คำถามนี้ ไม่มีคำตอบที่ตายตัวค่ะ เพราะเราจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้มั้ยนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระหนี้และรายได้ของเราเป็นหลัก หากเรามีรายได้ที่สูงมากพอ ที่จะสามารถผ่อนชำระหนี้สินต่าง ๆ ได้ตรงตามเวลาที่กำหนด ทางธนาคารก็จะพิจารณาให้เราสามารถกู้ซื้อบ้านเพิ่มได้ค่ะ หากเราไม่มีหนี้สิน แต่มีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับการผ่อนชำระค่าบ้าน ธนาคารก็มีโอกาสที่จะไม่ปล่อยกู้ให้เราได้เช่นกันค่ะ หากอยากทราบว่า ตัวของเรานั้น มีศักยภาพมากพอที่จะสามารถกู้ซื้อบ้านในขณะที่ยังผ่อนรถได้หรือไม่ ต้องติดตามอ่านบทความนี้กันเลยค่ะ
1. ประวัติการเงินไม่ดี มีโอกาสกู้ไม่ผ่าน
การยื่นกู้ซื้อบ้าน ในขณะที่ยังผ่อนรถอยู่ ทางธนาคารจะพิจารณาจากรายได้ของเราต่อเดือน รวมกับหนี้สิน และศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้สินของเราในปัจจุบันเป็นหลัก แล้วประเมินว่า เราจะมีความสามารถมากพอในการผ่อนชำระหนี้บ้านอีกก้อนได้หรือไม่ หากใครที่เคยขาดชำระหนี้หรือชำระหนี้ช้า ก็มีโอกาสสูงทีเดียวค่ะ ที่จะไม่สามารถกู้เพิ่มได้ แต่สำหรับใครที่ประวัติดี ผ่อนชำระหนี้ตรงตามเวลา แม้จะยังมีหนี้รถที่ต้องผ่อนชำระอยู่ ก็มีโอกาสที่จะสามารถกู้ซื้อบ้านเพิ่มเติมได้นั่นเองค่ะ
2. หนี้ ไม่ควรเกิน 30% ของรายได้
โดยทั่วไปแล้ว ภาระการผ่อนหนี้สิน รวมทุกก้อนแล้วนั้น ไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน แต่ก็มีหลากหลายสถาบันการเงินที่ให้มีภาระผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนได้มากถึง 40-60% แม้ว่าจะมีธนาคารที่สามารถให้ได้มากถึง 60% แต่นั่นก็เท่ากับว่า เรามีโอกาสที่จะมีเงินเก็บ หรือเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเงินใช้จ่ายในยามฉุกเฉินน้อยลงเท่านั้น หากความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ไม่พอกับวงเงินที่ต้องการ การหาคนมากู้ร่วมกับเราด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ
3. ผ่อนนาน ดอกเบี้ยสูง
ระยะเวลาการผ่อนบ้าน โดยปกติแล้วทางธนาคารจะกำหนดช่วงเวลาไว้ที่ 15-30 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า ระยะเวลากู้ เมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้ว ต้องไม่เกิน 65-70 ปี เช่น หากเรามีอายุ 30 ปี ก็สามารถเลือกผ่อนชำระเป็นระยะเวลานานสูงสุด 30 ปีได้เลย เพราะเมื่อรวมกันแล้วอยู่ที่ 60 ปี จึงยังไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถผ่อนชำระด้วยงวดระยะเวลาสูงสุดได้ โดยไม่มีข้อเสีย เพราะยิ่งเราใช้เวลาในการผ่อนนานมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าเราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เช่น บ้านราคา 10 ล้านบาท กู้ได้ 90% วางดาวน์ 10% หากผ่อนชำระ 15 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่หากเลือกผ่อนชำระ 30 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 10 ล้านบาท เป็นต้น จะเห็นได้เลยว่ามีส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นจำนวนมากถึง 5 ล้านบาทเลยทีเดียว ดังนั้นการคำนึงถึงดอกเบี้ย ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเงื่อนไขในการขอกู้ซื้อบ้านขณะที่ยังผ่อนชำระหนี้ในส่วนของรถ อย่างไรแม้ว่าเราจะมีศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้ที่ตรงเวลา แต่การพิจารณานั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารด้วยค่ะ โดยแต่ละบุคคลก็จะได้วงเงินกู้ที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรายได้ เครดิต และอีกหลากหลายปัจจัย ที่สำคัญคือเราต้องคำนึงถึงเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราในแต่ละเดือน รวมถึงภาระดอกเบี้ยร่วมด้วยนะคะ เพื่อให้เราสามารถผ่อนชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินของเราที่ต้องเสียไปในทุกบาททุกสตางค์นั่นเองค่ะ