• ผลประกอบการ 9 เดือน รายได้รวมกว่า 1,205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 224 ล้านบาท ด้านรายได้
  ไตรมาส 3 อยู่ที่ 419 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท
• เดินหน้าสร้างธุรกิจภายใต้แนวคิด Elevate Your Living Experience สร้างมาตรฐานต่อเนื่อง พร้อมขยายโอกาสตลาดเพิ่มฐานลูกค้าทั้ง B2G, B2B, B2C ด้วยมาตรฐานมืออาชีพ
• ไตรมาส 4 ยกทัพบริษัทย่อยในเครือบุกอสังหาฯเมืองท่องเที่ยวทั้งเชียงใหม่และภูเก็ต
• ชูจุดแข็ง One Stop Service ลุยงานออกแบบและตกแต่งทุกเซ็กเมนท์

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯเติบโตสม่ำเสมอทั้งรายได้และกำไร
ตามเป้าหมายที่วางไว้จากการดำเนินธุรกิจและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร (One Stop Service)ตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดยกวาดรายได้รวมสูงถึง 1,205 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้รวม 419 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท

ทำให้เชื่อมั่นว่าจนถึงสิ้นปีนี้ผลประกอบการและการเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายใต้แนวคิด Elevate Your Living Experience ยกระดับงานบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์  และประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างครบวงจร พร้อมสร้างมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้มองหาโอกาสการขยายธุรกิจบริการทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth ในเซ็กเมนต์ใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มธุรกิจของ PRI ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนงานบริการด้านการอยู่อาศัย อาทิ ธุรกิจบริการการอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม นำเสนอการจัดส่งสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ถึงหน้าห้องของลูกค้า บริการนี้ครอบคลุมถึงการจัดส่งน้ำดื่มแบบสมัครสมาชิก การรับ-ส่งซักอบรีด และการจัดส่งอาหาร, ธุรกิจโบรคเกอร์ประกันภัย ประกันอาคาร ประกันห้องชุด รวมถึง ประกันสุขภาพ และประกันชีวิต เป็นต้น ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดกิจกรรมให้กับพนักงานชองบริษัทเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรและพนักงาน

“ผลประกอบการทั้งหมด ล้วนเป็นความสำเร็จจากการพลิกโฉมการบริการสร้างรากฐานธุรกิจบริการในหลากหลายด้าน รวมถึงการยกระดับเทคโนโลยีและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่รองรับการอยู่อาศัยให้ครอบคลุมการใช้ชีวิตในทุกมิติของลูกค้า พร้อมมอบความสะดวกสบายในที่พักอาศัย ด้วยการดูแลลูกค้าทั้ง B2G, B2B, B2C  สำหรับทุกเจเนอเรชันด้วยคุณภาพและมาตรฐานมืออาชีพ ขณะที่บริษัทย่อยในเครือพร้อมที่จะรุกขยายฐานไปเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในตลาดต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก เช่น จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก” นายสุรินทร์ กล่าว

บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาการต่อสัญญา ในไตรมาส 4 ไม่น้อยกว่า 85% โดยมาจาก บริษัท พีเอ็มเอ็ม พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (PMM) ที่ให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์สรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน,
บริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (CRD) บริหารงานอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในอาคารชุด ศูนย์สรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน และบริษัทอูโน่ เซอร์วิส จำกัด (UNO) ที่ให้บริการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางอาคารชุด อาคารสำนักงาน หมู่บ้านจัดสรร และภายในพื้นที่พักอาศัย รวมถึงบริการอื่นๆ

ส่วนแผนการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปีนี้ PRI วางเป้าหมายในการดำเนินการพัฒนาและขยายธุรกิจด้วยการเดินหน้าบุกตลาดภูเก็ต นำร่องด้วยธุรกิจบริการด้าน Property Management และธุรกิจให้คำปรึกษาและให้บริการด้านซื้อขายฝากเช่า โดยในส่วนของธุรกิจ Property Management ที่ให้บริการอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร ได้ดำเนินงานภายใต้บริษัท พีเอ็มเอ็ม พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (PMM) เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าที่สุด โดยมีเป้าหมายขยายการบริการไปสู่การบริหารอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทแบบครบวงจร พร้อมบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยความเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์บริหารงานนิติบุคคลมานานกว่า 8 ปี และได้รับความไว้วางใจจากโครงการทั้งในกรุงเทพปริมณฑล และในต่างจังหวัด จำนวนมาก

ด้านธุรกิจให้คำปรึกษาและให้บริการด้านซื้อขายฝากเช่า ดำเนินงานภายใต้ บริษัท แพสชั่น เรียลเตอร์ จำกัด (Passion Realtor) เพื่อให้บริการเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ และทำการตลาดโครงการแบบครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้บริการก่อนและหลังการขายทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน  โดยมองว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูงมากด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวและพักอาศัยของชาวไทยและชาวต่างชาติ

ขณะเดียวกันได้ขยายบริการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด
ผู้ให้บริการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในแบบครบวงจร และอยู่ในกลุ่ม Living & Earning Services ของบริษัท รองรับการให้บริการที่อยู่อาศัยทั้งกลุ่มผู้พัฒนาโครงการ (Developer) กลุ่มลูกค้ารายย่อย (End User) และกลุ่มเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Project Owner) ในทุกระดับราคา ทุกเซ็กเมนท์ อาทิ บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านค้า คาเฟ่ ครอบคลุมทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน พร้อมยกระดับบริการแบบ
One Stop Service  ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเจรจาในการับงานออกแบบโรงแรมในหัวเมืองท่องเที่ยวทั้งเชียงใหม่ และภูเก็ต คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ในช่วงปลายปี 2567 นี้