The Palm (copy)

จ่ายดอกเบี้ยบ้านอย่างไร ช่วยลดหย่อนภาษีได้มากที่สุด?

การซื้อบ้านเป็นหนึ่งในความฝันของคนส่วนใหญ่ แต่การต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินมาซื้อบ้านก็มาพร้อมกับภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเป็นระยะเวลายาวนาน อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ เพราะดอกเบี้ยบ้านที่จ่ายไปนั้นไม่สูญเปล่า สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่กฎหมายกำหนด ช่วยบรรเทาภาระภาษีและอาจทำให้ได้รับเงินคืนภาษีมากขึ้นอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยบ้านเพื่อลดหย่อนภาษีให้ได้มากที่สุด พร้อมเงื่อนไขและข้อควรระวังต่างๆ ที่ควรทราบ

เหตุใดดอกเบี้ยบ้านจึงนำมาลดหย่อนภาษีได้?

รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ประชาชนทำกิจกรรมทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ โดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ มาตรการสิทธิลดหย่อนภาษี หรือ Tax Deductions คือสิทธิประโยชน์ที่ช่วยให้ผู้มีรายได้เสียภาษีน้อยลงเมื่อทำการคำนวณภาษี เป็นการบรรเทาภาระทางภาษี และอาจทำให้ได้รับเงินคืนจากภาษีมากขึ้น

นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังช่วยป้องกันการยื่นภาษีผิดพลาดและส่งเสริมให้ประชาชนหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่เพียงแต่การซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนในตลาดหุ้น การออมระยะยาว หรือการทำประกันชีวิตที่ล้วนมีสิทธิลดหย่อนภาษีเช่นกัน

ดอกเบี้ยบ้านประเภทไหนที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้?

ไม่ใช่ดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทที่จะนำมาลดหย่อนภาษีได้ ดอกเบี้ยที่จะนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ต้องมีเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์เพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น

ต้องเป็นการกู้เงินที่มีวัตถุประสงค์เพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม หรืออาคารชุดต่างๆ ต้องซื้อไว้เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยจริง หากเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนหรือการพาณิชย์จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

2. ต้องมีการกู้ยืมและจำนอง

ต้องมีการกู้ยืมและจำนองกับสถาบันการเงิน โดยจำนองทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกัน เช่น บ้าน คอนโด หรืออาคารที่สร้างบนที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งในสัญญาเงินกู้จะระบุเงื่อนไขนี้อย่างชัดเจน หากเป็นเพียงการซื้อด้วยเงินสด ผ่อนตรงกับเจ้าของโครงการ หรือกู้เงินนอกระบบจะไม่สามารถนำดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้

3. กู้ยืมกับสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรอง

ต้องกู้ยืมกับผู้ประกอบกิจการภายในประเทศที่กรมสรรพากรกำหนดไว้เท่านั้น ได้แก่ ธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ สหกรณ์ นายจ้างที่มีกองทุนจัดสรรไว้เป็นสวัสดิการ บริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย

วงเงินลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านอยู่ที่เท่าไร?

ดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านที่จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนดคือ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี โดยคุณสามารถกู้บ้านกี่หลังก็ได้ เพราะจะสามารถนำดอกเบี้ยจากที่อยู่อาศัยทั้งหมดมาลดหย่อนได้ แต่วงเงินรวมต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ตัวอย่างเช่น:

  • หากคุณจ่ายดอกเบี้ยบ้านทั้งปี 80,000 บาท คุณจะสามารถนำมาลดหย่อนได้ทั้ง 80,000 บาท
  • หากคุณจ่ายดอกเบี้ยบ้านทั้งปี 120,000 บาท คุณจะสามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุดที่ 100,000 บาทเท่านั้น

ค่าภาษีที่ประหยัดได้จะขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละบุคคล โดยการคำนวณจะเป็นไปตามสูตร:

  • ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี
  • เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน

ผู้ที่มีรายได้สูงและอยู่ในเกณฑ์อัตราภาษีสูง จะได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านมากกว่าผู้ที่มีรายได้น้อย

กรณีกู้ร่วม จะแบ่งการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอย่างไร?

ในกรณีที่มีการกู้ร่วมกันหลายคนเพื่อซื้อบ้านหนึ่งหลัง สิทธิในการลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้:

  1. บ้านหนึ่งหลังที่มีผู้กู้ร่วมกันหลายคน จะมีวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาทต่อหลัง
  2. ดอกเบี้ยที่นำมาลดหย่อนต้องเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาทและไม่เกินจำนวนที่จ่ายจริง

ตัวอย่างเช่น หากมีการกู้ร่วมกัน 2 คน และจ่ายดอกเบี้ยบ้านทั้งปีรวม 100,000 บาท แต่ละคนจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีคนละ 50,000 บาท หรือหากกู้ร่วมกัน 3 คน ก็จะได้รับสิทธิคนละ 33,333 บาท แม้ว่าแต่ละคนจะจ่ายดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ก็ต้องแบ่งสิทธิเท่าๆ กัน

อย่างไรก็ตาม แต่ละบุคคลยังคงมีสิทธิลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านได้สูงสุด 100,000 บาท หากมีการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยอื่นเพิ่มเติม ดังนั้น จากตัวอย่างข้างต้น แต่ละคนจะเหลือสิทธิลดหย่อนภาษีอีก 50,000 บาทที่สามารถนำไปใช้กับที่อยู่อาศัยอื่นได้

คู่สมรสควรยื่นภาษีแบบไหนเพื่อประโยชน์สูงสุดจากดอกเบี้ยบ้าน?

สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย การยื่นภาษีเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนจากดอกเบี้ยบ้านมีรายละเอียดที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ดังนี้:

กรณีแยกยื่นภาษี

  • การกู้ร่วม: ทั้งสองคนจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีคนละครึ่ง เช่น ถ้าจ่ายดอกเบี้ยรวม 100,000 บาท จะได้รับสิทธิคนละ 50,000 บาท หากฝ่ายใดไม่มีเงินได้ อีกฝ่ายสามารถขอลดหย่อนได้เต็มจำนวน (ไม่เกิน 100,000 บาท)
  • ต่างคนต่างกู้: แต่ละคนจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 100,000 บาท เช่นเดียวกับคนโสดหรือคู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

กรณียื่นภาษีร่วมกัน

  • ต่างคนต่างกู้: สามารถนำดอกเบี้ยบ้านของทั้งสองคนมารวมกันเพื่อลดหย่อนได้ไม่เกิน 200,000 บาท (คนละ 100,000 บาท)
  • กู้ร่วมกัน: จะได้รับสิทธิลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อหลัง

นอกจากนี้ คู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายยังสามารถโอนสิทธิในการขอลดหย่อนภาษีให้แก่กันได้ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มีเงินได้ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่คู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสไม่สามารถทำได้

รีไฟแนนซ์บ้านมีผลต่อการลดหย่อนภาษีอย่างไร?

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารใหม่เพื่อปลดภาระเงินกู้จากธนาคารเดิม โดยมักทำเพื่อได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้าน ดังนี้:

  1. ลดหย่อนได้บางส่วน: กรณีรีไฟแนนซ์และกู้เพิ่ม ผู้กู้จะสามารถนำดอกเบี้ยในส่วนเงินกู้เดิมไปลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถนำดอกเบี้ยในส่วนที่กู้เพิ่มไปลดหย่อนได้ เพราะเงินกู้ใหม่จะถือเป็นเงินกู้ส่วนบุคคล ไม่ใช่การกู้เพื่อซื้อบ้าน
  2. ลดหย่อนไม่ได้: หากนำบ้านที่มีอยู่แล้วไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การซื้อบ้าน จะไม่สามารถนำดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้

อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์บ้านมีข้อดีคือช่วยลดอัตราดอกเบี้ย ลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน และอาจทำให้ผ่อนหมดเร็วขึ้น ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรเปรียบเทียบส่วนต่างของดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องว่าคุ้มค่าหรือไม่

ขั้นตอนการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านทำอย่างไร?

การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ต้องเตรียมเอกสารสำคัญ ดังนี้:

  1. ขอหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม: ติดต่อสถาบันการเงินที่คุณกู้เงินเพื่อขอหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี
  2. กรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี: กรอกแบบฟอร์ม ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 แล้วแต่กรณี โดยระบุจำนวนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยในช่องลดหย่อนที่เกี่ยวข้อง
  3. แนบเอกสารประกอบ: แนบหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี
  4. ยื่นแบบภาษี: ยื่นแบบภาษีผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หรือยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่
  5. เก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐาน: เก็บสำเนาแบบภาษีและเอกสารประกอบทั้งหมดไว้อย่างน้อย 5 ปี เผื่อกรณีที่มีการตรวจสอบจากกรมสรรพากร

สรุป

การนำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิประโยชน์ที่ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินให้กับผู้กู้ซื้อบ้าน แต่มีเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ต้องเป็นการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจริง กู้กับสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรอง และมีวงเงินลดหย่อนสูงสุด 100,000 บาทต่อคนต่อปี

กรณีที่มีการกู้ร่วมหรือเป็นคู่สมรส ควรวางแผนการยื่นภาษีให้ได้ประโยชน์สูงสุด พิจารณาว่าควรยื่นแยกหรือยื่นร่วมกัน และหากมีการรีไฟแนนซ์บ้าน ต้องทราบว่าจะมีผลต่อการลดหย่อนภาษีอย่างไร

การวางแผนทางการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากสิทธิลดหย่อนภาษีที่มี และช่วยบริหารจัดการภาระทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


#สาระ #การเงิน #ลดหย่อนภาษี #ดอกเบี้ยบ้าน #ซื้อบ้าน #วางแผนภาษี #สินเชื่อบ้าน #รีไฟแนนซ์บ้าน #ที่อยู่อาศัย #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
สยาม ทาคาชิมายะ ณ ไอคอนสยาม มอบความพิเศษแทนคำขอบคุณ 7 ปีที่เคียงข้างกัน ในเทศกาล THE WAGASHI Japanese Foods, Crafts & IKEBANA ตื่นตากับเมนูขนม WAGASHI รังสรรค์โดย 7 เชฟดังบินตรงจากญี่ปุ่น งดงามกับศิลปะการจัดดอกไม้เก่าแก่ IKEBANA ช็อปงาน Craft Rare Item สุดเก๋ไก๋!! พร้อมรับโปรโมชันลดทั้งห้างสูงสุด 50%!!
ข่าวสาร
เอสบี ดีไซน์สแควร์ เปิดตัว “Condo Solutions Pop Up Store” สาขา บีทีเอส อารีย์ เจาะฐานลูกค้า Premium Urban Living ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ ด้วยบริการออกแบบคอนโดครบวงจรที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมโปรโมชัน 2 ต่อสุดคุ้ม
ข่าวสาร
ทอสเท็ม พาชมไอเดียสถาปนิกไทย สร้างสรรค์ผลงานออกแบบยอดเยี่ยม คว้า 3 รางวัล การประกวด TOSTEM Asia Design award 2025 เวทีเชื่อมโยงแรงบันดาลใจให้สถาปนิกไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ข่าวสาร
หัวใจละลาย! 4EVE ในลุค ‘เจ้าหญิงทั้งเจ็ด’ เปิดแคมเปญ The Magical Stars ฟีลกู๊ดทั่วกันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
ข่าวสาร
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรุงเทพฯ
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..