NAT ฟอร์มดี นิวไฮ 3 ปีซ้อน (ปี 2565-2567) เผยผลประกอบการปี 2567 รายได้รวม 2,303.85 ล้านบาท กำไรสุทธิ โต 43.66% อัตรากำไรสุทธิ 7.30% บอร์ดเตรียมจ่ายปันผลประจำปีเพิ่ม 0.13 บาท/หุ้น รวมปันผลระหว่างกาลที่ผ่านมาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 114.80 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 71.85% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย เดินหน้ารับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งภาครัฐและเอกชน มุ่งเน้นบริหารต้นทุนการดำเนินงาน พัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่มีคุณภาพ เตรียมเข้าประมูลงานเพิ่มศักยภาพ เสริม Backlog โตต่อเนื่อง
นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีรายได้รวม 2,303.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,558.20 ล้านบาท จำนวน 745.65 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 47.85% และ มีกำไรสุทธิ 168.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 117.07 ล้านบาท จำนวน 51.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.66% โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในที่ระดับ 7.30%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 บริษัทมีรายได้รวม 399.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 325.49 ล้านบาท จำนวน 74.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.77% และ มีกำไรสุทธิ 16.60 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 2567 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน จำนวน 740.84 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ในโครงการในส่วนงานภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น โดยจากรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ เป็นการเข้ารับงานใหม่ในงานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure Solution) มูลค่า 119.84 ล้านบาท ในส่วนของรายได้จากการรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปี 2567 จำนวน 66 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 จำนวน 19 โครงการ เป็นจำนวน 533.52 ล้าน
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 42.64 ล้านบาท เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2567 และกำไรสะสมยกมา บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 114.80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71.85% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568
“บริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยทำสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างบริการที่ทันสมัย และ สอดรับกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญกับการเข้าประมูลและรับงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบทนที่ดี พร้อมเสริมสร้างมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้เติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว” นายสุธี กล่าวเพิ่มเติม
