสห้องอเนกประสงค์มาให้ สามารถปรับทำเป็นห้องนอนที่ 2 ได้นั่นเองครับ ส่วนห้องที่เราจะพามาชมกันในวันนี้ จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ขนาด เริ่มต้นจากขนาดไซซ์รองลงที่ Type C One Bedroom Extra ห้องนี้ก่อนเลยครับ ขนาดอยู่ที่ 33.42-34.29 ตารางเมตร มาพร้อมฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว และ 1 ระเบียง
แปลนของตัวห้องจะแบ่งพื้นที่ใช้งานและพื้นที่พักผ่อนอย่างละเท่า ๆ กัน ส่วนแรกของห้องเมื่อเราเปิดประตูเข้าไป จะเป็นส่วนพื้นที่ใช้งานครับ จุดแรกจะเป็นพื้นที่ครัวปิด มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวขนาดพอดี ให้มาทั้งซิงก์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันมาให้ ฝั่งตรงข้าม สามารถเพิ่มชั้นวางของและวางตู้เย็นได้เลยครับ
เดินออกจากห้องครัวมา ก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่รองรับสำหรับการวางโต๊ะรับประทานอาหารไปในตัวด้วย สามารถวางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ขนาด 2-4 ที่นั่งได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา ถ้าอยู่คนเดียว หรืออยู่เป็นคู่ ไม่ได้เน้นรับแขกมากนัก ใช้งานเป็น 2 ที่นั่งก็เพียงพอแล้วครับ
ส่วนพื้นที่มุมนั่งเล่น ก็สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ ฝั่งตรงข้ามวางชั้นทีวีได้ บิลต์อินเพิ่มทำเป็นชั้นเก็บของด้วยก็ได้ครับ ระยะการรับชมกำลังดี มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลางหรือโต๊ะข้างเล็ก ๆ ได้ครับ
ส่วนด้านในสุด ติดกับมุมนั่งเล่น จะเป็นส่วนระเบียงของตัวห้อง ใช้งานวางเครื่องซักผ้าได้ครับ ทางโครงการวางระบบน้ำไฟเอาไว้ให้พร้อม พื้นที่มีให้ใช้งานพอสมควร จะจัดสวนเล็ก ๆ บริเวณระเบียงเอาไว้สร้างบรรยากาศให้กับห้องก็สามารถทำได้ครับ
ชมพื้นที่ฝั่งใช้งานกันไปแล้ว ไปดูส่วนของพื้นที่พักผ่อนอย่างห้องนอนกันต่อเลยครับ พื้นที่อีกฝั่งของตัวห้อง จะเป็นห้องนอนหน้ากว้างขนาดใหญ่ที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว แถมยังได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่ รับแสงเต็มที่ เทควิวได้เต็มตา ทำให้ห้องโปร่งโล่งไม่อึดอัดเลยครับ
ขนาดภายในสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยครับ ห้องตัวอย่างวางเป็นเตียงขนาดใหญ่เอาไว้ให้เราดู จะเห็นได้ว่าพื้นที่รอบเตียงยังเหลือให้ใช้งานได้อีกค่อนข้างเยอะเลย
อีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่, โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของเพิ่มเติมในรูปแบบ Walk-in Closet พร้อมใช้งานทั้งแต่งตัวและห้องน้ำได้อย่างสะดวกได้เลย โดยไม่รบกวนพื้นที่ในการเดินผ่านไป-มา พร้อมใช้งานทั้งแต่งตัวและห้องน้ำได้อย่างสะดวกครับ
ในส่วนของห้องน้ำ ภายในก็ได้ชุดสุขภัณฑ์พื้นฐานมาครบครันเหมือนห้องตัวอย่างนี้เลยครับ เปิดเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อนเป็นลำดับแรก คือส่วนของอ่างล้างหน้าพร้อมที่วางของ มีกระจกเงามาให้ 1 บาน ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อม Hand Shower ทางโครงการกั้น Partition มาให้เรียบร้อย ใช้งานห้องน้ำได้อย่างเป็นสัดส่วนและดูแลทำความสะอาดได้ง่ายแน่นอน โดยรวมแล้วห้องนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นพื้นที่ห้องนอนเป็นพิเศษนั่นเองครับ
แบบห้อง : One Bedroom Exclusive
- พื้นที่ใช้สอย : 30.07-30.67 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 ระเบียง
มาดูที่แบบห้องต่อมากันครับ Type B One Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 30.07-30.67 ตารางเมตร ห้องนี้ขนาดจะย่อมลงมาเล็กน้อย และได้แปลนของตัวห้องที่แตกต่างกันเลยครับ ห้องนี้จุดเด่นจะอยู่ที่ครัวปิดติดระเบียง ใครที่เน้นทำอาหารทานเองเป็นประจำน่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอนครับ
จากประตูทางเข้า เปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนเลยครับ จุดเด่นแรกของห้องนี้คือพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถวางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ เลยครับ โซฟาจะวางเป็นขนาดใหญ่ 3 ที่นั่ง หรือวางขนาด 2 ที่นั่งแล้วปรับพื้นที่ด้านข้างเป็นโต๊ะทำงานก็ยังได้
ส่วนฝั่งของพื้นที่วางทีวีก็สามารถบิลต์อินชั้นหรือวางเป็นแบบลอยตัวได้ตามชอบ สามารถใส่ทีวีจอขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ ไม่มีปัญหาเลยครับ เพราะระยะห่างระหว่างหน้าจอทีวีกับพื้นที่นั่งรับชมนั้นห่างกันพอสมควร มีพื้นที่เหลือด้านหน้าให้ขยับตัวได้ เล่นเกมที่ต้องออกท่าทางต่าง ๆ ได้สบาย ๆ เลยครับ
ด้านหลังฝั่งชั้นวางทีวี จะเป็นห้องน้ำของตัวห้องนั่นเองครับ ภายในก็ได้ชุดสุขภัณฑ์และฟังก์ชันมาเหมือนกันกับแบบห้อง One Bedroom Extra เลย แตกต่างที่ตำแหน่งของห้องน้ำ ห้องนี้จะไม่ได้อยู่เชื่อมต่อกับห้องนอน ข้อดีคือเวลามีแขกมาที่ห้อง ก็สามารถให้แขกเข้าใช้งานได้ โดยไม่ต้องเชื่อมผ่านพื้นที่ส่วนตัวของเรานั่นเองครับ
ถัดเข้าไปด้านใน ตัวห้องจะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วนของพื้นที่ห้องนอน และอีกส่วนเป็นส่วนครัวปิดนั่นเอง
พื้นที่ส่วนครัว จะกั้นจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ทำให้ได้พื้นที่ที่เป็นสัดส่วน กันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ โดยไม่ทำให้ห้องดูทึบแคบ แถมยังสามารถระบายอากาศได้เพราะติดกันกับระเบียง
ภายในห้องครัวทางโครงการจะให้ชุดครัวพร้อมเคาน์เตอร์มาเหมือนกันกับ One Bedroom Extra เช่นเดียวกัน มีพื้นที่เหลือให้เราสามารถวางตู้เย็นได้ และสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารภายในห้องนี้ได้เลยครับ
ห้องตัวอย่างจัดวางชุดที่นั่งสำหรับ 2 ท่านให้เราดูเป็นไอเดีย บอกเลยว่าขนาดลงตัวพอดีกับครัวมาก ได้ทั้งพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ทำอาหารที่อยู่ในส่วนเดียวกัน ป้องกันกลิ่นรบกวนภายในห้องได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้พื้นที่ครัวก็ยังอยู่เชื่อมต่อกับระเบียงอีกด้วย เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่เน้นทำอาหารทานเองเป็นประจำ ต้องการใช้งานครัวบ่อย ๆ ห้องนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้ลงตัวอย่างแน่นอน
มาดูส่วนของห้องนอนกันต่อเลยครับ ขนาดภายในของห้องนอน วางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้ครับ ห้องตัวอย่างก็เลือกวางเป็นเตียงไซซ์ใหญ่ให้เราดูเช่นกัน จะเห็นได้เลยว่าพื้นที่รอบเตียงยังเหลือให้สามารถวางตู้เสื้อผ้าและแขวนทีวีปลายเตียงได้ เหลือพื้นที่ให้เดินรอบ ๆ ได้คล่องตัว มาพร้อมบานหน้าต่างขนาดใหญ่รับแสง เพิ่มความโปร่งให้กับห้อง
ส่วนถ้าใครอยู่คนเดียว ไม่เน้นเตียงใหญ่ ก็สามารถปรับลดขนาดลงมาได้ ก็จะเหลือพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนเพิ่มมากขึ้น สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้อีกครับ
แบบห้อง : One Bedroom
- พื้นที่ใช้สอย : 25.16-26.12 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 ระเบียง
ปิดท้ายกันที่แบบห้องขนาดเริ่มต้นของทางโครงการ Type A One Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.16-26.12 ตารางเมตร ห้องนี้แม้ว่าจะเป็นห้องขนาดเริ่มต้น แต่ก็จัดสรรสัดส่วนและฟังก์ชันภายในห้องมาได้อย่างดีเลยครับ แถมยังได้ครัวปิดติดระเบียงอีกด้วย
ฟังก์ชันโดยรวมของห้องจะใกล้เคียงกันกับแบบห้อง One Bedroom Exclusive ต่างกันที่ขนาดที่ย่อมลงมาเท่านั้น โดยส่วนแรกที่เราจะเจอเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็คือห้องนั่งเล่นนั่นเองครับ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นก็สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมชั้นวางทีวีได้ จัดวางมุมนั่งรับประทานอาหารได้อีก 1 จุด เหมาะลงตัวสำหรับการใช้งาน 1 คนครับ
ตัวห้องน้ำอยู่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ได้มามาตรฐานแบบเดียวกันกับ 2 ห้องก่อนหน้าเลยครับ ทุกอย่างจะเหมือนกันกับที่เราเห็นในห้องตัวอย่างนี้เลย
ส่วนครัวของห้องนี้ ได้เป็นครัวปิดติดระเบียงห้องเช่นเดียวกันครับ ใครที่อยู่คนเดียว แต่ก็ชอบทำอาหารทานเองเป็นประจำ น่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอน ชุดครัวได้มาแบบเดียวกันเลยครับ แตกต่างที่ห้องนี้จะไม่ได้มีพื้นที่เหลือรองรับสำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร แต่สำหรับการยืนใช้งานครัวแล้ว ขนาดถือว่าใหญ่ ใช้งานได้คล่องตัวสบาย ๆ เลยครับ
ส่วนระเบียงของห้อง ก็สามารถเพิ่มเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคอนโดได้อย่างลงตัว
ห้องนอนของห้องนี้ รองรับเป็นเตียงไซซ์ 5 ฟุตได้ครับ พื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานพอสมควร สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ปลายเตียงก็สามารถแขวนทีวีเพิ่มได้เช่นกัน แนะนำว่าถ้าอยู่คนเดียว เลือกเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็สามารถเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ ให้กับห้องนอนได้อีกครับ
มุมแต่งตัวที่อยู่หน้าห้องนอน
ทำเลที่ตั้ง
โครงการตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ ใกล้ถนนรัชดา-รามอินทราและถนนประเสริฐมนูกิจ บนทำเลศักยภาพโซนเกษตร-นวมินทร์ ตัวโครงการอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) สถานีนวลจันทร์* ถัดไปหน่อยมีรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงทองหล่อ-วัชรพล และปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เปิดใช้งานแล้วใกล้สุดจะเป็นสถานีคู้บอน ประมาณ 4 กม.* เข้า-ออกเมืองได้สะดวกใกล้ทางด่วน 2 สาย ได้แก่ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฯ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ใกล้ห้างชั้นนำอย่าง Fashion Island, The Walk เกษตร-นวมินทร์, Central Eastville และ CDC อีกทั้งยังใกล้ตลาดชื่อดังอย่าง ตลาดปัฐวิกรณ์และตลาดหัวมุม ให้คุณได้อุ่นใจใกล้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลนวเวช, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ และโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา รายล้อมด้วยสถานศึกษา เช่น โรงเรียนเลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์, โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒, โรงเรียนเบญจมินทร์, โรงเรียนยุวทูตศึกษา และโรงเรียนนานาชาติจีน เป็นต้น
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
สรุป
Chewathai Hallmark เอกมัย-รามอินทรา เป็นคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 2 อาคาร ออกแบบด้วยแนวคิด “Simple White” สไตล์ Modern Minimal มอบความแตกต่าง และความสะดวกสบายตามดีไซน์คอนเซ็ปต์ Summer Resort ให้คุณรู้สึกเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ต กับส่วนกลางที่มากกว่าถึง 14 รายการ รองรับทุกกิจกรรม มาพร้อมความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตน้อยกว่า บนทำเลศักยภาพโซนเกษตร-นวมินทร์-เลียบด่วนเอกมัยฯ ติดถนนนวลจันทร์ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฯ และโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตอีก 2 สายทั้งสายสีน้ำตาลและสายสีเทา เชื่อมต่อทุกการเดินทาง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยหรือปล่อยเช่าก็ดี ให้คุณใช้ชีวิตได้สุดทุกทาง พร้อมสัมผัส “Good Vibes, More Life ชีวิตที่ใช่…ใช้ได้สุดยิ่งกว่า” ได้แล้วที่นี่ครับ
#Homeday #ชีวาทัย #Chewathai #ChewathaiPLC #ชีวาทัยฮอลล์มาร์ค #ChewathaiHallmark #ชีวาทัยฮอลล์มาร์คเอกมัยรามอินทรา #ChewathaiHallmarkEkkamaiRaminthra #รีวิวชีวาทัยฮอลล์มาร์คเอกมัยรามอินทรา
บทความที่คุณอาจสนใจ
