KAVE playground

7 วิธีเตรียมบ้านให้รับมือแผ่นดินไหว ปลอดภัยไว้ก่อนไม่ต้องตื่นตระหนก

แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจคาดเดาล่วงหน้าได้ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ในประเทศไทยแม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวรุนแรงเท่าบางประเทศ แต่ก็เคยเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายมาแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ การเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกครอบครัวควรตระหนักถึง บทความนี้จะแนะนำ 7 วิธีที่ช่วยให้บ้านของคุณและผู้อยู่อาศัยปลอดภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

1. การตรวจสอบโครงสร้างบ้านให้มั่นคงแข็งแรง

การเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวเริ่มต้นที่โครงสร้างหลักของบ้าน โครงสร้างที่แข็งแรงคือด่านแรกในการปกป้องผู้อยู่อาศัยจากภัยแผ่นดินไหว

สำหรับบ้านที่สร้างใหม่ ควรออกแบบและก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานการต้านทานแผ่นดินไหว (Seismic Design) ซึ่งจะทำให้โครงสร้างบ้านสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี มาตรฐานดังกล่าวประกอบด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่น การเสริมเหล็กในจุดสำคัญ และการออกแบบให้น้ำหนักกระจายตัวอย่างสมดุล

สำหรับบ้านที่มีอยู่แล้ว ควรตรวจสอบสภาพโครงสร้างอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นเสา คาน และฐานราก หากพบรอยแตกร้าว การทรุดตัว หรือความผิดปกติใดๆ ควรรีบซ่อมแซมทันที การเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การติดตั้งค้ำยันเพิ่มเติม การเสริมกำแพงรับแรงเฉือน (Shear Wall) หรือการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เสริมความแข็งแรงในจุดสำคัญ

นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับจุดต่อระหว่างโครงสร้างต่างๆ เช่น รอยต่อระหว่างเสากับคาน หรือผนังกับพื้น ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่มักเกิดความเสียหายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อที่แข็งแรงและยืดหยุ่น เช่น แผ่นเหล็กเสริมกำลัง หรือสลักเกลียวพิเศษ จะช่วยให้โครงสร้างสามารถเคลื่อนตัวและรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น

2. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้าน

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านอย่างเหมาะสมเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ หรือชั้นหนังสือ มักล้มคว่ำเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับบาดเจ็บหรือกีดขวางเส้นทางหนีภัย

ควรยึดตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ติดกับผนังหรือพื้นด้วยอุปกรณ์ยึดที่แข็งแรง เช่น สกรูสำหรับติดผนัง สายรัดเฟอร์นิเจอร์ หรือเข็มขัดนิรภัย สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีลิ้นชัก ควรติดตั้งตัวล็อคป้องกันลิ้นชักเปิดเองเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน

ของตกแต่งที่แตกหักง่าย เช่น แจกัน กรอบรูป หรือของสะสมต่างๆ ควรจัดวางในพื้นที่ปลอดภัย เช่น ในตู้กระจกที่มีประตูล็อคได้ หรือใช้สารยึดติดชนิดพิเศษที่เรียกว่า มิวเซียมเจล (Museum Gel) หรือกาวแวกซ์ (Wax Adhesive) ซึ่งช่วยยึดสิ่งของให้อยู่กับที่แต่ยังคงถอดออกได้เมื่อต้องการ

เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า ควรยึดติดกับผนังหรือพื้นด้วยอุปกรณ์เฉพาะ โดยเฉพาะโทรทัศน์แบบแขวนผนังควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ขาแขวนที่ได้มาตรฐานและติดตั้งอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ ควรจัดเตรียมพื้นที่โล่งสำหรับเป็นเส้นทางหนีภัย โดยหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์กีดขวางทางเดินหลักหรือประตูทางออกฉุกเฉิน การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบและมีพื้นที่ว่างเพียงพอจะช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

3. การเสริมความแข็งแรงให้หลังคาและฝ้าเพดาน

หลังคาและฝ้าเพดานเป็นส่วนสำคัญของบ้านที่มักได้รับความเสียหายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และสามารถก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากหากพังถล่มลงมา การเสริมความแข็งแรงให้กับส่วนนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น

โครงสร้างหลังคาควรได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น โดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อที่เหมาะสมระหว่างจันทันกับอะเส และระหว่างโครงหลังคากับผนัง เช่น แฮงเกอร์จันทัน (Rafter Hangers) หรือเหล็กมุมยึด (Steel Angle Brackets) ซึ่งจะช่วยให้โครงหลังคาไม่หลุดออกจากกันเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน สำหรับหลังคาเดิมที่มีอยู่แล้ว ควรตรวจสอบจุดเชื่อมต่อต่างๆ และเสริมความแข็งแรงในจุดที่อ่อนแอ

วัสดุมุงหลังคาควรมีน้ำหนักเบาแต่ทนทาน เช่น กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ เมทัลชีท หรือแอสฟัลต์ชิงเกิล ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเกิดการหล่นกระทบ ควรตรวจสอบการยึดติดของวัสดุมุงหลังคาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังจากเกิดพายุหรือลมแรง ซึ่งอาจทำให้วัสดุมุงหลังคาหลวมและเพิ่มความเสี่ยงเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

สำหรับฝ้าเพดาน โดยเฉพาะฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ ควรติดตั้งโครงคร่าวที่แข็งแรงและยึดติดกับโครงสร้างหลักของบ้านอย่างมั่นคง แผ่นฝ้าควรยึดติดกับโครงคร่าวด้วยสกรูที่มีความยาวและขนาดเหมาะสม ไม่ควรใช้ตะปูซึ่งอาจหลุดออกได้ง่ายเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน

อุปกรณ์ที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน เช่น พัดลมเพดาน โคมไฟ หรือลำโพง ควรยึดติดกับโครงสร้างหลักหรือคานของบ้าน ไม่ควรยึดติดกับแผ่นฝ้าเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแผ่นฝ้ามีความสามารถในการรับน้ำหนักต่ำ การติดตั้งที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ตกลงมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

4. การปรับปรุงระบบไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส

ระบบสาธารณูปโภคภายในบ้าน ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว เนื่องจากความเสียหายต่อระบบเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ไฟไหม้ การรั่วไหลของแก๊ส หรือน้ำท่วม

สำหรับระบบไฟฟ้า ควรติดตั้งเบรกเกอร์ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร (Circuit Breaker) หรือเครื่องตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว (Seismic Switch) ซึ่งจะช่วยป้องกันไฟไหม้เมื่อสายไฟเกิดความเสียหาย สายไฟภายในบ้านควรเดินในท่อร้อยสายที่มีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในจุดที่ผ่านรอยต่อโครงสร้าง ซึ่งอาจเกิดการเคลื่อนตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

อุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องปรับอากาศ หม้อแปลงไฟฟ้า หรือแผงควบคุมไฟฟ้า ควรยึดติดกับผนังหรือโครงสร้างที่แข็งแรงด้วยอุปกรณ์ยึดที่ออกแบบเฉพาะ ควรมีไฟฉุกเฉินที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าดับ เพื่อให้แสงสว่างในการอพยพหนีภัย

ระบบน้ำประปาควรใช้ท่อที่มีความยืดหยุ่น เช่น ท่อ PVC หรือท่อ PE ซึ่งสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่าท่อเหล็กหรือท่อคอนกรีต ในจุดเชื่อมต่อสำคัญ ควรใช้ข้อต่อแบบยืดหยุ่น (Flexible Coupling) ซึ่งจะช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนและป้องกันการแตกหักของท่อ

ควรติดตั้งวาล์วตัดน้ำอัตโนมัติ (Automatic Water Shut-off Valve) ซึ่งจะทำงานเมื่อตรวจพบการรั่วไหลของน้ำในปริมาณมาก ช่วยป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมหลังเกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ควรมีถังเก็บน้ำสำรองที่ยึดติดกับโครงสร้างอย่างมั่นคงสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน

  • สำหรับระบบแก๊ส ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่สุด ควรติดตั้งวาล์วตัดแก๊สอัตโนมัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว (Seismic Gas Shut-off Valve) ที่ท่อแก๊สหลักก่อนเข้าบ้าน อุปกรณ์นี้จะตัดการจ่ายแก๊สทันทีเมื่อตรวจจับการสั่นสะเทือนที่เกินระดับที่กำหนด ป้องกันการรั่วไหลของแก๊สและการเกิดเพลิงไหม้

ท่อแก๊สควรเป็นท่อที่ได้มาตรฐานและเหมาะสำหรับการใช้งานกับแก๊สโดยเฉพาะ และควรมีการตรวจสอบการรั่วซึมอย่างสม่ำเสมอ อุปกรณ์ที่ใช้แก๊ส เช่น เตาแก๊ส เครื่องทำน้ำร้อน หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควรยึดติดกับพื้นหรือผนังอย่างมั่นคง และควรใช้ท่อแก๊สแบบยืดหยุ่น (Flexible Gas Line) เชื่อมต่อกับอุปกรณ์

ควรฝึกอบรมสมาชิกในครอบครัวให้รู้จักวิธีปิดระบบแก๊ส น้ำ และไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน และควรมีเครื่องตรวจจับแก๊สและควันไฟติดตั้งในบ้าน เพื่อแจ้งเตือนเมื่อเกิดการรั่วไหลของแก๊สหรือเพลิงไหม้

5. การเตรียมพื้นที่ปลอดภัยและเส้นทางอพยพ

การเตรียมพื้นที่ปลอดภัยและเส้นทางอพยพภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถหลบภัยและออกจากบ้านได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การวางแผนล่วงหน้าและการซักซ้อมเป็นประจำจะช่วยลดความสับสนและความตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

พื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านควรเป็นบริเวณที่มีโครงสร้างแข็งแรง ห่างจากหน้าต่างกระจก ชั้นวางของ หรือเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่อาจล้มทับ เช่น ใต้โต๊ะที่แข็งแรง ใกล้ผนังรับน้ำหนัก หรือภายในวงกบประตูที่แข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้เตาไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือบริเวณที่มีสิ่งของแขวนอยู่เหนือศีรษะ

  • เส้นทางอพยพควรมีอย่างน้อย 2 เส้นทางจากทุกห้องในบ้าน ทางเดินและบันไดควรปลอดโปร่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง กุญแจหรืออุปกรณ์ที่ใช้เปิดประตูหน้าต่างฉุกเฉินควรเก็บไว้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่ายและทุกคนในบ้านทราบ ประตูและหน้าต่างควรสามารถเปิดออกได้โดยง่าย ไม่ติดขัดหรือล็อคด้วยอุปกรณ์ที่ซับซ้อนเกินไป

แผนที่แสดงเส้นทางอพยพและจุดรวมพลควรติดไว้ในที่ที่ทุกคนเห็นได้ชัดเจน พร้อมระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ดับเพลิง ชุดปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ฉุกเฉินอื่นๆ จุดรวมพลควรเป็นพื้นที่โล่ง ห่างจากสิ่งปลูกสร้าง สายไฟฟ้า หรือต้นไม้ใหญ่ที่อาจล้มทับ

แผนอพยพฉุกเฉินควรมีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีติดต่อสมาชิกในครอบครัว วิธีปิดระบบแก๊ส น้ำ และไฟฟ้า และข้อมูลติดต่อหน่วยงานฉุกเฉินต่างๆ ควรมีการซักซ้อมแผนอพยพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยให้ทุกคนในบ้านมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติได้จริงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ควรมีการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉินสำหรับการอพยพ ซึ่งประกอบด้วยสิ่งของจำเป็น เช่น น้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูป ไฟฉาย วิทยุแบบใช้ถ่าน ยาประจำตัว เอกสารสำคัญ และเงินสดจำนวนหนึ่ง กระเป๋าฉุกเฉินควรเก็บไว้ในที่ที่หยิบฉวยได้ง่ายเมื่อต้องอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน

6. การติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยและอุปกรณ์ฉุกเฉิน

การติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยและอุปกรณ์ฉุกเฉินเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญในการเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ ช่วยลดความเสียหาย และช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดการกับสถานการณ์หลังเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องเตือนภัยแผ่นดินไหว (Earthquake Early Warning System) เป็นอุปกรณ์ที่ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหวเบื้องต้น (P-wave) ซึ่งเดินทางเร็วกว่าคลื่นที่ทำให้เกิดความเสียหาย (S-wave) ทำให้สามารถแจ้งเตือนได้ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่กี่วินาทีถึงนาที แม้เวลาจะน้อยแต่ก็เพียงพอที่จะหลบเข้าที่ปลอดภัยหรือตัดระบบแก๊สและไฟฟ้าได้

  • เครื่องตรวจจับควันและเครื่องตรวจจับแก๊ส ควรติดตั้งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือห้องที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก ควรตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามคำแนะนำของผู้ผลิต

ถังดับเพลิงควรมีอย่างน้อย 1 ถังในทุกชั้นของบ้าน และควรเป็นถังดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ (Multi-purpose หรือ ABC Fire Extinguisher) ซึ่งสามารถดับไฟได้หลายประเภท ถังดับเพลิงควรติดตั้งในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ถูกปิดบังด้วยสิ่งของ และควรตรวจสอบวันหมดอายุและความดันอย่างสม่ำเสมอ

ระบบสำรองไฟฟ้า เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กหรือแบตเตอรี่สำรอง จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อไฟฟ้าดับหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์สำคัญ เช่น เครื่องปั๊มน้ำ ตู้เย็น หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ควรเก็บเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไว้ในที่ปลอดภัย ห่างจากความร้อนและเปลวไฟ

ชุดปฐมพยาบาลควรมีอย่างน้อย 1 ชุดในบ้าน และควรประกอบด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ผ้าพันแผล ยาฆ่าเชื้อ ยาระงับปวด และอุปกรณ์ทำความสะอาดแผล นอกจากนี้ ควรมียาประจำตัวของสมาชิกในครอบครัวเก็บสำรองไว้ในชุดปฐมพยาบาลด้วย

อุปกรณ์สื่อสารฉุกเฉิน เช่น วิทยุสื่อสาร วิทยุแบบชาร์จไฟด้วยมือหมุน หรือโทรศัพท์ดาวเทียม จะช่วยให้สามารถติดต่อกับหน่วยงานช่วยเหลือหรือญาติพี่น้องได้เมื่อระบบโทรศัพท์ปกติใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้ การมีนกหวีดหรืออุปกรณ์ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

7. การทำประกันภัยและการเตรียมเอกสารสำคัญ

การทำประกันภัยและการเตรียมเอกสารสำคัญเป็นมาตรการป้องกันความเสียหายทางการเงินและทรัพย์สินเมื่อเกิดแผ่นดินไหว แม้จะไม่สามารถป้องกันความเสียหายทางกายภาพได้โดยตรง แต่จะช่วยให้การฟื้นฟูหลังเกิดเหตุเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้น

ประกันภัยบ้านทั่วไปมักไม่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหว จึงควรพิจารณาทำประกันภัยแผ่นดินไหวเพิ่มเติม (Earthquake Insurance) ซึ่งจะให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวโดยตรง ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นของกรมธรรม์อย่างละเอียด โดยเฉพาะวงเงินคุ้มครอง ค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องรับผิดชอบเอง (Deductible) และระยะเวลารอคอย (Waiting Period)

  • สำหรับเอกสารสำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน พาสปอร์ต กรมธรรม์ประกันภัย หรือสมุดบัญชีเงินฝาก ควรเก็บต้นฉบับไว้ในตู้นิรภัยที่ทนไฟและกันน้ำ พร้อมทั้งทำสำเนาเก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัลโดยอัปโหลดไว้บนคลาวด์หรือเก็บในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่พกพาได้

ควรจัดทำบัญชีทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน โดยระบุรายละเอียด มูลค่า และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยเมื่อเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ ควรมีการบันทึกข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน เช่น เบอร์โทรศัพท์ของญาติ แพทย์ประจำตัว หรือหน่วยงานฉุกเฉินต่างๆ และเก็บไว้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย

การวางแผนทางการเงินสำหรับภาวะฉุกเฉินก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรมีเงินสดสำรองไว้ใช้ในกรณีที่ระบบธนาคารหรือเครื่อง ATM ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว และควรมีวงเงินสินเชื่อสำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่าที่พักชั่วคราว หรือค่ารักษาพยาบาล

นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ ที่มีให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เช่น เงินช่วยเหลือเยียวยา สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือการยกเว้นภาษีสำหรับการซ่อมแซมบ้าน การรู้สิทธิและช่องทางการขอความช่วยเหลือล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์

สรุป

การเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกครอบครัวควรให้ความสำคัญ แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง แต่การเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

7 วิธีเตรียมบ้านให้รับมือแผ่นดินไหวที่กล่าวมาข้างต้น ได้แก่ การตรวจสอบโครงสร้างบ้านให้มั่นคงแข็งแรง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้าน การเสริมความแข็งแรงให้หลังคาและฝ้าเพดาน การปรับปรุงระบบไฟฟ้า น้ำประปา และแก๊ส การเตรียมพื้นที่ปลอดภัยและเส้นทางอพยพ การติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยและอุปกรณ์ฉุกเฉิน และการทำประกันภัยและการเตรียมเอกสารสำคัญ เป็นแนวทางพื้นฐานที่จะช่วยให้บ้านของคุณและผู้อยู่อาศัยปลอดภัยยิ่งขึ้น

การเตรียมความพร้อมไม่ใช่เพียงการปรับปรุงบ้านทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมของสมาชิกในครอบครัวด้วย การให้ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหว การซักซ้อมแผนอพยพ และการเตรียมจิตใจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จะช่วยให้ทุกคนสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างมีสติและปลอดภัย

แม้เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติได้ แต่การเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสียหายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การลงทุนเวลาและทรัพยากรในการเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

#แผ่นดินไหว #ความปลอดภัยในบ้าน #เตรียมพร้อมภัยพิบัติ #โครงสร้างบ้าน #อพยพฉุกเฉิน #อุปกรณ์ฉุกเฉิน #ประกันภัยบ้าน #สาระ

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
SCMasterofLuxury บ้านที่ไม่ใช่แค่ที่อยู่ แต่คือภาพสะท้อนของความต้องการในแบบ Luxury อย่างแท้จริง
ข่าวสาร
SCX Corporation ผนึก สยามกลการ บุกอมตะซิตี้ ชลบุรี ร่วมลงทุนกว่า 850 ลบ. ผุดคลังสินค้า 37,000 ตร.ม. ชูมาตรฐานอาคารสีเขียว เสริมพอร์ต Recurring Income
ข่าวสาร
“SAM” ส่งมอบโอกาสเพื่อชาวภาคตะวันออก ร่วมออกบูท “MONEY EXPO 2025 RAYONG” จัดโปรฯเด่นทรัพย์มือสอง เปิดพื้นที่รับปรึกษาปรับโครงสร้างหนี้บ้านและธุรกิจ ลูกค้า NPL มาพร้อม “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ช่วยแก้หนี้เสียบัตร
ข่าวสาร
4-7 ก.ย. นี้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ เนรมิตบูธ “Disney Home” สุดอลัง ในงาน “Disney Toy Expo Thailand 2025” พบของแต่งบ้านดิสนีย์ลิขสิทธิ์แท้ ที่จะเปลี่ยนทุกมุมบ้านให้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์
ข่าวสาร
ธอส. ฉลองครบ 6 รอบ 72 ปี จัดสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.72% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้น 2,700 บาทต่อเดือน เท่านั้น!!
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
Loading..