ในภาวะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครชะลอตัวอย่างชัดเจน อสังหาริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยวจึงกลายเป็นหมุดหมายที่สำคัญของเหล่าผู้พัฒนาที่ต้องช่วงชิงโอกาสเข้าลุงทุน ทั้งในพื้นที่ภูเก็ต พัทยา หัวหิน และเกาะ สมุย เป็นต้น ซึ่งพบว่าในปี 2568 นี้ ผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายประกาศปรับลดแผนพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครลง และปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในส่วนเมืองท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อที่แข็งแรงทั้งในส่วนของกำลังซื้อชาวไทยและกำลังซื้อต่างชาติ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภูเก็ตยังคงเป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่เป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั้งชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตในปี 2567 ที่ผ่านมาสูงถึง 14 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 400,000 ล้านบาท สร้างความคึกคักให้กับภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าสู่เกาะภูเก็ตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย จีนคาซัคสถาน เป็นต้น ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่มีแนวโน้นเติบโตแบบก้าวกระโดด ผู้พัฒนาบางรายมีการก่อสร้างไม่ทันต่อความต้องการ กลุ่มนักลงทุนจากต่างชาติบางกลุ่มยังคงสนใจการซื้อแบบเหมาอาคารในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตกลายเป็นทำเลทองที่ร้อนแรงและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้พบว่าตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในพื้นที่เกาะภูเก็ตในปีที่ผ่านมาผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่และจากกรุงเทพมหานคร เช่น บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ , บมจ. ศุภาลัย , บมจ. แสนสิริ , บมจ. แอสเซทไวส์ , บจ. โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต รวมถึง บจ. โบ๊ทพัฒนา จำกัด เปิดตัวโครงการใหม่อย่างคึกคัก ส่งผลให้อุปทานเปิดขายใหม่ทั้งในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศมากที่สุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 158,638 ล้านบาท จากทั้งหมดมากกว่า 140 โครงการ อุปทานเปิดขายใหม่คอนโดมิเนียมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำแนกรายปีในปีพ.ศ. 2551-2568F