ปัญหาปวดนิ้ว รู้สึกตึงตามข้อต่างๆเวลาเหยียดนิ้ว หรือมีอาการบวมบริเวณนิ้วมือ รู้ไหมว่าอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาญเตือนว่ากำลังเป็นโรคนิ้วล็อค (Trigger Finger) ซึ่งเกิดจากการที่ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วมืออักเสบ และหนาขึ้น หากปล่อยอาการเหล่านี้ไว้ไม่รีบรักษาอาจทำให้นิ้วของเรานั้นอักเสบมากกว่าเดิม วันนี้ homeday จะมาแชร์เคล็ดลับดูแลนิ้วล็อคแบบเร่งด่วนที่สามารถทำเองได้ที่บ้านมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

1 ออกกำลังบริเวณนิ้วมือ

        วิธีแรกแนะนำการออกกำลังนิ้วมือ โดยการยืด เหยียดนิ้วมือบริเวณที่มีอาการปวด หรือทำการแบมือ กำมือสลับกัน ต่อด้วยการยืดแขนไปข้างหน้าสลับไปมา 1-10 ครั้ง ทำ 3 เซท เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้เอ็นที่ตึงอยู่นั้นคลายลงและลดอาการปวดบวมได้แล้วค่ะ

2 การประคบเย็นและประคบร้อน

         หากใครที่เพิ่งมีอาการปวดนิ้ว นิ้วล็อคภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง แนะนำให้ทำการประคบเย็น และประคบร้อนก่อนเลยค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนบริเวณที่มีการอักเสบ ช่วยลดอาการตึง และบวมลงได้ โดยนำน้ำแข็งมาประคบบริเวณตามข้อนิ้วก่อน แล้วจึงนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาประคบต่อ อาการจะค่อยค่อยดีขึ้นตามลำดับค่ะ

3 พักการใช้งาน

       หลายๆครั้งที่เราทำงานที่ใช้นิ้วเป็นหลัก เช่นคลิกเม้าส์ ใช้มือถือนานแบบต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดนิ้วล็อคแบบไม่รู้ตัว จนอาจจพส่งผลให้นิ้วล็อคเรื้อรังและมีอาการบวมแดงของนิ้วได้ วิธีแก้ไขที่ดีและง่ายที่สุดคือหยุดพัก และงดใช้นิ้วมือซักระยะค่ะ พร้อมทั้งเหยียดนิ้ว หรือบริหารนิ้วเพื่อลดอาการปวดและบวมได้ค่ะ

4 ใช้เฝือกดามนิ้ว

         สำหรับบางคนที่ยังเผลอใช้งานนิ้วอยู่เป็นประจำ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แนะนำให้ใช้เป็นเฝือกดามนิ้วเลยค่ะ เพื่อให้นิ้วสามารถเหยียดและยืด ซึ่งใช้เป็นเทปพันบริเวณข้อนิ้วมือที่มีอาการปวดหรือบวมก็ได้ค่ะ เป็นการลดอาการอักเสบและฟื้นฟูนิ้วไปในตัวนั่นเองค่ะ

5 การกดจุดนิ้ว

         และอีกหนึ่งวิธีคือการกดจุด เพื่อคลายอาการตึง และบวมของนิ้วให้ตรงจุด เหมือนเป็นการบำบัดไปด้วย แต่การกดจุดนั้นจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ สอนวิธีการกดจุดที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย และกดได้อย่างถูกต้องนะคะ

        จบไปแล้วกับ 5 เคล็ดลับแก้นิ้วล็อคที่ทาง homeday อยากนำมาฝากเพื่อนๆค่ะ เพราะปัจจุบันเป็นโรคยอดฮิต ซึ่งแต่ละวิธีนั้นสามารถทำตามได้ง่ายๆ และไม่ยุ่งยาก รับรองว่าอาการนิ้วล็อคจะดีขึ้นแน่นอนหากทำอย่างต่อเนื่อง แต่ควรพัก รักษาไม่ให้อาการเหล่านี้ขึ้นบ่อยจนเป็นอาการเรื้อรังนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของนิ้วเรานั่นเองค่ะ