การนำต้นไม้มาปลูกในห้องนอนไม่เพียงแค่สร้างความสวยงามให้กับพื้นที่พักผ่อน แต่ยังมีประโยชน์มากมายต่อคุณภาพชีวิต ต้นไม้ฟอกอากาศสามารถดูดซับสารพิษ ลดมลภาวะในอากาศ เพิ่มความชื้น และปล่อยออกซิเจนที่บริสุทธิ์ ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อการนอนหลับและสุขภาพโดยรวม บทความนี้จะแนะนำ 10 ชนิดของต้นไม้ฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับปลูกในห้องนอน ดูแลง่าย และช่วยให้คุณหลับสบายมากขึ้น
เหตุผลที่ควรมีต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน
ในยุคปัจจุบัน อากาศภายในที่พักอาศัยมักมีมลพิษแฝงอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นสารระเหยจากเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สีทาบ้าน หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด การนอนหลับในห้องที่มีอากาศไม่บริสุทธิ์อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือนอนหลับไม่สนิท
ต้นไม้ฟอกอากาศจะช่วยกรองสารพิษต่างๆ เหล่านี้ และปล่อยออกซิเจนออกมา ทำให้อากาศในห้องนอนสะอาดขึ้น นอกจากนี้ ความชื้นที่ต้นไม้ปล่อยออกมายังช่วยลดความแห้งของผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ลดอาการไอและเจ็บคอตอนตื่นนอน การศึกษาจากองค์การ NASA ยังพบว่าต้นไม้บางชนิดสามารถลดสารพิษในอากาศได้ถึง 87% ภายใน 24 ชั่วโมง
การมีต้นไม้ในห้องนอนยังให้ผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยลดความเครียด สร้างความผ่อนคลาย และส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพ เมื่อรวมกับการออกแบบห้องนอนที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยในการเลือกต้นไม้สำหรับห้องนอน
การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับปลูกในห้องนอนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ความสามารถในการฟอกอากาศ – ต้นไม้แต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารพิษแตกต่างกัน บางชนิดเหมาะกับการกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ บางชนิดดีกับการกรองเบนซีน หรือแอมโมเนีย
- การดูแลรักษาที่ง่าย – เนื่องจากห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัว จึงควรเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการการดูแลมาก ทนต่อสภาพแสงน้อย และไม่ต้องรดน้ำบ่อยจนเกินไป
- การปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน – ต้นไม้บางชนิดสามารถปล่อยออกซิเจนแม้ในเวลากลางคืน ซึ่งแตกต่างจากต้นไม้ส่วนใหญ่ที่หยุดการสังเคราะห์แสงและดูดซับออกซิเจนแทน
- ขนาดและการเติบโต – ควรเลือกต้นไม้ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้องนอน ไม่โตเร็วจนเกินไป หรือแผ่กิ่งก้านรบกวนพื้นที่ใช้สอย
- ความปลอดภัย – หากมีสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีพิษเมื่อกินหรือสัมผัส
10 ต้นไม้ฟอกอากาศเหมาะปลูกในห้องนอน
1. เศรษฐีเรือนใน (Snake Plant หรือ Sansevieria)
เศรษฐีเรือนในเป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและดูแลง่ายที่สุด สามารถอยู่รอดได้แม้ในสภาพแสงน้อยและการรดน้ำไม่สม่ำเสมอ ลักษณะเด่นของเศรษฐีเรือนในคือใบตั้งตรงแข็งแรง มีลายเส้นสีเขียวเข้มสลับสีเขียวอ่อนหรือขอบสีเหลือง ซึ่งสามารถสร้างจุดเด่นให้กับห้องนอนได้ดี
เศรษฐีเรือนในมีความพิเศษตรงที่สามารถปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน ซึ่งต่างจากพืชส่วนใหญ่ที่จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพสูงในการดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ไนโตรเจนออกไซด์ เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน ซึ่งมักพบในเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งบ้าน
การดูแลเศรษฐีเรือนในทำได้ง่ายมาก เพียงรดน้ำเมื่อดินแห้ง ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และวางในที่มีแสงเล็กน้อย แม้จะอยู่ในมุมห้องที่ไม่มีแสงมากก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางเวลาวุ่นวายหรือเดินทางบ่อย นอกจากนี้ ยังขยายพันธุ์ง่าย โดยการแยกหน่อหรือตัดใบปักชำ ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนต้นไม้ในห้องนอนได้โดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
2. ลิ้นมังกร (Peace Lily หรือ Spathiphyllum)
ลิ้นมังกรเป็นต้นไม้ที่สวยงามด้วยดอกสีขาวสะอาดตาและใบสีเขียวเข้มมันวาว นอกจากความสวยงามแล้ว ลิ้นมังกรยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศชั้นเยี่ยมที่สามารถกำจัดสารพิษหลายชนิด รวมถึงแอมโมเนีย ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน ซึ่งพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด พลาสติก และสีทา
ลิ้นมังกรมีความสามารถพิเศษในการเพิ่มความชื้นในอากาศประมาณ 5% ซึ่งช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ อาการภูมิแพ้ และอาการไอแห้งในเวลากลางคืน ทำให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น ต้นไม้ชนิดนี้ยังช่วยลดจำนวนสปอร์เชื้อราในอากาศได้ถึง 60% ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้
การดูแลลิ้นมังกรไม่ยากมาก แต่ต้องการความใส่ใจมากกว่าเศรษฐีเรือนในเล็กน้อย ควรรดน้ำเมื่อชั้นบนของดินเริ่มแห้ง ประมาณสัปดาห์ละครั้ง และวางในที่มีแสงสว่างปานกลางแต่ไม่โดนแดดโดยตรง หากใบเริ่มเหี่ยวหรือห้อย นั่นเป็นสัญญาณว่าต้นไม้ต้องการน้ำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่สังเกตได้ง่าย แต่ควรระวังหากมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เนื่องจากลิ้นมังกรมีสารที่อาจเป็นพิษต่อแมวและสุนัขหากกินเข้าไป
3. ยางอินเดีย (Rubber Plant หรือ Ficus elastica)
ยางอินเดียเป็นต้นไม้ที่มีใบใหญ่ หนา เป็นมันวาว มีหลายสายพันธุ์ตั้งแต่สีเขียวเข้มไปจนถึงสีแดงเข้มหรือมีลายด่าง ทำให้เป็นจุดเด่นในห้องนอน ต้นไม้ชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการฟอกอากาศและลดเชื้อแบคทีเรียในอากาศได้ถึง 50%
ยางอินเดียช่วยขจัดสารพิษในอากาศ โดยเฉพาะฟอร์มาลดีไฮด์ที่ระเหยออกมาจากเฟอร์นิเจอร์ พรม และวัสดุตกแต่งภายใน ความสามารถในการดูดซับสารพิษของยางอินเดียมาจากพื้นที่ผิวใบที่กว้างและหนา ทำให้สามารถดักจับอนุภาคมลพิษและสารระเหยได้ดี นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ในห้อง ทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
การดูแลยางอินเดียไม่ยุ่งยากมาก ต้องการแสงสว่างปานกลางแต่ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง และควรรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ใบของยางอินเดียมักสะสมฝุ่น จึงควรเช็ดใบด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เดือนละครั้งเพื่อให้ต้นไม้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยางอินเดียมีน้ำยางสีขาวที่อาจระคายเคืองผิวหนังได้ ควรสวมถุงมือเมื่อต้องตัดแต่งหรือย้ายต้น
4. พลูด่าง (Pothos หรือ Epipremnum aureum)
พลูด่างเป็นไม้เลื้อยที่มีความทนทานสูงและดูแลง่ายที่สุดชนิดหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นปลูกต้นไม้ในบ้าน มีใบรูปหัวใจสีเขียวสลับด่างสีเหลืองหรือขาว ทำให้ดูสวยงามไม่ว่าจะปลูกในกระถางแขวนหรือวางบนชั้นให้เลื้อยลงมา
พลูด่างมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์และคาร์บอนมอนอกไซด์ที่มาจากวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และควันบุหรี่ตกค้าง การศึกษาจาก NASA แสดงให้เห็นว่าพลูด่างสามารถลดปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศได้ถึง 73% ภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยขจัดเบนซีน และไซลีนซึ่งเป็นสารระเหยที่พบในน้ำยาทำความสะอาด สีทาบ้าน และผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ
การดูแลพลูด่างทำได้ง่ายมาก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่มีแสงน้อยถึงปานกลาง ทนต่อความแห้งแล้ง ควรรดน้ำเมื่อดินแห้ง ประมาณสัปดาห์ละครั้ง หากสังเกตเห็นใบเหี่ยวเล็กน้อย นั่นเป็นสัญญาณว่าต้นไม้ต้องการน้ำ พลูด่างยังขยายพันธุ์ง่ายด้วยการตัดยอดปักชำในน้ำหรือดิน ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนต้นไม้ในห้องนอนได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ควรระวังหากมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน เนื่องจากพลูด่างมีสารพิษเล็กน้อยหากสัตว์เลี้ยงกินเข้าไป
5. เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern หรือ Nephrolepis exaltata)
เฟิร์นบอสตันเป็นต้นไม้ที่มีใบสีเขียวสดฟูนุ่ม ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับแขวนหรือวางบนชั้นในห้องนอนเพื่อเพิ่มความเขียวชอุ่ม นอกจากความสวยงามแล้ว เฟิร์นบอสตันยังเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเพิ่มความชื้นในอากาศ
เฟิร์นบอสตันช่วยกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์และไซลีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด กาว และน้ำยาเคลือบเงา ความสามารถในการเพิ่มความชื้นของเฟิร์นบอสตันช่วยลดอาการระคายเคืองจากอากาศแห้ง เช่น คอแห้ง ผิวแห้ง และอาการภูมิแพ้ ซึ่งมักเป็นปัญหาในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือในช่วงฤดูหนาว การศึกษาพบว่าเฟิร์นบอสตันที่มีขนาดใหญ่สามารถระเหยน้ำได้ถึง 1 ลิตรต่อวัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเพิ่มความชื้นไฟฟ้า
การดูแลเฟิร์นบอสตันต้องการความเอาใจใส่มากกว่าต้นไม้ชนิดอื่นในรายการนี้ ต้องการความชื้นสูงและดินที่ชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่แฉะ ควรหมั่นพรมน้ำบนใบเพื่อเพิ่มความชื้น โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ ชอบแสงสว่างแต่ไม่โดนแดดโดยตรง และไม่ชอบอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป หากสามารถจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้ได้ เฟิร์นบอสตันจะให้ประโยชน์ด้านการฟอกอากาศและเพิ่มความชื้นที่เหนือกว่าต้นไม้อื่นๆ
6. อโกลนีมา (Aglaonema หรือ Chinese Evergreen)
อโกลนีมาเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงามด้วยใบลายด่างหลากสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน เขียวเข้ม แดง ชมพู ขาว และเหลือง ทำให้สามารถเลือกสีที่เข้ากับการตกแต่งห้องนอนได้หลากหลาย อโกลนีมามีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
อโกลนีมาเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ สามารถกำจัดสารเบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารพิษอื่นๆ ที่พบในวัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ การวิจัยพบว่ายิ่งอโกลนีมามีอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศยิ่งเพิ่มขึ้น ต้นที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปสามารถกรองสารพิษได้มากกว่าต้นอ่อนถึง 3 เท่า นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดฝุ่นละออง และเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับได้ดี
การดูแลอโกลนีมาทำได้ง่าย ทนต่อสภาพแสงน้อย แต่ชอบแสงสว่างปานกลาง ไม่โดนแดดโดยตรง ควรรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง ประมาณ 7-10 วันต่อครั้ง ไม่ควรรดน้ำมากเกินไปเพราะจะทำให้รากเน่า ต้นไม้ชนิดนี้ไม่ต้องการการตัดแต่งมาก เพียงตัดใบที่เหลืองหรือเสียหายออกเพื่อให้มีพลังในการเจริญเติบโตและฟอกอากาศมากขึ้น อโกลนีมายังมีความเชื่อว่านำโชคลาภมาสู่บ้าน ทำให้เป็นที่นิยมในการนำมาปลูกในห้องนอนทั้งเพื่อความสวยงามและความเป็นสิริมงคล
7. ปาล์มเขียว (Areca Palm หรือ Dypsis lutescens)
ปาล์มเขียวหรือปาล์มอาเรกาเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่าชนิดอื่นในรายการนี้ แต่สามารถนำมาปลูกในห้องนอนขนาดกลางถึงใหญ่ได้ ลักษณะใบคล้ายขนนกสีเขียวสด ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเขตร้อนหรือรีสอร์ท ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว
ปาล์มเขียวเป็นต้นไม้ฟอกอากาศระดับยอดเยี่ยม ได้รับการจัดอันดับจาก NASA ว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการฟอกอากาศและเพิ่มความชื้น สามารถกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน และแอมโมเนียได้ดี ที่พิเศษกว่านั้นคือสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนในปริมาณสูงแม้ในเวลากลางคืน ทำให้อากาศในห้องนอนบริสุทธิ์อยู่เสมอ
การดูแลปาล์มเขียวไม่ยากมาก แต่ต้องการพื้นที่และแสงมากกว่าต้นไม้ชนิดอื่น ชอบแสงสว่างแต่ไม่ควรโดนแดดโดยตรง และต้องการการรดน้ำที่สม่ำเสมอ ให้ดินชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ ควรหมั่นพรมน้ำบนใบเพื่อเพิ่มความชื้นและป้องกันปลายใบแห้ง นอกจากนี้ ควรใส่ปุ๋ยเล็กน้อยในช่วงเติบโต ปาล์มเขียวเติบโตช้า จึงไม่ต้องกังวลว่าจะโตเร็วจนเกินพื้นที่ห้องนอน แต่ต้องระวังไม่ให้เปลือกกระถองหรือใบแห้งตกหล่นเลอะพื้น
8. ฟิโลเดนดรอน (Philodendron)
ฟิโลเดนดรอนมีหลายสายพันธุ์ ทั้งแบบเลื้อยและแบบต้น มีใบหลากหลายรูปแบบและสี เช่น ฟิโลเดนดรอนใบหัวใจ (Heartleaf Philodendron) ที่มีใบรูปหัวใจ หรือฟิโลเดนดรอนใบฉมวก (Xanadu) ที่มีใบหยักลึก ทำให้สามารถเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับการตกแต่งห้องนอนได้หลากหลาย
ฟิโลเดนดรอนเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในการกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่พบได้ในวัสดุตกแต่งบ้าน เช่น ไม้อัด สีทาบ้าน และพรม การศึกษาพบว่าฟิโลเดนดรอนสามารถดูดซับฟอร์มาลดีไฮด์ได้มากถึง 86% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับไซลีนและเบนซีนซึ่งเป็นสารพิษที่พบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและน้ำยาเคลือบเงา
การดูแลฟิโลเดนดรอนทำได้ง่าย ทนต่อสภาพแสงน้อยถึงปานกลาง ไม่ต้องการแสงแดดโดยตรง ควรรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ฟิโลเดนดรอนขยายพันธุ์ง่ายด้วยการตัดยอดปักชำในน้ำหรือดิน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิห้องปกติและทนต่อสภาพอากาศแห้งได้ดี ทำให้เหมาะกับห้องนอนที่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ยังชอบความชื้นพอสมควร อาจวางไว้ในห้องน้ำติดกับห้องนอนเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มความชื้น
9. ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)
กวักมรกตหรืออโลเวร่าเป็นพืชอวบน้ำที่มีประโยชน์หลายด้าน นอกจากจะใช้น้ำเจลจากใบเพื่อรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือบำรุงผิวแล้ว ยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพด้วย ลักษณะใบอวบหนา สีเขียวอมเทา มีหนามนิ่มที่ขอบใบ ดูทันสมัยและเข้ากับการตกแต่งห้องนอนแบบมินิมอล
กวักมรกตมีความสามารถพิเศษในการดูดซับฟอร์มาลดีไฮด์และเบนซีนที่มาจากสีทาบ้าน น้ำยาทำความสะอาด และเฟอร์นิเจอร์ ที่น่าสนใจคือกวักมรกตจะปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน ในขณะที่พืชส่วนใหญ่จะดูดซับออกซิเจนและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับปลูกในห้องนอน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการแจ้งเตือนถึงสารพิษในอากาศ โดยจะแสดงจุดสีน้ำตาลบนใบเมื่อมีสารพิษในระดับสูง
การดูแลกวักมรกตทำได้ง่ายมาก ชอบแสงแดดจัดแต่สามารถเจริญเติบโตได้ในที่มีแสงปานกลาง ทนต่อความแห้งแล้ง ควรรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ระวังอย่ารดน้ำมากเกินไปเพราะจะทำให้รากเน่า ข้อดีอีกประการของกวักมรกตคือแตกหน่อง่าย ทำให้สามารถขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนต้นไม้ในห้องนอนได้โดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
10. แคคตัสคริสต์มาส (Christmas Cactus หรือ Schlumbergera)
แคคตัสคริสต์มาสเป็นพืชที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกที่บานในช่วงฤดูหนาวหรือปลายปี มีสีสันสดใสหลายเฉดตั้งแต่สีขาว ชมพู แดง ม่วง ถึงส้ม ลำต้นเป็นข้อต่อกันคล้ายใบไม้แบน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องนอน
แคคตัสคริสต์มาสช่วยฟอกอากาศโดยการดูดซับสารพิษและเพิ่มความชื้นในอากาศ แม้จะไม่มีประสิทธิภาพสูงเท่าต้นไม้ชนิดอื่นในรายการ แต่ก็ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศได้ ความพิเศษของแคคตัสคริสต์มาสคือความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน ซึ่งช่วยให้อากาศในห้องนอนบริสุทธิ์ขึ้นและส่งเสริมการนอนหลับที่ดี
การดูแลแคคตัสคริสต์มาสไม่ยุ่งยาก แต่ต้องการความเอาใจใส่มากกว่าแคคตัสทั่วไป ชอบแสงสว่างแต่ไม่โดนแดดโดยตรง และต้องการความชื้นมากกว่าแคคตัสทั่วไป ควรรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง แต่ไม่ควรให้ดินแห้งสนิทเหมือนแคคตัสปกติ จะออกดอกในช่วงวันสั้นคืนยาว (ฤดูหนาว) โดยต้องการช่วงมืดอย่างน้อย 12 ชั่วโมงเพื่อกระตุ้นการออกดอก แคคตัสคริสต์มาสมีอายุยืนยาว หากดูแลดีอาจอยู่ได้นานหลายสิบปี ทำให้เป็นเพื่อนร่วมห้องนอนที่ดี
วิธีจัดวางต้นไม้ในห้องนอนให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การนำต้นไม้ฟอกอากาศมาปลูกในห้องนอนนอกจากจะคำนึงถึงชนิดของต้นไม้แล้ว การจัดวางตำแหน่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการฟอกอากาศสูงสุด ควรพิจารณาจัดวางดังนี้
- กระจายต้นไม้ตามจุดต่างๆ ในห้อง – แทนที่จะรวมต้นไม้ไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง ควรกระจายไปตามจุดต่างๆ เช่น ใกล้หน้าต่าง บนโต๊ะข้างเตียง ในมุมอับอากาศ เพื่อให้อากาศทั่วทั้งห้องได้รับการฟอกอย่างทั่วถึง การวิจัยพบว่าการมีต้นไม้อย่างน้อย 1 ต้นต่อพื้นที่ 10 ตารางเมตร จะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ
- จัดวางใกล้แหล่งมลพิษ – หากในห้องนอนมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ หรือวัสดุตกแต่งที่อาจปล่อยสารพิษ ควรวางต้นไม้ใกล้กับแหล่งกำเนิดมลพิษเหล่านั้น เช่น วางเศรษฐีเรือนในหรือพลูด่างใกล้ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด เพื่อดักจับสารพิษตั้งแต่ต้นทาง
- คำนึงถึงการไหลเวียนของอากาศ – วางต้นไม้ในตำแหน่งที่ไม่ขัดขวางการไหลเวียนของอากาศจากหน้าต่างหรือเครื่องปรับอากาศ แต่อยู่ในเส้นทางที่อากาศจะไหลผ่าน เพื่อให้อากาศที่ไหลเวียนในห้องได้รับการฟอกอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการวางต้นไม้ในตำแหน่งที่โดนลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง เพราะอาจทำให้ต้นไม้เสียหายได้
การดูแลต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนอย่างง่าย
การดูแลต้นไม้ฟอกอากาศไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือใช้เวลามาก หากเลือกชนิดต้นไม้ที่เหมาะสมและรู้วิธีดูแลพื้นฐาน สามารถทำได้ง่ายดังนี้
- จัดตารางการรดน้ำที่เหมาะสม – แทนที่จะรดน้ำทุกวันหรือตามความรู้สึก ควรเรียนรู้ความต้องการน้ำของแต่ละชนิดต้นไม้ และจัดตารางการรดน้ำที่เหมาะสม โดยทั่วไปควรตรวจสอบความชื้นของดินโดยใช้นิ้วแตะที่ดินลึกประมาณ 2-3 เซนติเมตร หากแห้งแสดงว่าถึงเวลารดน้ำ สำหรับต้นไม้บางชนิดเช่น เศรษฐีเรือนใน พลูด่าง หรือยางอินเดีย อาจรดน้ำเพียง 7-10 วันต่อครั้ง ส่วนลิ้นมังกรหรือเฟิร์นอาจต้องรดน้ำบ่อยกว่า อาจใช้แอพพลิเคชันเตือนการรดน้ำต้นไม้ หรือตั้งนาฬิกาปลุกในวันที่ต้องรดน้ำเพื่อช่วยเตือนความจำ
- ดูแลความสะอาดของใบ – ฝุ่นที่เกาะบนใบจะลดประสิทธิภาพในการฟอกอากาศของต้นไม้ ควรเช็ดใบต้นไม้ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เดือนละครั้ง โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบใหญ่และเรียบเช่น ยางอินเดีย หรือฟิโลเดนดรอน สำหรับต้นไม้ที่มีใบเล็กหรือหนามเช่น เฟิร์นหรือเศรษฐีเรือนใน อาจใช้วิธีพรมน้ำเบาๆ ด้วยสเปรย์ฉีดน้ำแทนการเช็ด
- หมุนเวียนตำแหน่งเป็นระยะ – ควรหมุนเวียนต้นไม้ทุก 1-2 เดือนเพื่อให้ได้รับแสงอย่างทั่วถึงและเติบโตสมมาตร ในช่วงหน้าร้อน อาจย้ายต้นไม้ออกห่างจากหน้าต่างเล็กน้อยเพื่อป้องกันแสงแดดจัด ส่วนในช่วงหน้าหนาว อาจย้ายเข้าใกล้หน้าต่างมากขึ้นเพื่อรับแสงเพียงพอ
สรุป
การนำต้นไม้ฟอกอากาศมาปลูกในห้องนอนเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ เพิ่มความชื้น และส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น ต้นไม้ทั้ง 10 ชนิดที่แนะนำข้างต้นไม่เพียงสวยงาม แต่ยังดูแลง่าย และมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารพิษในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีเรือนในที่ปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน ลิ้นมังกรที่ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ หรือพลูด่างที่ดูแลง่ายและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
การเลือกและจัดวางต้นไม้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ ควรกระจายต้นไม้ไปตามจุดต่างๆ ในห้องนอน และวางใกล้แหล่งมลพิษเพื่อดักจับสารพิษตั้งแต่ต้นทาง การดูแลต้นไม้ฟอกอากาศไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก เพียงเรียนรู้ความต้องการพื้นฐานของแต่ละชนิด จัดตารางการรดน้ำที่เหมาะสม และหมั่นดูแลความสะอาดของใบเพื่อให้ต้นไม้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงทุนเพียงเล็กน้อยกับต้นไม้ฟอกอากาศเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาวทั้งในแง่สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ห้องนอนที่มีอากาศบริสุทธิ์จะกลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แท้จริง ช่วยให้คุณตื่นนอนอย่างสดชื่นและมีพลังในทุกๆ วัน
#ต้นไม้ฟอกอากาศ #ห้องนอน #นอนหลับ #เศรษฐีเรือนใน #ลิ้นมังกร #ยางอินเดีย #พลูด่าง #เฟิร์นบอสตัน #อโกลนีมา #ปาล์มเขียว #ฟิโลเดนดรอน #กวักมรกต #แคคตัสคริสต์มาส #สุขภาพ #การดูแลต้นไม้ #สาระ #ต้นไม้และสวน
