รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

การเลือกซื้อรถเข็นเด็กเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพราะรถเข็นจะทำหน้าที่เป็น “ฐานปฏิบัติการ” ให้ลูกน้อยได้ใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากที่สุด Chicco แบรนด์อิตาลีที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 60 ปี จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ ไม่ว่าจะเน้นฟังก์ชันครบครันสำหรับการใช้งานในเมือง น้ำหนักเบาสำหรับการเดินทาง หรือการผสานเป็นระบบ Travel System ร่วมกับคาร์ซีท Chicco

ก่อนจะตัดสินใจลงมือซื้อ สิ่งที่ควรพิจารณามีทั้งขนาดเมื่อนำขึ้นรถสาธารณะ ความมั่นคงและระบบรองรับแรงสั่นสะเทือน ความสามารถในการปรับเอนนอนได้ตั้งแต่แรกเกิด ความง่ายในการพับเก็บด้วยมือเดียว น้ำหนักของเฟรมและวัสดุที่เลือกใช้ รวมถึงขนาดของตะกร้าหรือช่องเก็บสัมภาระที่ต้องเพียงพอกับสิ่งของจำเป็นสำหรับลูกน้อย การรับน้ำหนักสูงสุดและอายุการใช้งานของเบาะนั่งที่ออกแบบให้รองรับสรีระลูกอย่างเหมาะสม

Chicco มีรถเข็นเด็กหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นเน้นคุณสมบัติที่ต่างกันเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ตรงกับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่เน้นท่องเที่ยวผจญภัยนอกบ้าน บินขึ้นเครื่องเป็นประจำ หรือครอบครัวที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่ต้องการความคล่องตัวและประหยัดเนื้อที่ในพื้นที่จอดรถ

ในบทความนี้ เราได้คัดเลือกรุ่นเด่นของ Chicco ห้าโมเดลหลัก ที่ผ่านการรีวิวจริงจากผู้ใช้ไทย มาเปรียบเทียบกัน พร้อมให้คำแนะนำว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตอบโจทย์การเดินทางไกล การใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการใช้งานร่วมกับคาร์ซีท Chicco KeyFit อย่ารอช้า มาเลือกดูรุ่นที่ใช่สำหรับครอบครัวของคุณกันได้เลย

#รถเข็นเด็ก #Chicco #Ohlala #Miinimo #KwikOne #SimplicityPlus #SimpliCity #shopzy

Chicco Simplicity Plus

รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

Chicco Simplicity Plus พัฒนามาจากรุ่น Simplicity เดิมโดยเน้นย้ำความเรียบหรูและการใช้งานง่ายในเมือง รุ่นนี้มีน้ำหนักเบา 6.8 กิโลกรัม สามารถพับเก็บด้วยมือเดียวในไม่กี่วินาทีและตั้งได้เองเมื่อพับแล้ว เบาะนั่งบุด้วยโฟมหนานุ่มระบายอากาศได้ดี พนักพิงปรับเอนได้ราบสนิทตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยหัดเดิน ที่พักขาปรับได้สองระดับพร้อมฝาครอบขาเพื่อกันลมหนาว นอกจากตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ด้านล่างที่รองรับถุงผ้าอ้อมได้สารพัดรุ่นแล้ว ยังมีช่องใส่ขวดน้ำและกระเป๋าเก็บของเล็กๆ ที่ออกแบบมาให้เข้ากับดีไซน์โค้งมนของรถเข็น หลังคาไม่มีบังแดดพลาสติกให้ดูเกะกะ แต่ใช้ผ้า UV protection คุณภาพสูงที่พับเก็บได้ เฟรมอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาแต่ทนทาน ล้อหน้าคู่เพิ่มความเสถียรไม่ส่ายง่ายเมื่อเลี้ยวโค้ง และเบรกล้อหลังที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยปลายเท้า ทำให้ผู้ปกครองควบคุมได้แม้จะถือของหลายอย่าง Simplicity Plus รองรับการใช้งานร่วมกับคาร์ซีท Chicco KeyFit โดยใช้ชุดอะแดปเตอร์ที่แถมมาพร้อมรุ่น จึงเหมาะทั้งการใช้งานประจำวันและการเดินทางข้ามเมือง

ราคา 7,000–11,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Chicco Miinimo

รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

Chicco Miinimo คือคำตอบสำหรับครอบครัวที่เดินทางบ่อยและต้องการรถเข็นที่พับได้เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัว 6.2 กิโลกรัม เมื่อพับแล้วมีขนาดเพียง 54×48×25 เซนติเมตร สามารถใส่ในห้องเก็บของเหนือศีรษะบนเครื่องบินและผ่านมาตรฐานขนาดสัมภาระขึ้นเครื่อง ส่วนตัวเฟรมผลิตจากอะลูมิเนียมชั้นเลิศ ทำให้โดดเด่นทั้งเรื่องความแข็งแรงและการเคลื่อนที่อย่างคล่องตัว พนักพิงหลังปรับเอนได้ 5 ระดับรองรับถึงการนอนราบได้เต็มที่สำหรับเด็กแรกเกิด ระบบกันสะเทือนสี่ล้อช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ไม่กระเทือนเมื่อต้องผ่านผิวถนนขรุขระ ขณะที่ล้อหน้าหมุนได้รอบทิศทางช่วยให้เลี้ยวง่ายในทางแคบ มาพร้อมสายสะพายไหล่ยาวเพื่อง่ายต่อการแบกขึ้นลงบันไดหรือเดินฝ่าแออัด มีเซ็ตผ้าคลุมกันฝนและกระเป๋าใส่รถเข็นเฉพาะรุ่นในกล่อง ผู้ปกครองจึงไม่ต้องมองหาของเสริมให้ยุ่งยาก ความกว้าง 48 เซนติเมตรเอื้อให้ผ่านทางเดินรถสาธารณะได้สะดวก ทำให้ Miinimo เหมาะกับทริปท่องเที่ยวหรือการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่เน้นการเคลื่อนที่รวดเร็วและประหยัดพื้นที่จัดเก็บ

ราคา 12,000–16,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Chicco SimpliCity

รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

Chicco SimpliCity ถูกคิดมาเพื่อการใช้งานในเมืองใหญ่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง ขนาดหลังพับกะทัดรัด สามารถพกพาขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ หรือเก็บในตู้ท้ายรถได้โดยไม่เปลืองพื้นที่ รุ่นนี้มีน้ำหนัก 8 กิโลกรัม ระบบพับเก็บด้วยมือเดียวและตั้งได้เองทันที ทำให้การรับส่งลูกที่ประตูอาคารหรือรถยนต์เป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย พื้นที่วางเท้าสามารถปรับได้ตามการเติบโตของเด็ก เบาะบุด้วยผ้าโปร่ง ระบายอากาศดี ช่วยลดอุณหภูมิใต้เบาะเมื่อต้องนั่งกลางแจ้งนานๆ ล้อคู่ด้านหน้าเพิ่มความเสถียร ไม่ส่ายง่ายแม้เจอพื้นขรุขระเล็กน้อย ขณะที่ล้อหลังติดตั้งระบบเบรกอิสระเพื่อความปลอดภัยสูงสุด สามารถเชื่อมใช้กับคาร์ซีท Chicco KeyFit เป็น Travel System ได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้ออะแดปเตอร์เพิ่ม มีตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เข้าถึงง่ายจากด้านข้าง พร้อมกระเป๋าเปลี่ยนผ้าอ้อมเล็กๆ ที่คลิปติดกับด้ามจับได้ พื้นผิววัสดุทำความสะอาดง่ายด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ รุ่น SimpliCity จึงเหมาะกับครอบครัวที่ต้องเคลื่อนที่ในเมืองตลอดเวลา ต้องการความเร็วในการพับ เก็บ และเปิดใช้งานโดยไม่สูญเสียความปลอดภัยหรือความสบายของลูกน้อย

ราคา 8,000–12,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Chicco Ohlala

รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

Chicco Ohlala เป็นหนึ่งในรถเข็นที่เบาที่สุดของแบรนด์ น้ำหนักเพียง 3.8 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้การพกพาเป็นเรื่องง่ายดุจปอกกล้วยเข้าปาก เมื่อพับเก็บเพียงคลิกเดียวก็สามารถตั้งตัวเองได้โดยไม่ต้องพิง ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนชอบเดินทางทั้งโดยรถยนต์ บิน หรือขึ้นรถไฟ การออกแบบเน้นความปลอดภัยด้วยเบาะนั่งที่บุอย่างนุ่มนวล ปรับเอนได้หลายระดับรองรับสรีระของเด็กได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงน้ำหนัก 15 กิโลกรัม โครงสร้างถูกทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน มีระบบกันสะเทือนเล็กๆ บนล้อหลังช่วยดูดซับแรงกระแทก ผ้าเบาะเป็นแบบกันน้ำและซักทำความสะอาดได้ง่าย หลังคาบังแดดขยายพิเศษพร้อมช่องระบายอากาศเสริม ที่พักขาและบาร์กันตกถอดได้ทำให้คุณพ่อคุณแม่จัดท่าทางนั่งของลูกได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหันหน้าเข้าหาคุณแม่หรือหันหน้าออกชมวิวด้านหน้า ตะกร้าเก็บของด้านล่างมีความจุสูง รองรับกระเป๋าใส่ของสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก แถมมาพร้อมผ้าคลุมกันฝนในเซ็ตเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มอีก เลือก Ohlala เมื่อคุณต้องการรถเข็นน้ำหนักเบา โครงพับเล็ก เบาะสบาย และใช้งานง่ายในทุกสถานการณ์

ราคา 11,000–15,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

Chicco Kwik One

รถเข็นเด็ก Chicco รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ครอบครัวของคุณ?

Chicco Kwik One ถูกออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วและความเรียบง่ายในการใช้งานด้วยมือเดียว รุ่นนี้มีน้ำหนักเพียง 7.4 กิโลกรัม พร้อมระบบพับเก็บอัตโนมัติด้วยท่าทางเดียวและสามารถตั้งได้เองเมื่อตั้งเสร็จ (self-standing) ซึ่งเหมาะสำหรับกรุ๊ปคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องลุกนั่งบ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน ผ้าม่านกันแดดขนาดพิเศษสามารถขยายเพื่อปกป้องเด็กจากแสง UV และฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในมีช่องมองหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้หลังคาเพื่อเช็กทารกได้สะดวก เบาะที่นั่งถูกบุด้วยผ้าโปร่งระบายอากาศได้ดี รองรับการเอนราบได้อย่างสมบูรณ์สำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด พนักพิงหลังปรับระดับได้หลายตำแหน่งพร้อมที่พักขาปรับได้ 2 ระดับเพื่อความสบายสูงสุด ตะกร้าเก็บของด้านล่างมีขนาดใหญ่ รองรับกระเป๋าผ้าอ้อมและของใช้จำเป็นได้พอเพียง รุ่น Kwik One ยังสามารถเชื่อมต่อเป็น Travel System กับเบาะคาร์ซีท Chicco KeyFit ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์เพิ่มเติม แฮนด์จับหุ้มด้วยโฟมให้สัมผัสนุ่ม กระชับมือ เพิ่มความปลอดภัยด้วยสายรัดนิรภัย 5 จุดที่มาพร้อมเบาะรองกันกระแทกในจุดสำคัญต่างๆ ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะนั่งได้อย่างปลอดภัยและสบายตลอดการเดินทาง

ราคา 15,000–20,000 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..