“แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตทฯ” คว้าสิทธิ์บริหารการขายโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ของกลุ่ม”ปรีดา เรียลเอสเตท” ย่านถนนประดิพัทธ์ ประกอบด้วย คอนโด อาคารสำนักงาน และพื้นที่รีเทล มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลาง 3,200 ตร.ม. ยกให้เป็น ‘OASIS’ แห่งใหม่ใจกลางเมือง เคาะราคาขายเริ่ม 2.99 ล้านบาท เฉลี่ย 1.3 แสนบาทต่อตร.ม. เริ่ม Pre-Sale พ.ย.นี้
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด (Capital One Real Estate) และเคลเลอร์ วิลเลี่ยม ไทยแลนด์ (Keller Williams Thailand หรือ KW) บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ตัวแทนขายและที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มียอดขายสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีพอร์ตในการบริหารโครงการที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม วิลล่า เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 ว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจในตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์ที่ทำธุรกิจในด้านบริการตลาดคอนโดมิเนียมมานาน มีผลงานสร้างยอดขายมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 30,000-40,000 ล้านบาท
ล่าสุด ได้เข้าบริหารการขายโครงการมิกซ์ยูส (Mixed- Use) ของบริษัท ปรีดา เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียม แบรนด์กรีเน่ คอนโด (GRENE CONDO) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมย่านดอนเมือง สำหรับโครงการมิกซ์ยูส ดังกล่าว ปรีดาฯ ตั้งใจพัฒนาเป็นโครงการแฟลกชิป (Flagship Projects) แบรนด์ใหม่ บนทำเลศักยภาพย่านถนนประดิพัทธ์เป็นครั้งแรก
จุดขายโครงการมิกซ์ยูส พัฒนาบนที่ดินมากถึง 3 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา มี 1 อาคาร โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากถึง 3,200 ตารางเมตร (ตร.ม.) เปรียบเสมือนโอเอซิส (OASIS) แห่งใหม่ใจกลางเมือง แต่ละพื้นที่ภายในอาคาร ถูกจัดสรร ดีไซน์ให้มีพื้นที่รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ
รูปแบบในการพัฒนาโครงการ จะมีส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม มีพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า (รีเทล) มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 3,500 ล้านบาท โดยมีการออกแบบเป็นอาคารสูง 48 ชั้น (รวมดาดฟ้า) จำนวน 524 ยูนิต มีแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 34.88 ตร.ม. จำนวน 329 ยูนิต , แบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ 48 ตร.ม.จำนวน 31 ยูนิต ,แบบ 2 ห้องนอน จำนวน 54 ยูนิต จำนวน 33 ยูนิต ,แบบ Loft (1ห้องนอน) เริ่ม 38.47-47.39 ตร.ม.จำนวน 120 ยูนิต และ Loft (2นอน) พื้นที่ 68.75-80.15 ตร.ม. จำนวน 11 ยูนิต มีที่จอดรถทั้งหมด 335 คัน โดยตัวโครงการได้ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment; EIA Approved) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ คาดโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนในปี 2568
นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีส่วนของอาคารสำนักงาน พื้นที่ประมาณ 3,000 ตร.ม.รองรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มาเช่าพื้นที่ รวมถึงให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ในการทำงาน ยังตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย กับพื้นที่ค้าปลีก(รีเทล) ประมาณ 500 ตร.ม.ที่จะมีร้านอาหารเข้ามาเช่าและเปิดให้บริการ
ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะมีทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการมองหาที่พักอยู่ใกล้สถานที่ทำงาน เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้สถานการศึกษา เช่น โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ใกล้สถานที่ราชการ เช่น รัฐสภาแห่งใหม่ กระทรวงการคลัง ใกล้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถเดินทางไปยังสถานีกลางบางซื่อ และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวประมาณ 1 กิโลเมตร(กม.) ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช และมีที่อยู่อาศัยโดยรอบจำนวนมาก เป็นแหล่งของผู้อยู่อาศัยชั้นดี มีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ตลาดนัดสวนจตุจักร และห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และธนาคาร เป็นต้น
“ที่ตั้งของโครงการ อยู่ในทำเลที่ดี พื้นที่โดยรอบมีการพัฒนาศักยภาพสูง เป็นโซน Blue Ocean การแข่งขันน้อย ไม่ค่อยมีคู่แข่ง และหากเปรียบเทียบราคาขายต่อตร.ม.แล้ว ราคาย่านถนนประดิพัทธ์จะต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับโซนซอยอารีย์ สะพานควาย ขณะที่ตลาดปล่อยเช่า ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% “นายวิทย์ กล่าว
โดยโครงการเริ่มเปิดรอบการขาย (Pre-Sale)ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ในราคาขายเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ 1.3 แสนบาท คาดจะมียอดขายที่ดีตามเป้าที่วางไว้สูงถึง 40% ช่วงพรีเซล