หากกำลังมองหาผนังบ้านที่เหมาะกับการใช้งานอยู่ ในปัจจุบันนี้ มีผนังให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อความคุ้มค่า และเหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งบ้านมากที่สุด ไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะมีผนังแบบไหนบ้างที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด
ผนังอิฐ
ผนังก่ออิฐฉาบปูน เป็นวิธีการดั้งเดิมที่ใช้มานาน ใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร ผนังชนิดนี้ จะมีความแข็งแรง ทนทาน เจาะ หรือยึดผนังได้ดี สามารถทุบ ต่อเติมเพิ่มก็ไม่มีปัญหา เพราะจะไม่มีผลกับโครงสร้างอาคาร ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีต้นทุนที่ไม่แพงอีกด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตามผนังก่ออิฐฉาบปูน จะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานกว่าผนังชนิดอื่นๆ เพราะสามารถก่อผนังได้บนเฉพาะแนวคานเท่านั้น ซึ่งช่างจะต้องเป็นคนที่ทำการก่ออิฐ ฉาบปูนไปเรื่อยๆ จนเต็มระยะผนัง ทำให้โครงสร้างอาคารมีน้ำหนักมาก โดยอิฐที่นิยมใช้ ได้แก่ อิฐมอญ อิฐมวลเบา อิฐบล็อค และอิฐขาวค่ะ
ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป
ผนังสำเร็จรูป หรือ Precast Concrete เป็นผนังยอดฮิตในปัจจุบัน ซึ่งสามารถก่อผนังเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะเพียงนำผนังแต่ละแผ่นมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็เสร็จเรียบร้อย และผนังสำเร็จรูปได้มีการเสริมเหล็กด้านในคอนกรีต จึงมีความแข็งแรงมากกว่าผนังชนิดอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถเก็บเสียงได้อีกด้วยค่ะ
แต่ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปนี้ จะไม่สามารถทุบ หรือต่อเติมอาคารได้ ถ้าต้องการจะเจาะรู ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะผนังชนิดนี้จะช่วยรับน้ำหนักของอาคาร ทำให้การต่อเติม การเจาะส่งผลต่อโครงสร้างได้ค่ะ
ผนังเบา
ผนังเบา เป็นผนังที่ใช้สำหรับงานภายใน เหมาะสำหรับงานต่อเติม โดยนิยมใช้กั้นห้องเฉพาะภายในยูนิตสำหรับงานคอนโด หรือใช้ต่อเติมกั้นพื้นที่เพิ่มเติมในบ้านพักอาศัย ขั้นตอนการทำผนังเบา เริ่มจากการสร้างโครงสร้างขึ้นมาก่อน เช่น โครงเคร่าไม้ โครงเหล็ก และโครงอลูมิเนียม จากนั้นจึงนำไม้อัด แผ่นยิปซัมบอร์ด แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์มาปิดทับโครงค่ะ
ผนังเบานั้น มีราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย รื้อถอนเร็ว และน้ำหนักเบากว่าผนังประเภทอื่นๆ แต่ก็เป็นผนังที่มีความเปราะบาง ทนทานต่ำ ไม่เก็บเสียง จึงเหมาะใช้ในการกั้นแบ่งพื้นที่มากกว่าใช้เป็นโครงสร้างผนังจริงจัง หากต้องการเจาะ หรือแขวนทีวีต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้โดนโครงภายในด้วยนะคะ
ผนังกระจกใส
มีลักษณะโปร่งแสง มีค่าตัดแสงอยู่ที่ประมาณ 8% ส่วนมากจะหนา 12 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่ภายในที่อยู่อาศัย ไม่ว่าพื้นที่จะเล็ก หรือใหญ่มากแค่ไหนก็ตาม นิยมใช้เป็นประตู หน้าต่างที่เป็นช่องระบายอากาศของพื้นที่ภายใน อีกทั้งยังมีการประยุกต์การใช้งานอย่างหลากหลาย เช่น ผนังราวกันบันได ฉากกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งาน รวมไปถึงใช้เป็นวัสดุปิดผิวผนังเพื่อการตกแต่งค่ะ
ประเภทของกระจกใส สามารถแบ่งย่อยได้ 5 ประเภทหลักๆ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรูปแบบกระบวนการผลิต การใช้งานที่แตกต่างกันไป ได้แก่ กระจกนิรภัย กระจกกึ่งนิรภัย กระจกโฟลต กระจกลามิเนต และกระจกฉนวนกันความร้อนค่ะ
สำหรับการเลือกผนังให้เหมาะกับการใช้งาน เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หากเลือกผนังที่ราคาถูก แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายในบ้านภายหลังได้ ดังนั้นควรเลือกผนังบ้านที่เหมาะกับการใช้งานจะดีที่สุดค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ