“พร็อพเพอร์ตี้กูรู” บริษัทแม่ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ และ thinkofliving.com 2 เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566

รายได้รวมทั้งไตรมาส 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ และมีกำไร Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์

  • รายได้รวมทั้งหมดเติบโตขึ้น 12% มาอยู่ที่ 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ในขณะที่รายได้รวม โดยที่ไม่รวมรายได้จากประเทศเวียดนามเติบโตขึ้นถึง 22%  
  • ปัจจัยที่ทำให้ผลกำไร Adjusted EBITDA มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 113% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วก็คือ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพของกรุ๊ป 
  • ผลกำไร Adjusted EBITDA เติบโตมาอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3 แสนสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 7.8 ล้านบาท)

        พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป จำกัด หรือชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก NYSE คือ PGRU) (จากนี้จะเรียกว่า “พร็อพเพอร์ตี้กูรู” หรือ “บริษัท”) บริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (“PropTech”) และเป็นบริษัทแม่ของ 2 เว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย ได้แก่ DDproperty.com แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 ของประเทศ และ thinkofliving.com เว็บไซต์รีวิวโครงการอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ในวันนี้ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 956 ล้านบาทเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2566) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 12% ผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 6 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 155 ล้านบาท) และมีผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาที่ปรับแล้ว (Adjusted EBITDA) เป็นบวกอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้นำมาเทียบกับรายได้สุทธิของไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 4 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 104 ล้านบาท) และผลกำไร Adjusted EBITDA ที่เป็นบวกมูลค่า 3 แสนสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 7.8 ล้านบาท)  

ความเห็นจากผู้บริหาร

         นายแฮร์รี่ วี. คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “พร็อพเพอร์ตี้กูรูโชว์การเติบโตของรายได้ที่ดีในช่วงไตรมาสที่สองนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักทั้งในส่วนของรายได้ และมาร์จิ้นของ Adjusted EBITDA สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเราท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการที่เราเลือกโฟกัสในการลงทุน และดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม แม้ว่าจะมีความท้าทายในทางเศรษฐกิจมหภาคในเวียดนามที่ยังส่งผลอยู่ ซึ่งรัฐบาลได้เข้าแทรกแซงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงความความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการตัดสินใจซื้อ-ขายในตลาดอย่างชัดเจน  เราเน้นการนำประโยชน์จาก AI มาช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นนำของตลาด และในขณะเดียวกันเรายังหมั่นปรับปรุงคุณภาพในเรื่องของการเขียนโค้ด และการสร้างสรรค์ด้านวิศวกรรมของเรา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว GuruPicks ซึ่งเป็นโซลูชั่นในการคัดกรองประกาศอสังหาริมทรัพย์แบบอัตโนมัติที่ตรงตามความต้องการของแต่ละผู้ใช้ โดยใช้การเรียนรู้แบบอัลกอริทึ่ม และได้มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการตรวจสอบรูปภาพด้วย AI เพื่อให้ประกาศบนแพลตฟอร์มของเรามีคุณภาพยิ่งขึ้น  

        เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เราได้ทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ นั่นคือการประกาศถอนธุรกิจมาร์เก็ตเพลสภายใต้แพลตฟอร์ม Rumah.com ออกจากประเทศอินโดนีเซีย และปิดตัวผลิตภัณฑ์ ฟาสต์คีย์ (FastKey) ที่เป็นซอฟต์แวร์บริการลง เรายังรีวิวขั้นตอนต่าง ๆ ในทางธุรกิจ และดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปรับทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำนี้ สอดคล้องกับแนวทางที่เราใช้เวลาในการพิจารณาอย่างระมัดระวัง เพื่อโฟกัสการลงทุนในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่มีศักยภาพ และขยายออกไปอีกได้ เราตระหนักถึงผลกระทบของการตัดสินใจในครั้งนี้ที่มีต่อทีมต่าง ๆ เป็นอย่างดี และผมขอเป็นตัวแทนบอร์ดบริหารในการแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อชาวกูรูที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจในครั้งนี้ ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และทุ่มเทให้กับกรุ๊ปของเราเป็นอย่างดีเสมอมา ผมขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีกับเส้นทางที่ทุกท่านเลือกเดินต่อไปนับจากนี้” 

        ด้านนายโจ ดิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน “ในไตรมาสที่ 2 นี้ ผลประกอบการธุรกิจโดยรวมของเราถือว่าดี แม้ว่าเราจะเผชิญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ค่อนข้างช้ากว่าที่คาดในเวียดนามก็ตาม รายได้ของเราในไตรมาสที่ 2 นี้ หากไม่นับรวมเวียดนามแล้ว มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 22% ผลกำไร Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างมีนัยจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 จากการที่เราได้กำไรทั้งจากการจัดการค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้น อันเป็นผลให้ทั้งรายได้ และผลกำไร Adjusted EBITDA ของเราเพิ่มขึ้นราว 4 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 104 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ผมตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกในตลาดเวียดนาม เนื่องจากรัฐบาลได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ย และปรับปรุงการเข้าถึงสินเชื่อให้ทั้งผู้บริโภคและผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ดีขึ้น  

         แม้ว่าภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบันจะยังคงไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะโฟกัสสร้างการเติบโตที่มีผลกำไร และยั่งยืน ด้วยการใช้โซลูชั่นชั้นนำที่เรามีในตลาดต่าง ๆ เราจะจัดการการใช้จ่ายอย่างรัดกุม รอบคอบ และตั้งเป้าในการลงทุนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกรุ๊ปของเรา ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ การตัดสินใจครั้งล่าสุดของเราที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียและโปรดักส์อย่างฟาสต์คีย์จะช่วยให้เราสามารถลำดับความสำคัญของทรัพยากรและการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น และจะไม่มีผลกระทบต่อการคาดการณ์ในปี 2566 ของเราแต่อย่างใด อนึ่ง เราได้ใช้เงินสำหรับค่าใช้จ่ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ราว 8 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 207 ล้านบาท)” 

ไฮไลต์ทางการเงิน – ไตรมาส 2 ปี 2566

  • รายได้รวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่  37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 956 ล้านบาท) ในไตรมาสสองปีนี้  
  • รายได้จากหน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 35 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ ในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยตลาดรายได้สำคัญยังคงเป็นสิงคโปร์ และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในมาเลเซียช่วยถ่วงดุลชั่วคราวให้ความท้าทายที่เกิดขึ้นในตลาดเวียดนามไม่รุนแรง   
  • รายได้ตามแต่ละเซ็กเมนต์:
    • หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในสิงคโปร์ รายได้โตขึ้น 25% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 22 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 570 ล้านบาท) จากจำนวนเอเจนต์โดยรวม และรายได้เฉลี่ยต่อเอเจนต์ (Average Revenue Per Agent หรือ “ARPA”) โตขึ้นในไตรมาสนี้ โดยในไตรมาสที่ 2 นี้รายได้เฉลี่ยต่อเอเจนต์เพิ่มขึ้น 25% มาอยู่ที่ 1,256 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 33,000 บาท) ต่อคน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และจำนวนเอเจนต์โดยรวมของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นกว่า 300 ราย มาอยู่ที่ 16,095 ราย อัตราการต่อสัญญา (renewal rate) ในไตรมาสอยู่ที่ 82%   
    • หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในมาเลเซีย รายได้เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 7 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (181 ล้านบาท) โดยบริษัทยังคงได้รับประโยชน์จากการรวมตลาดกันระหว่างสองแบรนด์ชั้นนำในประเทศ นั่นก็คือ iProperty และ PropertyGuru Malaysia 
    • หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในเวียดนาม รายได้ลดลง 27% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) เนื่องจากจำนวนรายการประกาศที่ลดลง ซึ่งถูกชดเชยด้วยรายได้เฉลี่ยต่อประกาศ (average revenue per listing  หรือ “ARPL”) ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความพยายามในการจำกัดการให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งต่อผู้บริโภคและผู้พัฒนาโครงการยังคงมีผลกระทบชั่วคราวต่อตลาดในไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้การซื้อขายในเวียดนามช่วงไตรมาสนี้ลดลง  ทั้งนี้ รายการประกาศของเวียดนามลดลงราว 46% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1.29 ล้านรายการ รายได้เฉลี่ยต่อประกาศอยู่ที่ (ARPL) 3.86 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 100 บาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปีก่อนหน้าราว 36%  
    • รายได้จากหน่วยธุรกิจฟินเทค (Fintech) และดาต้า เซอร์วิสเซส (Data services) เพิ่มขึ้น 47% มาอยู่ที่ 1.5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 39 ล้านบาท) 
  • ณ สิ้นสุดไตรมาส เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของกรุ๊ปอยู่ที่ 302 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 7.8 พันล้านบาท)

        รายละเอียดการดำเนินงานในเซ็กเมนต์ต่าง ๆ ของเราแสดงอยู่ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกในการคำนวน Adjusted EBITDA ดังนั้น การเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปี 2565 จึงมีการปรับใหม่

 

 

For the Three Months Ended June 30

 

 

2023

 

2022

 

YoY Growth

 

 

(S$ in thousands except percentages)

 

 

 

 

 

 

 

Revenue

36,880              

 

33,031              

 

11.7%

Marketplaces

35,368

 

32,001              

 

10.5%

 

Singapore

21,534              

 

17,293              

 

24.5%

 

Vietnam

5,074              

 

6,943             

 

-26.9%

 

Malaysia

6,602                

 

5,899                

 

11.9%

 

Other Asia

2,158                

 

1,866                

 

15.6%

Fintech and data services

1,512           

                

1,030                   

 

46.8%

Adjusted EBITDA

4,611                

 

256             

 

 

Marketplaces

20,775              

 

12,964                

 

 

 

Singapore

16,560              

 

11,233                

 

 

 

Vietnam

848                

 

1,669                

 

 

 

Malaysia

3,966                

 

1,241             

 

 

 

Other Asia

(599)                

 

(1,179)             

 

 

Fintech and data services

(2,657)             

 

          (1,885)

 

 

Corporate*

(13,507)             

 

(10,823)             

 

 

Adjusted EBITDA Margin (%)

12.5%

 

0.8%

 

Marketplaces

58.7%

 

40.5%

 

 

 

Singapore

76.9%

 

65.0%

 

 

 

Vietnam

16.7%

 

24.0%

 

 

 

Malaysia

60.1%

 

21.0%

 

 

 

Other Asia

-27.8%

 

-63.2%

 

 

Fintech and data services

-175.7%

 

-183.0%

 

 

           
           

 

 

For the Six Months Ended June 30

 

 

2023

 

2022

 

YoY Growth

 

 

(S$ in thousands except percentages)

 

 

 

 

 

 

 

Revenue

69,508              

 

61,263              

 

13.5%

Marketplaces

66,568

 

59,214              

 

12.4%

 

Singapore

40,381              

 

32,297              

 

25.0%

 

Vietnam

8,402              

 

11,999             

 

-30.0%

 

Malaysia

13,420                

 

11,333                

 

18.4%

 

Other Asia

4,365                

 

3,585                

 

21.8%

Fintech and data services

2,940           

                

2,049                   

 

43.5%

Adjusted EBITDA

4,831                

 

810             

 

 

Marketplaces

37,070              

 

26,616                

 

 

 

Singapore

30,567              

 

22,631                

 

 

 

Vietnam

(73)                

 

2,806                

 

 

 

Malaysia

7,468                

 

3,610             

 

 

 

Other Asia

(892)                

 

(2,431)             

 

 

Fintech and data services

(4,862)             

 

          (3,531)

 

 

Corporate*

(27,377)             

 

(22,275)             

 

 

Adjusted EBITDA Margin (%)

7.0%

 

1.3%

 

Marketplaces

55.7%

 

44.9%

 

 

 

Singapore

75.7%

 

70.1%

 

 

 

Vietnam

-0.9%

 

23.4%

 

 

 

Malaysia

55.6%

 

31.9%

 

 

 

Other Asia

-20.4%

 

-67.8%

 

 

Fintech and data services

-165.4%

 

-172.3%

 

 

           

การเป็นผู้นำในตลาดขับเคลื่อนโอกาสการเติบโตในระยะยาว 

        ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 พร็อพเพอร์ตี้กูรู ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดด้วยสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งในประเทศสิงคโปร์, เวียดนาม, มาเลเซีย และไทย  

สิงคโปร์: 82% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 5.9 เท่า
มาเลเซีย: 93% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 13.6 เท่า 

เวียดนาม: 82% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 4.5 เท่า
ไทย: 54% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 2.3 เท่า

ภาพรวมของตลาดในปี 2566

         บริษัทยังคงคาดการณ์ว่ารายได้ทั้งปีของปี 2566 นี้จะอยู่ที่ระหว่าง 160 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 4.1 พันล้านบาท) – 170 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 4.4 พันล้านบาท) ในขณะที่ Adjusted EBITDA จะอยู่ที่ราวๆ 11 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 285 ล้านบาท) – 15 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 388 ล้านบาท) แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันในเวียดนามยังคงทรงตัวอย่ แต่เราเชื่อว่ารายได้จะยังคงแตะถึงเป้าต่ำสุดที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ เรายังคงมองว่าสถานการณ์ในเวียดนามจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไปของปีนี้  

          ดังที่สังเกตในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา การเข้าแทรกแซงในตลาดอสังหาฯ ของรัฐบาลเวียดนาม, ความผันผวนทางการเมืองในมาเลเซียที่ยังคงมีอยู่, นโยบายที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ที่เคร่งครัดขึ้น ประกอบกับความไม่ชัดเจนของนโยบายการคลัง อันเกิดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มสูงขึ้น, แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงประเด็นเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายระยะสั้น ที่อาจจะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัท และคงการคาดการณ์ในแบบที่ไม่หวือหวาเท่าใดนักในปี 2566 นี้ แต่ในระยะยาว บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเร่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อเพิ่มผลกำไร และสร้างโอกาสในตลาดหลัก ๆ ที่เราดำเนินการอยู่  

อ่านเพิ่ม
Sidebar
TIK TOK
รีวิวโครงการ
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Sponsor
รีวิว บ้านกรีนเฮ้าส์ รังสิต สเตชั่น-ซ.เวิร์คพอยท์ คอนโดแนวคิดใหม่ สไตล์ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 นอน 2 น้ำ บนทำเลรังสิต-ปทุมฯ ใกล้ทางด่วนฯ, โทลล์เวย์ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต
Sponsor
รีวิว นิรติ ดอนเมือง (NIRATI DONMUEANG) บ้านและทาวน์โฮม NEW SERIES 2.5 ชั้น พร้อมส่วนกลางกว่า 4 ไร่* ที่สุดของทำเลศักยภาพ เพียง 5 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง
Sponsor
Loading..