หากใครกำลังเจอปัญหาห้องน้ำมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากความอับชื้น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร กลิ่นก็ไม่หายไปสักที ลองมาปลูกต้นไม้ดูดกลิ่นในห้องน้ำกันดูไหมคะ เพราะต้นไม้จะช่วยลดปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากช่วยดับกลิ่นในห้องน้ำได้แล้ว ความสวยงามของต้นไม้ยังเปลี่ยนพื้นที่ห้องน้ำให้สดชื่น และผ่อนคลาย จะมีต้นอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

เฟิร์นบอสตัน

เฟิร์นบอสตัน ไม่ใช่แค่เด่นในเรื่องความสวยงาม แต่เรื่องของการฟอกอากาศ และดับกลิ่นในห้องน้ำก็ไม่แพ้พันธุ์อื่นๆ เลย เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูง จึงสามารถช่วยดูดความชื้นในห้องน้ำ ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค หรือเชื้อราได้อย่างดีเยี่ยม ต้องการแค่แสงแดดรำไรบ้างเล็กน้อยค่ะ

การรดน้ำ : สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อหน้าดินแห้ง

กวักมรกต

คุณสมบัติพิเศษ คือ ช่วยผลิตออกซิเจนได้ดี ดูแลง่าย อีกทั้งยังช่วยดูดกลิ่นในห้องน้ำ ฟอกอากาศได้ หากใครมีพื้นที่ในห้องน้ำน้อย อาจจะเลือกกระถางต้นไม้ขนาดเล็กๆ ไว้ก่อน เพราะกวักมรกต สามารถแตกแขนงได้เรื่อยๆ ตามขนาดของกระถางที่ปลูกนั่นเอง โดยปลูกได้ทั้งในน้ำ และในดิน สามารถวางตรงที่โดนแสงแดดส่องรำไร หรือยกออกไปเจอแสงแดดอาทิตย์ละครั้งค่ะ

การรดน้ำ : สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อหน้าดินแห้ง

เดหลี

มีดอกเป็นช่อสวยสีขาว หรือขาวแกมเหลือง หน้าตาคล้ายดอกหน้าวัว ส่วนใบมีสีเขียวมันวาว สามารถปลูกในน้ำได้ ช่วยเสริมบรรยากาศในห้องน้ำให้สดชื่นสบายตา แถมยังช่วยดูดสารพิษได้ดีเยี่ยม ทั้งเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ อะซีโตน กับสารจำพวกแอลกอฮอล์ทั้งหลาย และสามารถดูดกลิ่นได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่า ครบสูตรจริงๆ ซึ่งวิธีการดูแลก็คือ ควรให้โดนแดดบ้างเล็กน้อย เช็ดใบบ้างเป็นครั้งคราวค่ะ

การรดน้ำ :  ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น 

พลูด่าง 

พลูด่าง ถือเป็นต้นไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกในห้องน้ำมาก นอกจากลวดลาย สีสัน กับทรงใบที่สวยงามแล้ว ยังปลูกง่ายทั้งในดิน ในน้ำ ทนต่อทุกสภาพอากาศ แม้ในที่แสงน้อย จึงเป็นต้นไม้ยอดฮิตอันดับหนึ่งด้านการดับกลิ่นห้องน้ำ พร้อมกับช่วยลดปริมาณสารพิษในอากาศ อย่าง เบนซิน และสารละลายไตรคลอโรเอธิลีนได้ด้วยค่ะ 

การรดน้ำ : สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อหน้าดินแห้ง

ไอวี่อังกฤษ

เป็นไม้เลื้อยที่สามารถนำมาปลูกเพื่อดับกลิ่นห้องน้ำได้อย่างลงตัว ซึ่งองค์การนาซ่ายืนยันว่า เป็นต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุดเลยทีเดียว โดยเฉพาะสารฟอร์มาลดีไฮด์ ที่พบมากในน้ำยาทาเล็บ และสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ การดูแลก็ถือว่าไม่ยาก เพียงต้องการแสงแดดระดับปานกลาง จะปลูกในกระถางเล็กตั้งวางตามจุดต่างๆ หรือจะปลูกแบบแขวนเก๋ๆ ก็ช่วยเติมบรรยากาศสดใสให้ห้องน้ำได้ดีทั้งสองแบบเลยค่ะ

การรดน้ำ : สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อหน้าดินแห้ง

หากได้ลองปลูกต้นไม้เหล่านี้ในห้องน้ำแล้ว รับรองว่ากลิ่นอับจะค่อยๆ จางหายไปทีละนิดเลยค่ะ แต่ก็ไม่ควรปลูกต้นไม้เยอะจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงได้ อย่างไรก็ตามควรศึกษาต้นไม้แต่ละพันธุ์ให้ดีก่อนที่จะนำมาปลูกกันนะคะ 

ที่มา : grandunity