Here goes your text … Select any part of your text to access the formatting toolbar.

การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการส่งต่อเรื่องราวและความภาคภูมิใจที่ยืนยาวกว่า 70 ปีของแบรนด์ Laura Ashley ซึ่งมีจุดเริ่มต้นอันเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ในปี 1953 Laura Ashley และสามีของเธอ Bernard Ashley ได้เริ่มทดลองพิมพ์ลายผ้าด้วยมือตนเองที่โต๊ะในครัวของแฟลตเล็ก ๆ ในย่าน Pimlico กรุงลอนดอน โดยได้แรงบันดาลใจจากการเข้าชมนิทรรศการของ Women’s Institute ณ พิพิธภัณฑ์ V&A ซึ่งจุดประกายความหลงใหลในความงามของลายผ้าดั้งเดิมอังกฤษ
จากกิจการเล็ก ๆ ในบ้านของตัวเอง Laura และ Bernard ได้ค่อย ๆ ขยายธุรกิจของพวกเขากลายเป็นผู้บุกเบิกด้านการออกแบบที่ดึงเอาความงดงามของธรรมชาติ ลายดอกไม้สไตล์วินเทจ และเสน่ห์ชนบทอังกฤษมาผสมผสานกับศิลปะการพิมพ์และการเย็บผ้าอย่างประณีต ด้วยความมุ่งมั่นและคุณค่าแห่งคุณภาพและความเป็นต้นฉบับ Laura Ashley ได้สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ผู้คนทั่วโลกรักมากที่สุด

ในระยะเวลากว่า 70 ปีที่ผ่านมา Laura Ashley ไม่เพียงเป็นชื่อของแบรนด์ แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยม สไตล์ และความงามเหนือกาลเวลา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องนอน แฟชั่นผู้หญิง เสื้อผ้าเด็ก ไปจนถึงบริการและประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของอังกฤษอย่างแท้จริง
สำหรับคอลเลกชันชุดเครื่องนอน “Timeless British Elegance” ที่เปิดตัวในไทยครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงรากฐานของแบรนด์ที่ถูกยกระดับสู่ความร่วมสมัย โดยเลือกใช้เส้นใยเยื่อไผ่ออร์แกนิก 100% ซึ่งมีคุณสมบัติเย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสริมด้วยเทคนิคการทอแน่นถึง 800 เส้นด้าย และใช้เทคโนโลยี Reactive Printing เพื่อให้สีสันติดทนนานและคมชัด พร้อมเย็บด้วยตะเข็บคู่เพื่อความทนทานสูงสุด
ลวดลายของคอลเลกชันได้รับแรงบันดาลใจจากสวนดอกไม้ในอังกฤษ ถ่ายทอดผ่านโทนสีอบอุ่นอย่าง Soft Lavender, Dusty Rose และ Meadow Green ที่สะท้อนอารมณ์ความสงบและโรแมนติกของ English Country Living อย่างแท้จริง โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นไม่เพียงเป็นของใช้ในบ้าน แต่ยังเปรียบเสมือน “งานศิลปะ” ที่แสดงออกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้าน

Pop-up Store ของ Laura Ashley ถูกออกแบบภายใต้ธีม “British Home Garden” พร้อมห้องนอนจำลองที่ตกแต่งแบบครบชุด เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงของเนื้อผ้า กลิ่นอาย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เริ่มเปิดที่ เซ็นทรัล ชิดลม (21 มิ.ย.–3 ก.ค. 2568) และ เมกาบางนา (19 มิ.ย.–16 ก.ค. 2568) ก่อนขยายสู่ช่องทางออนไลน์และร้านค้าหลักทั่วประเทศ
Laura Ashley ยังเตรียมเปิด Official Online Store และร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Central Online และ LazMall เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้อย่างสะดวก พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Timeless British Elegance Comes to Thailand” ซึ่งมอบของขวัญพิเศษ เช่น ปลอกหมอน Organic bamboo และ Pumpkin Pillow รุ่นลิมิเต็ด สำหรับลูกค้าที่เลือกซื้อในช่วงเปิดร้าน

ในมุมมองของตลาด Home & Living ระดับพรีเมียม Laura Ashley เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความรู้สึก และความเป็นตัวตนของบ้าน มากกว่าราคา ทำให้ตลาดไทยยังมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม Upper-Middle ถึง High-End ที่มองหาความหรูหราแบบไม่ฟุ่มเฟือย ซึ่งห้องนอนไม่ใช่เพียงพื้นที่พักผ่อน แต่คือพื้นที่ส่วนตัวที่สะท้อนความเป็นตัวเองราวกับแกลเลอรีศิลปะ
Laura Ashley จึงตั้งเป้าเติบโตสู่ Top 3 แบรนด์เครื่องนอนพรีเมียมในประเทศไทยภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้าขยายจุดจำหน่ายสู่หัวเมืองใหญ่ จับมือดีไซเนอร์ไทย และพัฒนาคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะตลาดไทย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฐานะ “Premium Iconic Alternative” ที่สามารถผสานดีไซน์อังกฤษกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวเหนือสิ่งอื่นใด การรีลอนช์ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการนำเข้าสินค้ารุ่นใหม่ แต่คือการนำเสนอ “วิถีการใช้ชีวิตแบบอังกฤษ” ที่สะท้อนความละเมียดละไม ความสงบ และรสนิยมเหนือกาลเวลา ถ่ายทอดจากโต๊ะครัวในปี 1953 มาสู่ห้องนอนของคนไทยในยุคปัจจุบัน

