บิลท์แลนด์ ปรับพอร์ตการพัฒนาธุรกิจครั้งใหญ่ รุกธุรกิจโรงแรม แบรนด์ “Koo Hotel” และ อาคารสำนักงาน “B Work” สร้างรายได้หมุนเวียน พร้อมลุยตลาดแนวราบเปิดตัว 6 โครงการ และเมกะโปรเจกต์ใหญ่ บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ จ.นนทบุรี รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า4,700 ล้านบาท
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิลแลนด์ได้วาง กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบรอบด้าน และพร้อมขยายการลงทุนครั้งใหม่ หลังจากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทชะลอการลงทุน เนื่องจากปัญหาเรื่องของโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯได้ทยอยลงทุนซื้อที่ดินเข้ามาเตรียมพร้อมการพัฒนาโครงการใหม่ โดยตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจ 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าไปแล้ว 8 โครงการ และแนวราบอีก 6 โครงการ รวมทั้งสิ้น 14 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 7,480 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา บิลแลนด์ได้ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับบริษัท ได้แก่ อาคาร B Work ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน และ Co-Working & Event Space ย่านแจ้งวัฒนะ พร้อมกับพัฒนาโรงแรม Koo Hotel ซึ่งเป็น Stylish Budget Hotel เพื่อรองรับทั้งนักท่องเที่ยวและผู้มาประชุมสัมมนาที่ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งการเปิดตัวทั้ง 2 โครงการดังกล่าว สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนกลับมาได้เป็นอย่างดี โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนเตรียมโรงแรมที่ 2 ย่านงามวงศ์วาน เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจพัฒนาโครงการเพื่อขายทางบิลท์แลนด์หันมาเจาะกลุ่มตลาดแนวราบ ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ รวม 6 โครงการ และพัฒนา 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ MYRRA, TERRA, และ LAKE TEMPO ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ใหญ่ที่สุดย่านไทรน้อย บนพื้นที่กว่า200 ไร่ รวมทุกโครงการมีมูลค่ากว่า 4,700 ล้านบาท
นายวิฑูรย์ อภิวาทธนะพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิลท์แลนด์ ได้ปรับโปรดักส์ หันมาเจาะกลุ่มตลาดแนวราบในระดับราคาที่สูงขึ้น โดยจะเป็นบ้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ โครงการมีรูปแบบและคอนเซ็ปต์ของการพัฒนที่แตกต่างกัน เริ่มจากแบรนด์ MYRRA บ้านในอุทยานไม้หอม กับโครงการ ‘เทมโป ไมร์ร่า พระราม5-สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ’ บ้านเดี่ยว และ บ้านแฝด จำนวน 90 ยูนิต มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ช่วงที่เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 16-17 มี.ค.ที่ผ่านมา มีลูกค้าสนใจและโอนเงินสดซื้อไป 2 ยูนิต และอยู่ในช่วงพัฒนาในเฟสที่สอง
โครงการริทโม พาร์ควิว ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ (แบรนด์เดิม)เปิดขายในไตรมาส 2 ปีนี้ เป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว จำนวน 72 ยูนิต มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.77 ล้านบาท
สำหรับบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ จะรุกตลาดภายใต้แบรนด์ TERRA ในปีนี้จะเปิด 3 โครงการ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูง รูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ได้แก่ เทอร์ร่า เฮาส์ วิภา-พหล 21 ใกล้บีทีเอสสถานีพหลโยธิน 24 มีจำนวน 6 ยูนิต มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท มีราคาเริ่มต้น 58 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวโครงการไตรมาส 2 , เทอร์ร่า ควอเตอร์ แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 35 อยู่ใกล้ MRTสถานีศรีรัช มี 4 ยูนิต มูลค่าการขาย 80 ล้านบาท ราคา20 ล้านบาทต่อหลัง และเทอร์ร่า คลาวด์ ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท ราคา 50 ล้านบาท
และโครงการ Lake Tempo (เลค เทมโป-ไทรน้อย) เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ บนเนื้อที่ 200 ไร่ รูปแบบแนวราบ ถึง 4 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,760 ล้านบาท รองรับการสร้างรายได้ให้กับบิลท์แลนด์ต่อเนื่องไปถึง 6 ปี มีแผนที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ เริ่มจากเฟสแรก กับ Ritmo Lake View บ้านแฝด บ้านเดี่ยว จำนวน 172 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท , เฟสที่สอง Tempo Lake Side บ้านเดี่ยว จำนวน 154 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท , เฟสที่สาม Myrra Hill จำนวน 120 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท และเฟสสุดท้าย Terra Cove บ้านหรูบนถนนเมน จำนวน 12 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
โดยในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากยอดขายที่เป็นบ้านพร้อมอยู่ประมาณ 600-700 ล้านบาท