Kave Playground (copy)

ทำไมการต่อเติมห้องกระจกถึงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับบ้าน?

การต่อเติมห้องกระจกข้างบ้านกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เจ้าของบ้านหลังริม เนื่องจากเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างข้างบ้านที่มักถูกมองข้าม โดยการสร้างห้องกระจกหรือกลาสเฮ้าส์สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและสร้างมุมพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ1 การต่อเติมรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านเท่านั้น แต่ยังสร้างพื้นที่แสงธรรมชาติและการเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถสร้างได้ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าที่คิด

ขอบคุณภาพจาก : Cantifix

แล้วต้นทุนการต่อเติมห้องกระจกข้างบ้านจริงๆแล้วเป็นอย่างไร?

การคิดค่าใช้จ่ายในการต่อเติมห้องกระจกถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจ ตามข้อมูลจากต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3,000 ปอนด์ต่อตารางเมตร หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 43,270 ปอนด์สำหรับห้องกระจกขนาดกลาง อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยต้นทุนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่านี้มาก โดยเฉพาะการใช้วัสดุและแรงงานในประเทศ

การออกแบบห้องกระจกสำเร็จรูปที่ใช้โครงสร้างเหล็กหุ้มด้วย UPVC และกระจกนิรภัยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 18,000-22,000 บาทต่อตารางเมตร ความคุ้มค่าของการลงทุนนี้สะท้อนได้จากกรณีศึกษาที่เจ้าของบ้านรายหนึ่งประเมินงบประมาณไว้หลักแสน แต่เมื่อดำเนินการจริงกลับได้ราคาที่ถูกกว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบครึ่ง1 นอกจากนี้ การออกแบบที่เหมาะสมยังสามารถสร้างความรู้สึกโปร่งกว้างและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินได้ถึง 7 เปอร์เซ็นต์

สิ่งที่ทำให้ต้นทุนคุ้มค่ายิ่งขึ้นคือความทนทานของวัสดุที่ใช้ โดยเฉพาะ UPVC ที่มีอายุการใช้งานเกิน 30 ปี ทนต่อสภาพอากาศทุกแบบ และไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก โครงสร้างเหล็กที่ถูกหุ้มด้วย UPVC จะไม่สัมผัสกับอากาศชื้น ทำให้เพิ่มอายุความคงทนของโครงเหล็กได้เป็นเท่าตัว

ขอบคุณภาพจาก : Detail Library

ข้อดีของห้องกระจกข้างบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนมีอะไรบ้าง?

ห้องกระจกข้างบ้านมีข้อดีมากมายที่เกินกว่าการเป็นเพียงพื้นที่เพิ่มเติม การออกแบบด้วยกระจกจากพื้นถึงเพดานช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ สร้างบรรยากาศที่สดชื่นและเปิดโล่ง ระบบกระจกสมัยใหม่สามารถลดการดูดซับความร้อนจากแสงแดด ขณะที่ยังคงให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนมากเกินไป

ความยืดหยุ่นในการใช้งานเป็นอีกหนึ่งข้อดีสำคัญ ห้องกระจกสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย ตั้งแต่เป็นพื้นที่จัดเลี้ยง พื้นที่ทำงาน สำนักงานที่บ้าน ห้องโยคะ หรือแม้แต่ห้องรับแขก การเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกทำให้เกิดความรู้สึกของ “indoor-outdoor living” ที่เป็นที่นิยมในการออกแบบบ้านสมัยใหม่

สำหรับผู้ที่รักการจัดสวน ห้องกระจกยังสามารถใช้เป็นเรือนกระจกสำหรับปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ สภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ช่วยให้สามารถปลูกพืชที่ต้องการการดูแลพิเศษ เช่น แคคตัส ยูโฟเบีย หรือไม้อวบน้ำ รวมถึงผักสลัดและสมุนไพรต่างๆ ที่สามารถเก็บเกี่ยวใช้ในครัวเรือนได้

นอกจากนี้ ห้องกระจกยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกับบ้านที่มีบ้านติดกัน การมีพื้นที่กึ่งภายนอกที่มีหลังคาและผนังกระจกช่วยสร้างบรรยากาศที่แยกจากพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ขณะเดียวกันก็ยังคงความรู้สึกเปิดโล่งและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

ขอบคุณภาพจาก : lovePROPERTY

การออกแบบห้องกระจกให้เข้ากับพื้นที่ข้างบ้านบ้านควรคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การออกแบบห้องกระจกให้เหมาะสมกับพื้นที่ข้างบ้านบ้านต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยสำคัญ ขนาดพื้นที่เป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา โดยบ้านหลังริมมักมีพื้นที่ข้างบ้านขนาดประมาณ 6.5 เมตร กว้าง และ 4 เมตร ลึก ซึ่งขนาดนี้เหมาะสำหรับการสร้างห้องกระจกที่มีทั้งพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่สวน

การเลือกทิศทางของห้องกระจกมีผลต่อการรับแสงและอุณหภูมิภายใน สำหรับพื้นที่ที่ต้องการปลูกพืชเขตร้อนชื้น ควรเลือกทิศที่ได้รับแสงแดดครึ่งวัน เช่น ทิศเหนือหรือทิศตะวันออก แต่หากต้องการปลูกพืชทะเลทราย เช่น แคคตัสหรือไม้อวบน้ำ ก็ควรเลือกตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน

การระบายอากาศเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย การติดตั้งหน้าต่างที่เปิดได้ หรือระบบระบายอากาศที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายใน บางกรณีอาจต้องเพิ่มระบบทำความเย็นแบบระเหยเพื่อลดอุณหภูมิ

การเลือกประเภทกระจกก็มีความสำคัญ กระจกใสจะให้แสงมากที่สุด แต่กระจกชนิดตัดแสงสีเขียว สีชา หรือสีดำ จะช่วยลดความร้อนและป้องกันเสียงรบกวนได้ดีกว่า สำหรับโครงสร้าง ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น UPVC หรือเหล็กชุบกัลวาไนซ์

การออกแบบพื้นผิวภายในควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากเป็นพื้นที่นั่งเล่น อาจเลือกใช้กระเบื้องหรือไม้ แต่หากเป็นเรือนกระจกสำหรับปลูกพืช ควรเลือกพื้นที่ระบายน้ำได้ดี เช่น อิฐมอญสลับหินกรวด

ขอบคุณภาพจาก : Glass Rooms & Verandas

ไม้ประดับและการจัดสวนในห้องกระจกควรเลือกใช้พันธุ์ไหนที่เหมาะสม?

การเลือกพันธุ์ไม้สำหรับห้องกระจกข้างบ้านต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมพิเศษที่เกิดจากโครงสร้างกระจก ซึ่งมีแสงสว่างมาก แต่อุณหภูมิอาจสูงกว่าพื้นที่เปิดโล่งทั่วไป สำหรับพืชที่เหมาะสมที่สุดในสภาพอากาศของประเทศไทย คือ พืชทะเลทรายและไม้อวบน้ำ เช่น แคคตัสหลากหลายชนิด ยูโฟเบีย และไม้อวบน้ำต่างๆ เนื่องจากพืชเหล่านี้ต้องการแสงแดดเต็มวันและชอบอากาศแห้ง

ไม้พื้นเมืองที่ปรับตัวได้ดีในเรือนกระจก ได้แก่ ศรนารายณ์ กระบองเพชรใบเสมา เข็มกุดั่น และเข็มสามสี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มากนัก พืชเหล่านี้ทนทานต่อความร้อนและต้องการน้ำน้อย

สำหรับผู้ที่ต้องการสวนที่มีความหลากหลายมากขึ้น สามารถเลือกปลูกไม้เขตร้อนชื้นในบางส่วน เช่น บอนกระดาษ ปาล์มชนิดต่างๆ หมากเขียว หมากเหลือง ฟิโลเดนดรอน พลูด่าง และกล้วยไม้บางชนิด แต่จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิและให้น้ำอย่างเหมาะสม

หากต้องการปลูกพืชผักหรือสมุนไพรเพื่อการบริโภค เรือนกระจกสามารถปลูกได้หลากหลายชนิด เช่น แตงกวา พริกหยวก ผักสลัด ถั่ว มะเขือยาว มะเขือเทศ และต้นหอม สำหรับสมุนไพรตะวันตก เช่น โรสแมรี่ เลมอนไทม์ หรือผักชีฝรั่ง อาจต้องใช้ตาข่ายมุ้งลวดหรือระบบทำความเย็นเพิ่มเติมเพื่อลดอุณหภูมิ

การจัดวางต้นไม้ในเรือนกระจกควรคำนึงถึงความสูงและการกระจายแสง โดยวางต้นไม้สูงไว้ด้านหลัง และต้นไม้เตี้ยไว้ด้านหน้า นอกจากนี้ การใช้ชั้นวางแบบชั้นสแตนเลสจะช่วยเพิ่มพื้นที่ปลูกและสร้างระดับที่น่าสนใจ การผสมผสานระหว่างต้นไม้ในกระถางและการปลูกลงดินจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดแต่งและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสวนในอนาคต

ขอบคุณภาพจาก : SBI Ltd

เทคนิคการดูแลรักษาห้องกระจกให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลามีอะไรบ้าง?

การดูแลรักษาห้องกระจกข้างบ้านให้คงความสวยงามและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยเทคนิคและความสม่ำเสมอในการบำรุงรักษา การทำความสะอาดกระจกเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เนื่องจากฝุ่นละอองและคราบสกปรกจะขัดขวางการเข้าของแสงธรรมชาติ ควรทำความสะอาดกระจกอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดกระจกที่เหมาะสม

การตรวจสอบระบบระบายน้ำเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันน้ำขังและการรั่วซึม การใช้ซิลิโคนวิศวกรรมสำหรับอาคารสูงในการยาแนวจะช่วยให้มีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี และควรตรวจสอบสภาพการยาแนวเป็นระยะ

การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในเรือนกระจกต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในช่วงฤดูร้อน ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศให้อากาศถ่ายเทได้ดี หรือใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ หากอุณหภูมิสูงเกินไป อาจต้องติดตั้งระบบทำความเย็นแบบพ่นน้ำเพื่อลดอุณหภูมิ

การดูแลพืชในเรือนกระจกต้องปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล ในช่วงฤดูแล้ง พืชต้องการน้ำมากกว่าปกติเนื่องจากอุณหภูมิสูง แต่ในช่วงฤดูฝน ต้องระวังเรื่องการระบายน้ำเพื่อป้องกันรากเน่า การใส่ปุ่ยควรทำเป็นประจำเพื่อชดเชยสารอาหารที่พืชใช้ไป โดยเฉพาะพืชในกระถางที่สารอาหารหมดเร็วกว่าพืชที่ปลูกลงดิน

การตรวจสอบโครงสร้างเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะการตรวจสอบสลักเกลียว ซีลยางกันน้ำ และชิ้นส่วนโลหะต่างๆ เพื่อป้องกันการชำรุดก่อนเวลาอันควร วัสดุ UPVC มีข้อดีคือไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก แต่ควรทำความสะอาดเป็นระยะเพื่อรักษาความสวยงาม

การจัดการกับแสงแดดจัดในช่วงฤดูร้อนอาจต้องใช้วิธีการเพิ่มเติม เช่น การติดฟิล์มกรองแสง การใช้ผ้าใบกันแดด หรือการปลูกพืชเลื้อยเพื่อสร้างร่มเงา การวางแผนการจัดแต่งให้มีพื้นที่ร่มเงาสำหรับพืชที่ไม่ชอบแสงแดดจัดจะช่วยให้สวนดูสมดุลและมีชีวิตชีวา

สรุป

การต่อเติมห้องกระจกข้างบ้านบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่เพียงแต่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและมูลค่าของทรัพย์สิน แต่ยังสร้างพื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งปี ความยืดหยุ่นในการใช้งานและการออกแบบที่หลากหลายทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวทุกไลฟ์สไตล์ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพและการออกแบบที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ห้องกระจกที่ทนทานและสวยงามในระยะยาว


#สาระ #ห้องกระจกข้างบ้าน #ต่อเติมบ้าน #กลาสเฮ้าส์ #จัดสวนในบ้าน #เรือนกระจก #ต่อเติมบ้าน #สวนข้างบ้าน #บ้านหลังริม #การออกแบบบ้าน #พื้นที่สีเขียว

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..