
โครงการ เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) “สนุกได้ทุกวัน…มันส์ได้ทุกเจน” คอนโดใหม่ แค่พลิกตัวก็ถึงโรงเรียนบดินทรเดชา Let’s Play สุดเหวี่ยงได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะ Play ● Learn ● Live กับส่วนกลางจัดเต็มกว่า 60 รายการทั้ง Indoor ที่แยกออกจากที่พัก และแบบ Outdoor ที่ให้คุณเติมเอนเนอร์จี้ได้เต็มที่
จุดเด่นโครงการ
- แค่ 10 ก้าว* ถึงโรงเรียนบดินทรฯ “ไปเรียนไม่สาย กลับบ้านไว” เหนื่อยไหมกับการติดรถเช้าตรู่? ที่นี่แค่ ข้ามถนนก็ถึงประตูโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ประหยัดเวลาการเดินทาง ให้เด็ก ๆ ได้พักผ่อนมากขึ้น
- สนุกได้ไม่มีเบื่อ! Facility จัดเต็มกว่า 60 กิจกรรม หลากหลายไลฟ์สไตล์ มีทุกอย่างตั้งแต่ E-Sport Room, ห้องซ้อมดนตรี, ห้องดูหนัง, Co-Working Space, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ไปจนถึง พื้นที่อ่านหนังสือเงียบ ๆ สำหรับเด็กนักเรียน ครบทุกกิจกรรมในที่เดียว
- เป็นส่วนตัว ยูนิตไม่เยอะ มีแยกตึก Pet Friendly ออกแบบให้เป็นคอนโดที่ เน้นความเป็นส่วนตัว จำนวนห้องพักต่ออาคารน้อย เพียง 4-6 ห้องต่อชั้น และยังมีอาคารแยกสำหรับ Pet-Friendly โดยเฉพาะ ตอบโจทย์เหล่าทาสที่อยากเลี้ยงเจ้านาย หรือ เพื่อนซี้สี่ขา
- Fully Furnished ราคาคุ้มค่ากับทำเลศักยภาพ ทุกยูนิตตกแต่งแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท* และมีราคาเฉลี่ยประมาณ 110,000 บาท*/ตร.ม.* ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับคอนโดที่อยู่ใกล้โรงเรียนชั้นนำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
วันนี้ผมปาล์ม Homeday จะขอชวนทุกคนมารู้จักกับคอนโดที่เรียกได้ว่า “ชีวิตติดโรงเรียน” ของจริง ใครมีลูกเรียนบดินทรฯ หรือกำลังวางแผนจะย้ายทะเบียนบ้านเพื่อลุ้นสิทธิ์โควตาเด็กพื้นที่ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดครับ
Kave Playground Ladprao–Bodindecha (เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว–บดินทรเดชา) คอนโดใหม่จาก AssetWise ที่หลายคนอาจคุ้นชื่อกันดีจากซีรีส์ KAVE ใกล้ม.กรุงเทพ ม.ธรรมศาสตร์ แต่มาคราวนี้ เขาขยับฐานลูกค้าเข้ามาในเมืองนี้มากขึ้น ที่จากเดิมที่เจาะกลุ่มนักศึกษา มาสู่กลุ่มนักเรียนและครอบครัวที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดโรงเรียนชื่อดังอย่าง บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
และใช่ครับ…โครงการนี้ ใกล้โรงเรียนบดินทรฯ มากที่สุดในตลาดตอนนี้ ข้ามถนนจากประตูโครงการก็ถึงหน้าโรงเรียนแล้ว ใครที่กลัวลูกไปโรงเรียนสาย หรืออยากให้มีเวลาพักผ่อน-ทำกิจกรรมหลังเลิกเรียนให้เต็มที่ ที่นี่ตอบโจทย์แบบตรงเป้าเลย
นอกจากนี้ ยังเหมาะกับคนวัยทำงานในโซนทาวน์อินทาวน์ ลาดพร้าว รามคำแหง ที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ ในทำเลที่เดินทางสะดวก รายล้อมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และชุมชนเมืองที่มีชีวิตชีวา
รวมถึงนักลงทุนอสังหาฯ ที่กำลังมองหา School Campus Condo ที่มีศักยภาพไม่แพ้รุ่นพี่ในซีรีส์ KAVE เพราะทำเลนี้มีดีมานด์ชัดเจน ทั้งกลุ่มผู้ปกครอง เด็กนักเรียน และกลุ่มปล่อยเช่าระยะยาว แถมที่นี่ยังได้สิทธิ์โควตาเด็กพื้นที่บ้านใกล้โรงเรียนอีกด้วย (ปี 2567 พบว่า นักเรียนในเขตพื้นที่มีการแข่งขันในอัตรา 1 : 1.4 คน ส่วนนักเรียนนอกพื้นที่ มีการแข่งขันในอัตรา 1 : 4 คน)
ก้าวแรกที่เข้ามาในสำนักงานขาย บรรยากาศที่รับรู้ได้ทันทีไม่ใช่ความอบอุ่นแบบบ้าน แต่มันคือ ความสนุกแบบเต็มสปีด ที่สดใส สมชื่อ Playground ทุกดีเทลตั้งแต่โทนสี การจัดแสง ไปจนถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ล้วนสะท้อนความตั้งใจของโครงการที่อยากสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ “รู้สึกสนุกกับการอยู่อาศัย” โซนต้อนรับตกแต่งในธีมเดียวกับ The Beast’s Library พื้นที่อ่านหนังสือในโครงการจริง ที่มี มาสคอตก๊อตซิล่าสีน้ำเงิน ยืนโดดเด่นอยู่กลางห้อง เติมบรรยากาศความขี้เล่นในแบบที่หาไม่ได้จากคอนโดทั่วไป และนี่คือเสน่ห์ที่ Kave Playground ที่อยากจะสื่อความเป็นคอนโดสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้แค่ “น่าอยู่” แต่ยัง “น่าเล่น” ด้วย
ก่อนจะพาไปดูห้องตัวอย่างที่มีให้ชมถึง 4 แบบ ตั้งแต่ห้อง Studio ไปจนถึง 1 Bedroom Plus ที่จัดเต็มทั้งฟังก์ชันและพื้นที่ เดี๋ยวเราแวะมาดูโมเดลโครงการและโซนส่วนกลางกันก่อนครับ จะได้เห็นภาพรวมว่า Kave Playground วางผังยังไง แต่ละอาคารอยู่ตรงไหน แล้ว Facility ที่ว่าแน่นที่สุดในย่าน…แน่นยังไง? ไปดูพร้อมกันเลยครับ
พื้นที่ส่วนกลาง
จากภาพมุมสูงจะเห็นภาพรวมของโครงการ Kave Playground ได้ชัดเจนครับ
- ด้านหน้าโครงการติดกับซอยรามคำแหง 43/1 ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ข้ามถนนนิดเดียวก็ถึงโรงเรียนแล้วจริง ๆ
- ด้านหลังโครงการจะติดกับคลองเจ้าคุณสิงห์ ซึ่งเป็นแนวแบ่งระหว่างพื้นที่โครงการกับฝั่งชุมชนแนวราบ ทำให้บรรยากาศฝั่งนี้ค่อนข้างสงบและได้ความเป็นส่วนตัว
ถ้าดูจากแปลน จะเห็นว่าอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโครงการคือ PlayStation ซึ่งเป็นอาคารส่วนกลางหลัก ตั้งอยู่ติดสำนักงานขาย โดยอาคาร PlayStation จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า-ออกหลักของโครงการ เหมาะมากกับการเป็นจุดนัดพบ หรือพื้นที่ต้อนรับแขก เพราะเข้า-ออกสะดวก นอกจากนี้ยังมีประตูเล็กให้เดินเข้า-ออกได้อีก 2 ประตู สำหรับลูกบ้านครับ เพราะต้องใช้ Key Card ในการเข้า-ออกนั่นเอง
ส่วนอาคารพักอาศัยทั้ง 11 อาคาร จะถูกวางเรียงตามแนวลึกของที่ดิน โอบล้อม Court กลางที่เป็นพื้นที่สีเขียว และสระว่ายน้ำระบบเกลือที่ให้มาถึง 2 สระ แบบ Freeform พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนที่กระจายอยู่ตามมุมต่าง ๆ รอบสระ ทำให้หลายยูนิตได้วิวภายในโครงการที่ร่มรื่น บรรยากาศดูผ่อนคลาย และยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง ถ้าถามว่าอาคารไหนน่าอยู่ที่สุด? คำตอบขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ครับ เพราะแต่ละอาคารมีคาแรกเตอร์ต่างกัน เช่น
- อาคาร A และ อาคาร K : ใกล้ PlayStation มาก เดินไปใช้ส่วนกลางง่าย เหมาะกับคนที่ชอบใช้ Facility บ่อย ๆ
- อาคาร B, C, D, E, F : อยู่ใกล้ประตูเล็ก เดินข้ามทางม้าลายก็ถึงโรงเรียนเลย เหมาะกับน้อง ๆ นักเรียน และผู้ปกครอง
- อาคาร C : เป็นอาคารเดียวที่เลี้ยงสัตว์ได้ มีพื้นที่สวนให้น้องหมาน้องแมวเดินเล่นใกล้ ๆ
- อาคาร G : ตั้งอยู่ด้านในสุด ได้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบที่สุด เหมาะกับคนชอบความสงบ
- อาคาร H และ อาคาร J : อยู่โซนด้านใน ใกล้ถนนโครงการ รถขนของเทียบหน้าตึกได้สะดวก เหมาะกับคนมีสัมภาระบ่อย ๆ
วางผังมาได้ชัดและตั้งใจจริง ๆ ใครที่ชอบเลือกห้องจากตำแหน่งอาคารก่อน เดี๋ยวพอเราไปดูห้องตัวอย่างแล้ว จะได้เลือกง่ายขึ้นด้วยนะครับ
ทางเข้า-ออกของรถยนต์จะอยู่ระหว่างอาคาร A และอาคารส่วนกลาง PlayStation ใช้ระบบ Bluetooth Auto Access คล้าย Easy Pass สแกนผ่านได้อัตโนมัติ โดยมี รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
จุดเด่นอีกอย่างคืออาคารส่วนกลาง PlayStation ที่ไม่ได้เป็นแค่โซน Facility แต่ยังรวมที่จอดรถทั้งหมดไว้ในอาคารเดียวกันด้วย ขับเข้ามาในโครงการแล้วสามารถเลี้ยวขึ้นไปจอดบนอาคารได้เลย สะดวกและเป็นสัดส่วน
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมกว่า 60 รายการทั้ง Co-Learning, ห้องประชุม, ฟิตเนส, E-Sport Room, โซนเอนเตอร์เทนเมนต์ ไปจนถึงโซน Outdoor และร้านค้า 3 ยูนิต เป็นพื้นที่ที่ทั้งใช้จริงและใช้งานได้ทุกเจนจริง ๆ ครับ
นอกจากอาคารส่วนกลางจะจัดเต็มแล้ว ในแต่ละอาคารพักอาศัยก็มี Lobby แยกของตัวเอง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านอีกระดับ และสำหรับสายรักสัตว์ ต้องไม่พลาด อาคาร C ที่เป็นอาคารเดียวในโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ โดยมีทั้ง Pet Lover Cafe ให้เจ้าของมานั่งชิลพร้อมน้อง ๆ และ Pet Park ใกล้อาคารสำหรับพาน้องหมาน้องแมวออกมาเดินเล่นอย่างอิสระ และเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าแต่ละชั้นของอาคารส่วนกลางมีอะไรบ้าง เราเตรียม ภาพ Perspective มาฝากกันครับ
ภาพบรรยากาศภายใน Cook’s Haven Studio บนชั้น 2 ออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น พูดคุย หรือจัดปาร์ตี้แบบส่วนตัว จะใช้เรียนทำอาหารก็ได้บรรยากาศดีไม่แพ้กัน ด้วยฝ้าเพดานแบบ Double Volume ที่ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และน่าอยู่ขึ้นอีกเท่าตัว
ภาพบรรยากาศภายใน The Beast’s Library บนชั้น 4 พื้นที่อ่านหนังสือและติวก่อนสอบที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจ มีมุมให้นั่งหลากหลายรูปแบบ จะนั่งคนเดียวหรือนั่งเป็นกลุ่ม ก็เลือกมุมที่ใช่ในสไตล์ของตัวเองได้เลยครับ
ถ้ามากันเป็นกลุ่ม แนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาที่โซน Book Adventure ที่อยู่ในห้องเดียวกัน ซึ่งออกแบบให้มีทั้งโต๊ะและที่นั่งหลากหลายสไตล์ จะนั่งติวหนังสือ ปรับท่านั่งเปลี่ยนมุมก็ทำได้สบาย ๆ เพิ่มความยืดหยุ่นให้การอ่านหนังสือไม่จำเจอีกต่อไปครับ
ภาพจำลองบรรยากาศของ Outside The Box Seat มุมนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ที่เหมาะทั้งกับการมาคนเดียว หรือจะมานั่งติวหนังสือเป็นคู่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวพอเหมาะ บรรยากาศสงบ ใช้งานได้ทั้งช่วงเช้าและเย็น
ภาพจำลองบรรยากาศของ Learning Pod มุมอ่านหนังสือที่ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะ เงียบสงบ เหมาะกับการจดจ่ออ่านหนังสือหรือติวแบบจริงจังมากกว่าโซนอื่น ๆ ในชั้นเดียวกันครับ
ภาพจำลองบรรยากาศของ Online Battle Room หรือ E-Sport Room ห้องเล่นเกมที่ตกแต่งเหมือนร้านเกมจริง ๆ มีคอมฯ พร้อมให้นั่งเล่นกับเพื่อนแบบจัดเต็ม แถมดีไซน์ยังเท่ด้วยไฟเส้นทันสมัย ใครสายเกมเมอร์มานั่งรวมแก๊งกันตรงนี้ได้เลยครับ สนุกแน่นอน!
ภาพจำลองบรรยากาศของ Battle Strategy Area หรือพื้นที่สำหรับเล่นบอร์ดเกมโดยเฉพาะ จะเล่น Werewolf แบบจัดเต็ม หรือเกมเศรษฐีเบา ๆ กับเพื่อน ก็พร้อมล้อมวงกันได้เลย เป็นอีกมุมที่เหมาะกับการใช้เวลาสนุก ๆ กับชาวแก๊งหลังเลิกเรียนครับ
ภาพจำลองบรรยากาศของ The Beat Lab ห้องซ้อมดนตรีที่ครบเครื่อง จะเล่นคนเดียว หรือจะซ้อมทั้งวงก็ได้เต็มที่ แถมมุมในห้องยังเหมาะกับการตั้งกล้อง Live หรือถ่ายคลิปโชว์ฝีมืออีกด้วย สตูดิโอสวย สว่าง โปร ไม่แพ้ใครแน่นอนครับ ใครมีวงอยู่แล้วคือสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้โรงเรียนแบบเดินมาได้เลย
ภาพจำลองบรรยากาศของ Room Theatre มุมดูหนังสุดชิล ที่ให้เรานั่งดูหนัง ซีรีส์ หรือคอนเสิร์ตกับเพื่อนได้แบบเต็มอรรถรส เหมือนยกโรงหนังส่วนตัวมาไว้ในคอนโด ไม่ต้องฝ่ารถติดไปห้างก็ดูเพลินได้ทุกวัน
ภาพจำลองบรรยากาศของ Pulse Gym & Fitness ฟิตเนสของโครงการที่จัดเต็มทั้งโซนเวทและคาร์ดิโอ จะเล่นหนักหรือเบา ก็มีครบหมด แถมยังมีมุมโยคะให้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยนะ ที่พิเศษคือจากตรงนี้จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนตรง Court กลางได้แบบมุมสูง เหงื่อออกพร้อมวิวสวย ๆ ไปด้วย ฟีลดีสุด ๆ คราวนี้ไปดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ
แบบห้อง : ONE BEDROOM PLUS
- พื้นที่ใช้สอย : 33.40 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ระเบียง
เริ่มกันที่ One Bedroom Plus ห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ ซึ่งทางโครงการตกแต่งแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์หลักมาครบทั้งโซฟา ชั้นวางทีวี ตู้รองเท้า เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาและ Hood ดูดควัน ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า รวมถึงแอร์ เราแค่ซื้อของใช้อีกนิดหน่อยอย่างโต๊ะรับประทานอาหาร ที่นอน ผ้าม่าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย
ห้อง One Bedroom Plus เป็นห้องแบบที่มีฟังก์ชันลงตัวที่สุดในโครงการ และเหมาะมากกับคนที่ต้องการอยู่กัน 2–3 คน ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่อยากได้พื้นที่เพิ่มไว้ทำงานหรือเก็บของ หรือครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีลูกวัยเรียน หรือญาติผู้ใหญ่ที่แวะมาค้างด้วยบ้างเป็นครั้งคราว จุดเด่นของห้องนี้คือมี ห้องอเนกประสงค์แยกต่างหาก จะจัดเป็นห้องนอนเล็ก ห้องอ่านหนังสือ หรือโฮมออฟฟิศก็ได้หมด ถือว่าตอบโจทย์คนที่อยากได้ฟังก์ชันเพิ่ม แต่ไม่อยากขยับไปห้องใหญ่แบบ Two Bedroom
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง โซนแรกที่จะเจอก็คือ พื้นที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งจัดวางมาได้พอดีสำหรับการใช้ชีวิตในทุกวัน ห้องตัวอย่างตกแต่งไว้ด้วยโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่ด้านข้างที่ยังเหลือพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็ก ๆ ต่อเนื่องจากโซฟาได้แบบไม่รู้สึกแคบ หรือแน่นจนเกินไป มีระยะห่างระหว่างโซฟากับจุดวางทีวีก็อยู่ในระดับที่พอดี ดูทีวีหรือซีรีส์ได้สบายตา โดยทางโครงการจะมีชั้นวางทีวี และตู้อเนกประสงค์ ให้ในแพ็ก Fully Furnished ด้วยนะครับ (แต่เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องตัวอย่างอาจแตกต่างจากแบบมาตรฐานเล็กน้อย) ใครที่ใช้เวลาอยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นหลัก ไม่ว่าจะทำงาน ดูซีรีส์ หรือเล่นเกม ห้องนี้จัดมาค่อนข้างลงตัวเลยครับ จากโซนนี้เราจะพาไปต่อที่ ห้องครัวฝั่งซ้ายมือ กันครับ
ครัวของห้องนี้เป็นแบบปิด ซึ่งถือว่าใช้งานได้จริงและเป็นสัดส่วนดีทีเดียวครับ มี ประตูกระจกบานเลื่อน กั้นระหว่างครัวกับพื้นที่นั่งเล่น ทำให้กลิ่นและควันจากการทำอาหารไม่ไปรบกวนส่วนอื่น ๆ ของห้อง เหมาะมากสำหรับคนที่ทำอาหารเบา ๆ เป็นครั้งคราวแต่ก็ยังอยากให้ห้องดูเรียบร้อย เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวที่ Built-in มาให้จากโครงการ วางชิดผนังฝั่งหนึ่ง พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไว้อย่างลงตัว พื้นที่ทางเดินในครัวถือว่าพอเหมาะ เดินเข้า-ออก หรือยืนทำครัวก็สะดวกไม่อึดอัด
พื้นในโซนนี้ รวมถึงโซนนั่งเล่นและห้องนอน จะปูด้วย SPC ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนต และดูแลรักษาได้ง่าย ส่วนฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.4 เมตร ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัด โดยรวมครัวของที่นี่แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็จัดมาให้ครบฟังก์ชัน เหมาะกับการทำอาหารง่าย ๆ หรือเตรียมอาหารแบบเบา ๆ ได้สบายครับ
เคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาจากโครงการ จัดฟังก์ชันมาครบพอสมควรเลยครับ ทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว และ เครื่องดูดควัน ซึ่งทั้งหมดใช้ของ TEKA แบรนด์มาตรฐานที่ไว้ใจได้สำหรับคอนโด ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์จะมีการติดตั้งกระเบื้อง Backsplash มาให้เรียบร้อย ช่วยให้เช็ดทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบน้ำมันหรือไอน้ำระหว่างทำอาหาร ซิงก์ล้างจานมีขนาดมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก ส่วนเครื่องดูดควันที่ให้มาเป็นแบบ หมุนเวียนภายใน จึงเหมาะกับเมนูเบา ๆ อย่างอุ่นอาหาร หรือเตรียมอาหารง่าย ๆ ที่ไม่มีกลิ่นแรงมาก
นอกจากนี้ยังมีตู้ลอยด้านบนแบบ Built-in มาให้ด้วย สำหรับใช้เก็บของในครัว ช่วยให้พื้นที่ดูเรียบร้อยและใช้งานได้จริงมากขึ้นครับ
จากห้องครัว มาต่อกันที่ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งในห้องตัวอย่างนี้ตกแต่งไว้เป็นมุมไลฟ์สดและซ้อมดนตรี ให้ฟีลสนุก ๆ แบบคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้แบบนั้น ก็สามารถปรับเป็นห้องนอนเล็กได้เลยครับ วางเตียงขนาด 3 ฟุตลงไปได้พอดี จะใช้เป็นห้องแต่งตัว หรือห้องเก็บของก็ดีไม่แพ้กัน
ตำแหน่งห้องนี้อยู่ติดกับระเบียง ที่สามารถเปิดออกไปชมวิวได้ เพิ่มทั้งแสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทหรือถ้าใครชอบปลูกต้นไม้ ก็จัดเป็นมุมสวนแนวตั้งเล็ก ๆ หรือมุมพักผ่อนปลูกต้นไม้ในกระถางได้เลย เพิ่มความสดชื่นให้กับห้องแบบง่าย ๆ ได้เลย
มาต่อกันอีกฝั่งของห้องครับ ปิดท้ายด้วยห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งอยู่แยกเป็นสัดส่วน เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันครับ
ห้องน้ำของห้องนี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน ถือว่าออกแบบมาได้ดีมาก เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาเพื่อนแวะมาหา โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเข้าไปให้เสียความเป็นส่วนตัว ภายในห้องน้ำถูกแบ่งฟังก์ชันใช้งานไว้เป็นสัดส่วน ผนังและพื้นปูกระเบื้องทั้งหมด ทำความสะอาดง่ายและดูเรียบร้อย อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO หรือเทียบเท่า ขนาดพอดีใช้งานได้คล่องตัว โซนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน ที่เปิดได้กว้าง เข้า-ออกสะดวก พร้อมฝักบัวติดตั้งมาให้ รวมถึงมีชั้นวางของแบบฝังในผนัง และเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย เรียกว่าใช้งานได้ทันที ไม่ต้องปรับเพิ่มครับ
ปิดท้ายห้องตัวอย่าง One Bedroom Plus กันด้วยโซนพักผ่อนหลักอย่าง ห้องนอน ซึ่งแยกออกมาเป็นส่วนตัว ด้วย ประตูบานทึบ ที่ช่วยให้รู้สึกเป็นสัดส่วนมากขึ้น เหมาะกับการพักผ่อนจริงจัง เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันครับ
เข้ามาภายใน ห้องนอน จะเห็นว่าพื้นที่กว้างขวาง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี และยังเหลือระยะเดินรอบเตียงได้สบาย ๆ จุดเด่นคือมี หน้าต่างกระจกบานใหญ่ สูงเกือบจรดฝ้า ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและลมได้ดี มองวิวจากบนเตียงได้แบบไม่มีอะไรมาบัง สร้างบรรยากาศให้ห้องดูโปร่งและน่าอยู่ ที่ปลายเตียง โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย ขนาดกำลังดี มีแบ่งช่องไว้ให้สำหรับเก็บเสื้อผ้าและของใช้ให้เป็นระเบียบ ส่วนฝั่งหัวเตียงสามารถจัดเป็นมุมทำงานเล็ก ๆ หรือวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ แล้วถัดไปอีกนิดก็จะเป็นห้องน้ำ ที่เชื่อมต่อใช้งานได้สะดวกเลยครับ เดี๋ยวเราไปดูห้องต่อไปกันเลยครับ
แบบห้อง : ONE BEDROOM EXTRA
- พื้นที่ใช้สอย : 27.80 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ระเบียง
ถัดจาก One Bedroom Plus เรามาต่อกันที่ห้อง One Bedroom Extra ครับ ซึ่งแปลนของห้องนี้จะมีความต่างจากแบบ Plus อยู่สองจุดหลัก ๆ อย่างแรกคือไม่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาให้ และอย่างที่สองคือ ตำแหน่งของครัวจะอยู่ด้านหน้าห้อง ติดกับประตูทางเข้าเลย
การจัดวางแบบนี้มีข้อดีคือ ทำให้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ได้อยู่ติดหน้าต่างบานใหญ่และระเบียงทั้งคู่ ได้แสงธรรมชาติเต็ม ๆ พร้อมมุมมองโปร่งสบาย ส่วนครัวถึงจะอยู่หน้าห้อง แต่ก็ยังออกแบบเป็นครัวปิด แยกจากโซนอื่นเหมือนเดิม ส่วนรายการเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้มา ก็ถือว่าครบพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ
โซนแรกของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิด ที่วางตำแหน่งไว้ติดกับประตูทางเข้าห้อง พื้นที่ทางเดินภายในครัวถือว่ากว้างพอสมควร เดินเข้า-ออกสะดวก ใช้งานทำครัวได้จริง และที่สะดวกมากคือจากตรงนี้สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน เหมาะสำหรับเวลามีแขกมาบ้าน ไม่ต้องพาเข้าพื้นที่ส่วนตัวครับ
ครัวจะถูกแยกจากส่วนอื่นด้วย ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิด-ปิดง่าย และช่วยกันกลิ่นอาหารไม่ให้รบกวนพื้นที่นั่งเล่นหรือห้องนอน เพิ่มความเป็นระเบียบและสบายในการใช้งาน สำหรับวัสดุภายในห้อง พื้นในทุกโซนไม่ว่าจะเป็นครัว ห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน จะปูด้วย SPC ที่ทนความชื้นได้ดีและดูแลง่ายกว่าไม้ลามิเนต ส่วน ฝ้าเพดาน ให้ความสูงอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ให้ความรู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัดเช่นเคย
ในส่วนของครัว ทางโครงการจัดมาให้แบบ Fully Furnished เช่นเดียวกับห้องอื่น ๆ ภายในยูนิต โดยเคาน์เตอร์ครัวถูก Built-in มาให้เรียบร้อย พร้อมเว้นพื้นที่ด้านข้างไว้สำหรับวางตู้เย็นลงตัว ใต้เคาน์เตอร์มีตู้เก็บของ และลิ้นชักเก็บช้อนส้อมใช้งานได้จริง พร้อมช่องวางไมโครเวฟที่ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ได้ดี จุดที่น่าสนใจคือมีลิ้นชักพิเศษที่ออกแบบเป็นชั้นโล่ง สามารถดึงออกมาใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเสริม เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานได้มากขึ้น
ส่วนบนของเคาน์เตอร์ให้มาครบทั้ง อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบรนด์ TEKA ซึ่งเป็นระบบหมุนเวียนในห้อง เหมาะกับเมนูเบา ๆ เช่นการอุ่นอาหาร หรือทำกับข้าวง่าย ๆ ที่ไม่มีกลิ่นแรงมาก ผนังหลังเคาน์เตอร์ติดตั้ง กระเบื้อง Backsplash มาให้ด้วย ทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และยังมี ตู้ลอยด้านบนแบบ Built-in สำหรับเก็บของเพิ่มเติม ช่วยให้ครัวดูเรียบร้อย และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
โซนหน้าห้อง นอกจากจะเป็นพื้นที่ของห้องครัวแล้ว ยังมีห้องน้ำที่สามารถเข้าใช้งานได้จากบริเวณนี้เลยครับ เพิ่มความสะดวกเวลาเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยม เพราะไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว เดี๋ยวเราเข้าไปดูรายละเอียดภายในกันต่อครับ
ห้องน้ำของ One Bedroom Extra เข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน เพิ่มความสะดวกเวลามีแขกมา ใช้งานได้โดยไม่ต้องผ่านโซนพักผ่อนส่วนตัว ภายในแบ่งฟังก์ชันชัดเจน ปูกระเบื้องรอบด้าน ทำความสะอาดง่าย สุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO หรือเทียบเท่า พร้อมฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน 3 ตอน เดินเข้า-ออกสะดวก มีฝักบัว พร้อม Drop Wall ไว้วางพวกขวดแชมพู ครีมอาบน้ำ รวมถึงเดินระบบไฟรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยครับ
เดินผ่านโซนครัวเข้ามาด้านใน จะพบกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง สว่าง และมีลมพัดผ่านตลอดวัน แสงธรรมชาติช่วยให้ห้องดูมีชีวิตชีวาแบบไม่ต้องเปิดไฟทั้งวันก็ยังไหว สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นจัดวางได้ลงตัว รองรับโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะทานอาหารขนาดเล็กสำหรับ 2 คนได้สบาย ๆ ระยะห่างจากทีวีพอดีสำหรับการใช้งานประจำวัน และดูซีรีส์ชิล ๆ ในวันหยุด ทางโครงการให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาด้วยในชุดมาตรฐาน (แนะนำให้สอบถามแบบจริงอีกทีตอนเลือกห้อง) ส่วนโต๊ะทานอาหาร เราสามารถเลือกแบบกะทัดรัดมาตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามสไตล์ที่ชอบเลยครับ ห้องนี้ตกแต่งมาได้สดใสมาก ๆ เลยครับ
ทางโครงการให้ชั้นวางทีวีแบบตั้งพื้นมาให้ด้วยนะครับ พร้อมกับตู้เก็บของ Built-in ด้านข้าง ที่ออกแบบให้สูงจรดฝ้า มีหน้าบานปิดเรียบร้อย ช่วยเก็บของได้เยอะ และทำให้ห้องดูเรียบ สะอาดตา ไม่รกสายตา
ด้านในสุดของห้องจะเป็น ระเบียง ซึ่งโครงการให้ประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดออกได้กว้าง ใช้งานสะดวก หากอยากเปิดรับลมแนะนำให้ติด มุ้งลวดแบบจีบ เพิ่มไว้ด้วย จะช่วยกันยุงและแมลงได้ดี ส่วนพื้นที่ระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้า และ ราวตากผ้า ขนาดเล็กได้ สำหรับ Condensing Unit ติดตั้งแขวนอยู่ด้านบน ช่วยให้ใช้งานพื้นที่ส่วนล่างได้เต็มที่ และยังมีธรณีประตูกั้นไว้ระหว่างพื้นที่ภายในกับระเบียง ป้องกันน้ำฝนย้อนเข้าสู่ตัวห้องได้ครับ
ปิดท้ายห้องนี้กันที่ห้องนอนครับ ซึ่งยังคงได้ประตูบานทึบที่กั้นความเป็นส่วนตัวจากห้องนั่งเล่น ภายในห้องโปร่งโล่งสบาย ได้หน้าต่างบานใหญ่ 1 จุด ที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ เหมือนกับห้อง One Bedroom Plus ที่เราพาชมไปก่อนหน้านี้เลยครับ บรรยากาศในห้องนอนจึงดูสว่าง ไม่อึดอัด เหมาะกับการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา
ภายในห้องนอน จะได้ ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และ ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เป็นมาตรฐานของโครงการ ข้างเตียงทั้งสองฝั่งยังเหลือพื้นที่พอสำหรับวาง โต๊ะหัวเตียง หรือจะจัดเป็น มุมโต๊ะเครื่องแป้ง ก็ทำได้ไม่อึดอัด
ฝั่งที่ติดกับห้องน้ำจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า ทำให้หลังอาบน้ำสามารถเดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก ตู้ที่ให้มาเป็นแบบ สูงจรดฝ้า ใช้เก็บของได้เต็มพื้นที่ โดยหน้าบานฝั่งหนึ่งออกแบบเป็นกระจกสีชา ช่วยสะท้อนแสงและเพิ่มความโปร่งให้กับห้อง ภายในยังแบ่งช่องเก็บของไว้ให้เป็นระเบียบ เหมือนกับห้องตัวอย่างที่เราได้เห็นเลยครับ
แบบห้อง : ONE BEDROOM
- พื้นที่ใช้สอย : 25.70 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ระเบียง
ถัดมาที่ห้อง One Bedroom ซึ่งเป็นหนึ่งในแปลนยอดนิยมของโครงการเลยครับ เพราะจัดวางฟังก์ชันได้ลงตัวและตอบโจทย์การใช้งานจริง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ครัวของห้องนี้เป็นครัวปิด และอยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถทำอาหารกลิ่นแรงได้เต็มที่ พร้อมเปิดประตูระบายอากาศได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นจะลอยไปทั่วห้อง ห้องนอนอยู่ด้านในได้หน้าต่างบานใหญ่รับแสง ลม และวิวจากภายนอกได้ดี และยังมีห้องน้ำในตัว เดินเข้าออกสะดวก โดยเฉพาะตอนกลางคืน ไม่ต้องเดินผ่านโซนอื่นให้ยุ่งยาก สำหรับห้องนั่งเล่น จะอยู่โซนหน้าสุดติดกับประตูห้อง จึงอาจไม่ได้รับแสงธรรมชาติโดยตรงนัก แต่อาศัยแสงจากฝั่งครัว หรือเปิดไฟเสริมก็ช่วยให้ดูอบอุ่นขึ้นได้
โดยรวมแล้วห้องนี้เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องนอนแบบปิดมิดชิด มีความเป็นส่วนตัว และเน้นใช้งานครัวแบบจริงจัง ส่วนใครที่ไม่ค่อยมีเพื่อนมาเยี่ยมบ่อย ๆ ก็จะยิ่งรู้สึกว่าแปลนนี้ลงตัวครับ
เมื่อเปิดเข้ามาในห้อง จะเจอกับโซนนั่งเล่น และพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนครัวจะอยู่ด้านในสุดติดกับระเบียง บรรยากาศของห้องโดยรวมดูสว่างพอสมควรครับ เพราะแม้ห้องนั่งเล่นจะไม่ได้อยู่ติดหน้าต่างโดยตรง แต่ก็ได้แสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านห้องนอน ช่วยให้ห้องดูไม่ทึบจนเกินไป
โซนนั่งเล่นมีระยะดูทีวีกำลังดี พอประมาณครับ เหมาะกับการใช้ทีวีขนาดกลางได้พอดี ๆ ทางโครงการให้โซฟา 2 ที่นั่งมาด้วยในชุดมาตรฐาน พร้อมชั้นวางทีวีแบบลอยตัวนะครับ ห้องนี้ก็ยังได้ตู้เก็บของ Built-in เหมือนกันกับห้องไทป์ใหญ่ด้วยครับ ซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง ใช้งานคล้ายตู้รองเท้า หรือเก็บของจำเป็นที่ต้องหยิบใช้ประจำ เช่น กุญแจ ร่ม หรือหมวก ก็หยิบเก็บได้ง่ายก่อนออกจากห้องครับ
ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวจะมี ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ตัวประตูสูงจรดฝ้า และช่วยป้องกันกลิ่นอาหารไม่ให้รบกวนโซนพักผ่อนครับ
ครัวของห้องนี้เป็นครัวปิด และเชื่อมต่อกับระเบียงโดยตรง จึงเหมาะกับคนที่ทำอาหารเป็นประจำ เพราะสามารถระบายกลิ่นและควันออกไปด้านนอกได้ดี พื้นที่ภายในกว้างพอให้ยืนทำครัวและเคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่อึดอัดครับ
ภายในห้องครัวจะมี เคาน์เตอร์ Built-in มาให้แบบเดียวกับในห้องตัวอย่าง พร้อม ลิ้นชักแบบเลื่อนออกได้ ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานเวลาเตรียมอาหาร หรือวางของเพิ่มเติมได้จริงจัง ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ เว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งจัดตำแหน่งไว้เข้ามุมพอดี ทำให้ไม่เกะกะทางเดินใช้งานสะดวกครับ
ด้านในสุดของห้องจะเป็นระเบียง ซึ่งเชื่อมต่อกับครัวโดยตรง ประตูเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดได้กว้าง ช่วยระบายกลิ่นและควันจากการทำอาหารได้ดี พื้นที่ระเบียงรองรับการวางเครื่องซักผ้าได้พอดี ส่วนราวตากผ้า แนะนำให้ใช้แบบแขวนผนังเพื่อไม่ให้เกะกะพื้นที่ หรือหากใช้เครื่องอบผ้าก็จะยิ่งสะดวกยิ่งขึ้น และ Condensing Unit ถูกแขวนไว้ด้านบนเรียบร้อย ช่วยให้ระเบียงดูเป็นระเบียบ และใช้งานพื้นที่ส่วนล่างได้อย่างเต็มที่
ห้องนอนของไทป์นี้ มาพร้อมประตูบานทึบอีกเช่นเคย จึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากกว่าการกั้นด้วยกระจก ทำให้ใช้งานได้เต็มฟังก์ชันทั้งในเรื่องการพักผ่อนและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อครับ
ภายในห้องนอนของไทป์นี้ดูกว้างขึ้น เพราะตู้เสื้อผ้า Built-in ถูกออกแบบให้เข้ามุมกลืนไปกับผนัง คล้ายกับห้องนอนไทป์ใหญ่ จึงไม่รู้สึกว่ามีมุมตู้มากินพื้นที่ใช้งาน ช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบมากขึ้น พร้อมกับได้ หน้าต่างบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติ เพิ่มความโปร่งสบายให้กับพื้นที่พักผ่อนอีกด้วย
สองฝั่งของหัวเตียง มีพื้นที่เหลือพอสำหรับวาง โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะปรับเป็น โต๊ะเขียนหนังสือขนาดกะทัดรัด ก็ใช้งานได้ลงตัว ขนาดกำลังพอดีสำหรับวาง Laptop พร้อมหนังสือหรืออุปกรณ์เล็ก ๆ ได้ในพื้นที่เดียว เหมาะสำหรับใช้เป็นมุมทำงานหรือมุมแต่งตัวในห้องก็ทำได้เช่นกันครับ
ห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ภายในห้องนอน เดินเข้า-ออกสะดวก โดยเฉพาะเวลากลางคืนไม่ต้องผ่านโซนอื่น ภายในห้องน้ำ แยกส่วนเปียกและแห้งไว้เรียบร้อย พร้อมชุดสุขภัณฑ์ครบเหมือนในห้องตัวอย่าง มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ พร้อมใช้งานได้เลย
แบบห้อง : STUDIO
- พื้นที่ใช้สอย : 23.60 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน+ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ระเบียง
และก็มาถึงแบบห้องไทป์สุดท้ายของวันนี้ กับห้อง Studio ซึ่งเป็นตัวเลือกเริ่มต้นของโครงการนี้ครับ แม้จะมีขนาดกะทัดรัดที่สุด แต่ฟังก์ชันถือว่าครบ ใช้งานได้จริง เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว หรือมองหาห้องพักในเมืองที่อยู่สบาย ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเยอะ จุดพิเศษของห้องนี้ คือการตกแต่งแบบ Pet-Friendly อยู่ใน อาคาร C ซึ่งทางโครงการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ โดยจะมีข้อกำหนดสำหรับการนำน้องหมาน้องแมวเข้ามาอยู่ด้วยชัดเจน ใครที่เป็นทาสน้อง ๆ ต้องชอบแน่นอน และถึงจะเป็นห้องเริ่มต้น แต่ยังได้ ครัวปิดติดระเบียง แบบเดียวกับห้องใหญ่เลยครับ เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดภายในกันต่อเลยดีกว่า
เมื่อเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับพื้นที่เปิดโล่งที่ รวมห้องนั่งเล่นและห้องนอนเข้าไว้ในโซนเดียวกัน ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็ม ๆ ในโซนนั่งเล่นมีพื้นที่ใช้งานพอดี วางโซฟา 2 ที่นั่งได้ลงตัว พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้มาครบตามมาตรฐาน ด้วยราคาที่จับต้องได้ และฟังก์ชันที่จัดมาแบบไม่ขาดไม่เกิน ห้องนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นมีคอนโดเป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ ครับ
ตู้เสื้อผ้าก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะทางโครงการ Built-in มาให้เรียบร้อย แบบเดียวกับห้องไทป์อื่น ๆ ใช้งานได้สะดวก และช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อเพิ่มเองเลย
ในโซนห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ๆ ยังเหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สะดวก ส่วน หัวเตียงฝั่งหนึ่งก็สามารถวางโต๊ะหัวเตียง หรือของใช้ส่วนตัวเพิ่มเติมได้ ส่วนผนังฝั่งปลายเตียง ก็เหมาะกับการติดตั้งทีวีแบบแขวนผนัง เพื่อประหยัดพื้นที่ได้ด้วย
สำหรับห้อง Studio นี้ แม้จะเป็นห้องไทป์เล็กสุด แต่กลับจัดฟังก์ชันมาได้กว้างและยืดหยุ่นกว่าที่คิด เพราะไม่มีผนังกั้น ทำให้สามารถปรับพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ เช่น จะวางที่นอนเสริมให้น้องหมาน้องแมว หรือตั้งมุมทำงานเล็ก ๆ ก็ลงตัว
อีกหนึ่งความพิเศษของห้องนี้ ที่ออกแบบมาเผื่อน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ คือมี จุดสำหรับแขวนสายจูง ติดตั้งไว้ให้หน้าห้องน้ำและห้องครัวเลยครับ เพิ่มความสะดวกสำหรับเจ้าของที่อยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ดีมาก ๆ
ภายในห้องน้ำ แบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจน พร้อมติดตั้ง ฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย และที่น่าสนใจคือ ด้านในมีก๊อกน้ำแบบ 2 วาล์ว แยกหัวฝักบัวสำหรับเจ้าของห้องและสำหรับน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ ใช้งานง่าย สะดวกแน่นอน ในส่วนของชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ก็ให้มาตามมาตรฐานโครงการ พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ เรียกได้ว่าครบ พร้อมใช้งานจริงทั้งคนและน้องสัตว์เลี้ยงเลยครับ
สองส่วนสุดท้ายของห้องนี้ คือ โซนครัวและระเบียง ที่ยังคงให้ฟังก์ชันมาครบไม่แพ้ห้องไทป์อื่น ๆ ในห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์ Built-in พร้อมซิงก์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน (Hob & Hood) รวมถึงมีช่องสำหรับวางตู้เย็นมาให้เรียบร้อย ระยะใช้งานกำลังดีทำอาหารเบา ๆ ได้สบาย และที่สำคัญคือ เป็นครัวปิด สามารถเลื่อนประตูกระจกปิดเพื่อกันกลิ่นรบกวนโซนพักผ่อนด้านในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พอเปิดประตูก็เชื่อมออกสู่ระเบียงด้านนอก ที่ช่วยระบายอากาศได้ดี ทำให้ครัวไม่อับ กลิ่นไม่สะสม ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ เพราะทุกห้องจะได้ครัวปิดติดระเบียง แบบนี้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะห้องไซซ์เริ่มต้นหรือใหญ่ก็ตาม
ครบกันไปแล้วสำหรับ 4 แบบห้องตัวอย่าง ของ Kave Playground ไม่ว่าจะเป็น Studio, One Bedroom, One Bedroom Extra หรือ One Bedroom Plus แต่ละแบบก็มีฟังก์ชันที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยจริง ทั้งในเรื่องของความเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยที่จัดวางอย่างลงตัว และครัวปิดติดระเบียงที่เป็นมาตรฐานของทุกยูนิต
ทำเลที่ตั้ง
Kave Playground ลาดพร้าว-บดินทรเดชา ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 43/1 ฝั่งตรงข้ามกับประตูโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แบบที่เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงโรงเรียนจริง ๆ ทำให้เป็นคอนโดที่ใกล้บดินทรฯ มากที่สุดในย่าน ไม่มีแปลงที่ดินไหนใกล้กว่านี้แล้ว นอกจากตอบโจทย์ กลุ่มนักเรียน-ผู้ปกครอง ที่อยากให้ลูกได้สิทธิ์โควตาเด็กพื้นที่ หรืออยากให้เดินไปเรียนได้แบบไม่ต้องห่วงรถติด ยังเหมาะกับวัยทำงานในย่านทาวน์อินทาวน์ ลาดพร้าว รามคำแหง และสายฟรีแลนซ์ที่ชอบความสงบ แต่ยังใกล้ความสะดวก ในแง่ของการเดินทางโครงการนี้ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (ด่านประชาอุทิศ) เพียง 2.2 กม.* ใช้รถส่วนตัวสะดวก แต่สายสาธารณะทางโครงการก็มี Shuttle Van รับ-ส่งรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย สายสีเหลือง MRT สถานีลาดพร้าว 83 และในอนาคตจะใกล้เปิดล่ะกับ MRT สายสีส้ม สถานีรามคำแหง ส่วนรอบโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ผ่านตลอดทั้งวัน หรือจะเรียกผ่านแอปพลิเคชันก็ยิ่งสะดวก ทำเลที่นี่รายล้อมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ดัง Community Mall และห้างใหญ่อย่าง Central Eastville, The Mall รามคำแหง เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับทั้งอยู่เองและลงทุนปล่อยเช่า เพราะจับกลุ่มชัดเจน ทั้งเด็กบดินทรฯ วัยรุ่นยุคใหม่ และผู้ปกครองที่อยากให้อยู่ใกล้ลูกจริง ๆ ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า The Scene Town In Town Makro Food Service Lotus’s Town In Town Central Eastville CDC The Mall รามคำแหง Big C ลาดพร้าว 1 Foodland ลาดพร้าว Big C หัวหมาก Lotus’s เลียบด่วนรามอินทรา Home Pro เอกมัย-รามอินทรา Foodland หัวหมาก The Mall บางกะปิ Makro ลาดพร้าว |
โรงพยาบาล โรงพยาบาลลาดพร้าว คลินิก ศูนย์แพทย์พัฒนา โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
|
สถานศึกษา โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โรงเรียนอุดมศึกษา โรงเรียนสองภาษาลาดพร้าว โรงเรียนบางกอกศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงเรียนเทพลีลา TRAILL International School โรงเรียนนานาชาติรัชต์ภาคย์ (RPIS) Lycée Français International de Bangkok (LFIB) โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพฯ KIS International School KIS International School
|
สรุป
“Kave Playground ลาดพร้าว–บดินทรเดชา” ไม่ได้เป็นแค่คอนโดใกล้โรงเรียน…แต่คือ “พื้นที่ใช้ชีวิต” ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ทั้งวัยเรียน วัยเริ่มต้นทำงาน ไปจนถึงฟรีแลนซ์ อินฟลูฯ และคนที่อยากใช้ชีวิตแบบมีสไตล์ โดยไม่ต้องฝ่ารถติดหรือเสียเวลาทุกเช้า-เย็นบนท้องถนน ด้วยทำเลโครงการอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบดินทรเดชา เดินข้ามถนนเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงโรงเรียนแล้ว ใกล้กว่านี้ไม่มีอีกแล้วจริง ๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่เรื่องสะดวก แต่มันคือ “เวลาที่ได้คืน” ให้เด็ก ๆ และครอบครัวได้ใช้ชีวิตเต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้ส่วนกลางที่นี่คือจุดขายสำคัญ เพราะให้มาจัดเต็มถึง 60 รายการ แบบที่เรียกได้ว่าคล้ายกับยกเอา “Siam Discovery” มาไว้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Co-Learning, E-Sport Room, Cover Dance Studio, Music Lab, ห้องสมุด, ครัวปาร์ตี้, Co-working หรือจะขึ้นไปโยคะบนดาดฟ้าก็ยังได้ เรียกว่ามีมุมให้ทุกเจนได้สนุกกับชีวิตในแบบของตัวเอง และที่สำคัญเป็นคอนโดที่ขายแบบ Fully Furnished ตั้งแต่ Studio ไปจนถึง One Bedroom Plus แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาตกแต่งเพิ่มเติมเยอะ มีตึกพิเศษที่เป็น Pet-Friendly สำหรับคนรักสัตว์โดยเฉพาะ พร้อมพื้นที่ให้น้องหมาน้องแมวได้เดินเล่นและเข้าสังคม โดดเด่นด้วยทำเลที่ครบจบทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลือง และยังอยู่ในย่านรามคำแหง-ลาดพร้าว-ทาวน์อินทาวน์ ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร และห้างดังรอบตัว มาในราคายังจับต้องได้ ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* (ณ เดือนมีนาคม 2568)
ไม่ว่าจะเป็น…
- ผู้ปกครองที่อยากให้ลูกได้อยู่ใกล้โรงเรียน ไม่ต้องลุ้นรถติดทุกเช้า
- พ่อ แม่ ผู้ปกครองที่อยากให้ลูกได้สิทธิ์โควตาเด็กในพื้นที่
- วัยรุ่นรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มสร้างตัว
- คนทำงานที่มองหาความคล่องตัวในทำเลเมือง
- หรือแม้แต่นักลงทุนที่อยากซื้อไว้ปล่อยเช่า เพราะคอนโดแนว School Campus แบบนี้ให้ Yield ได้สูงถึง 5% ต่อปี*
Kave Playground คือตัวเลือกที่ทั้งใช่ ทั้งชัด ทั้งคุ้ม และที่นี่ไม่ใช่แค่ “คอนโดที่อยู่” แต่คือ “พื้นที่ที่ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างสนุก” ในทุก ๆ วันครับ
#Homeday #Homedayth #AssetWise #WeBuildHappiness #เคฟคอนโด #KaveCondo #KavePlayground #เคฟเพลย์กราวด์ #เคฟเพลย์กราวด์ลาดพร้าวบดินทรเดชา #KavePlaygroundLadpraoBodindecha #รีวิวเคฟเพลย์กราวด์ลาดพร้าวบดินทรเดชา #PetFriendly #รีวิว #คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ #คอนโดลาดพร้าว #คอนโดรามคำแหง #คอนโดใกล้รถไฟฟ้า