เอสบี ดีไซน์สแควร์ ส่งนวัตกรรม ‘Transfur’ เติมเต็มความต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความมหัศจรรย์ของเฟอร์นิเจอร์ที่ผสานดีไซน์ ฟังก์ชัน และความอเนกประสงค์ไว้ในชิ้นเดียว เพิ่มสเปซให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านให้กว้างยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างลงตัว
นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งไทย ต่างมุ่งเน้นการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหรือที่เรียกว่า Multi-function furniture เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายประเภทในเฟอร์นิเจอร์เพียงหนึ่งชิ้น มีขนาดที่เล็กลงแต่ยังคงความอเนกประสงค์ในตัว เคลื่อนย้ายได้ง่าย มีทั้งแบบลอยตัวและบิลท์อินขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น โซฟาที่ปรับเปลี่ยนเป็นเตียงได้ โต๊ะที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้ หรือแม้แต่ชั้นวางของใต้บันไดที่ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนในยุคปัจจุบันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ความคล่องตัว ให้เหมาะสมกับผู้ที่มีพื้นที่บ้านหรือห้องขนาดจำกัด ให้สามารถใช้สเปซภายในได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ปัจจุบัน Multi-function furniture มีหลากหลายรูปแบบทั้ง เตียงนอน โซฟาฟังก์ชัน ตู้รองเท้า ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน โต๊ะรับประทานอาหาร
เอสบี ดีไซน์สแควร์ ได้พัฒนานวัตกรรม Transfur เฟอร์นิเจอร์แนวคิดใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามการใช้ชีวิตให้ใช้สเปซได้สูงสุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองกับชีวิตคอนโดได้มากขึ้นกับสินค้าฟังก์ชันใหม่ ลูกเล่นใหม่ พร้อมเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้มากกว่าเดิม ภายใต้แนวคิด Small Space Make a Difference หยุดความอึดอัดในห้องแคบ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ขยับขยายได้ตามการใช้ชีวิต เฟอร์นิเจอร์แนวคิดใหม่นี้ประกอบไปด้วยสินค้า 6 หมวด ได้แก่ Desk ,Seating, Storage, Bedroom, Living Room และ Dressing
ทั้งนี้ ในปี 2567 เอสบี ดีไซน์สแควร์ ยังคงตอกย้ำวิสัยทัศน์ Home Design Solutions ด้วยการเติมความครบถ้วนด้านสินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงการให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างสูงสุด เช่น การเปิด Condo Solutions Pop Up Store ที่บีทีเอส ศาลาแดง เสริมด้วยนวัตกรรมใหม่อย่าง Transfur โซลูชันใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม จากการสำรวจตลาดพบว่าผลตอบรับที่มีต่อนวัตกรรม Transfur ค่อนข้างดีมาก จึงได้เพิ่มเติมฟังก์ชันและเพิ่มหมวดต่างๆ ให้ครบมากขึ้น และจัดเป็นพื้นที่ที่เป็นสัดเป็นส่วนรวมถึงมีห้องตัวอย่างที่หลากหลายให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสสินค้าจริง
“เอสบี ดีไซน์สแควร์ คาดหวังว่าจะเติบโตไปพร้อมกับเทรนด์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มคอนโดมิเนียม ที่มีสัญญาณบวกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนได้จากอัตราการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เราวางกลุ่มเป้าหมายไปที่คนรุ่นใหม่ โดยเน้นไปที่กลุ่มคนช่วงวัยเริ่มทำงานหรือกลุ่มเจเนอเรชันแซด จากการสำรวจพฤติกรรมพบว่าคนกลุ่มดังกล่าวพบว่ามีความกล้าเสี่ยง มองว่าความสุขไม่ได้หมายถึงความร่ำรวย แต่คือความสำเร็จในการทำสิ่งที่รัก ซึ่งทำให้มีความกล้าลงทุนกับสินทรัพย์ใหม่ๆ กล้าทดลองมากกว่าทุกกลุ่มอายุและที่สำคัญคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีเอกลักษณ์การบริโภคที่ชัดเจน เนื่องจากการเติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นกลุ่ม Digital Native เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ทำให้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้รวดเร็ว มีความเชี่ยวชาญในโลกออนไลน์ ชื่นชอบความสะดวกสบายและความรวดเร็ว ซึ่งพบว่าคนกลุ่มนี้มีแนวคิดเริ่มออมเงินให้เร็วที่สุดและจ่ายเงินในการลงทุนให้เร็วที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าคนกลุ่มนี้วางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยเมื่อพวกเขาอายุ 30 ปี ซึ่งเร็วกว่าอายุเฉลี่ยของคนที่ซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองในปัจจุบันถึง 3 ปี และเหตุผลหลักที่ทำให้ต้องการซื้อบ้านคือต้องการความเป็นส่วนตัวและความเป็นอิสระที่มากกว่าการเช่า และเทรนด์ความนิยมที่พบก็คือมีความรักและชื่นชอบในความเอนกประสงค์ ที่มาพร้อมความคุ้มค่าและดีไซน์ที่ดี ซึ่งจากผลสำรวจพบว่ากลุ่มดังกล่าวยังรู้สึกว่าการมีบ้านเป็นของตัวเองนั้นคือสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ น่าภาคภูมิใจ ให้ความมั่นคงและความปลอดภัยทางการเงินถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้ปรารถนาที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองก็ไม่ได้มองว่าจะสามารถซื้อได้โดยง่าย และสำหรับลักษณะที่อยู่อาศัยที่คนกลุ่มนี้มองหาจะต้องอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนั้น Multi-function furniture จึงเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักที่ถูกเลือก นวัตกรรม Transfur จึงถือเป็นคำตอบของคนกลุ่มดังกล่าวได้อย่างลงตัวที่สุด” นายพิเดช ชวาลดิฐ กล่าวสรุป