ต้นพุดเป็นไม้ดอกที่มีความสวยงาม กลิ่นหอม และยังเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกในบ้านเรือนไทย ด้วยความที่เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด ทนความร้อนได้ดี และออกดอกตลอดทั้งปี จึงเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นไม้ที่ดูแลง่าย ปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดสวนสวยในพื้นที่จำกัด หรือต้องการไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมประดับบ้าน บทความนี้จะพาไปรู้จักสายพันธุ์ต้นพุดที่น่าปลูก พร้อมเคล็ดลับการดูแลให้เติบโตแข็งแรงและออกดอกสวยงาม

ต้นพุดคืออะไร? มีกี่สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย?
ต้นพุด (Gardenia) มีชื่อวิทยาศาสตร์หลักคือ Gardenia jasminoides เป็นพืชในวงศ์ Rubiaceae มีมากกว่า 200 ชนิดทั่วโลก มีต้นกำเนิดในเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย ลักษณะทั่วไปเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม มันวาว และมีดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอม ในประเทศไทยมีการปลูกต้นพุดหลากหลายสายพันธุ์ โดยคนไทยนิยมปลูกเป็นไม้มงคล เพราะชื่อ “พุด” หรือ “พุฒ” หมายถึง ความแข็งแรง ความสมบูรณ์ และความเจริญเติบโต ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ปลูกมีความเจริญมั่นคงในชีวิต
การปลูกต้นพุดไม่ยากอย่างที่คิด เพราะเป็นไม้ที่ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี ชอบดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี ต้องการแสงแดดปานกลางถึงมาก และไม่ต้องการน้ำมากนัก รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ ทำให้เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มากนัก

สายพันธุ์ต้นพุดที่นิยมปลูกในไทย มีอะไรบ้าง?
พุดศุภโชค สายพันธุ์ยอดนิยมปลูกได้ทั้งลงดินและกระถาง
พุดศุภโชค (Gardenia jasminoides) เป็นต้นพุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการปลูกตามบ้านเรือนไทย ด้วยความสวยงามของดอกสีขาวบริสุทธิ์และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลำต้นเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-3 เมตร มีใบรูปทรงมนรีปลายแหลม สีเขียวเข้มเป็นมันวาว ดอกออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ช่อละ 5-6 ดอก กลีบดอกซ้อนทับกันหลายชั้นสีขาวสวย
พุดศุภโชคเป็นไม้ที่ดูแลง่าย ชอบแสงแดดจัด หากต้องการให้ออกดอกดกควรปลูกในที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง หรือ 5-7 วันต่อครั้ง สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน แต่หากปลูกในกระถางควรเลือกกระถางขนาดใหญ่พอสมควรเพื่อให้รากมีพื้นที่เติบโต
พุดจีบ ดอกไม้มงคลที่ช่วยเสริมให้ชีวิตร่มเย็น
พุดจีบ (Tabernaemontana divaricata) เป็นไม้พุ่มที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ลำต้นตรง สูงประมาณ 1-2 เมตร มีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวสีเขียวเข้มเป็นมันวาว รูปใบหอก ดอกสีขาว กลีบดอกแยกกัน 5 กลีบ ปลายกลีบมนกว่าพุดศุภโชค มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และออกดอกได้ตลอดทั้งปี
การปลูกพุดจีบควรเลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดครึ่งวัน ต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดินปีละ 2-3 ครั้ง
พุดพิชญา ไม้กระถางสวยหรือประดับสวน
พุดพิชญา (Wrightia antidysenterica) เป็นไม้พุ่มที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศศรีลังกา มีความสูงประมาณ 1.5-2 เมตร กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดง ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามเป็นคู่ รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนมน ขอบเรียบ ดอกสีขาวออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ช่อละ 5-6 ดอก มีจุดเด่นที่เกสรตรงกลางสีเหลือง
พุดพิชญาต้องการดินร่วน น้ำปานกลาง และแสงแดดจัด เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถางหรือตกแต่งประดับสวน สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำ
พุดตาน ไม้พุ่มสูง ดอกเปลี่ยนสีจากขาวถึงชมพูในหนึ่งวัน
พุดตาน (Hibiscus mutabilis) เป็นพืชในสกุล Hibiscus ชนิดเดียวกับต้นชบา มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน จึงได้รับสมญานามว่า Hibiscus of China ลำต้นเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 1-3 เมตร ใบรูปหัวใจปกคลุมด้วยขนอ่อน ๆ ขอบใบหยักลึก 4-5 แฉก ดอกมีทั้งแบบกลีบดอกชั้นเดียวและกลีบดอกซ้อนหลายชั้น สีของดอกจะเปลี่ยนไปตามอายุ เริ่มต้นเป็นสีขาว แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดงเมื่อมีอายุมากขึ้น จนได้รับฉายาว่า “ดอกสามสี”
พุดตานชอบพื้นที่ที่มีแสงแดดเต็มวัน หากได้รับแสงน้อยกว่า 4-6 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้การเจริญเติบโตช้า กิ่งอ่อนย้วย และใบบางลง สำหรับการเตรียมดิน ไม่ควรปลูกในพื้นที่น้ำขังหรือชื้นแฉะ ควรปลูกลงดินมากกว่าในกระถางเพื่อให้ได้พุ่มที่ใหญ่โตสวยงาม สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง หรือการตอนกิ่ง
พุดกังหัน ดอกไม้หอมดอกขาวน่าปลูก
พุดกังหัน (Tabernaemontana orientalis) มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยวรูปหอกหัวกลับ ปลายใบแหลม สีเขียวค่อนข้างเข้มและมันเงา ดอกสีขาวออกเป็นช่อแบบช่อเชิงหลั่นหรือเชิงประกอบ แต่ละดอกมี 5 กลีบ แต่ละกลีบบิดเวียนคล้ายกังหัน ปลายกลีบมีติ่งแหลม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และออกดอกได้ตลอดทั้งปี
พุดกังหันเหมาะสำหรับปลูกในดินร่วน ควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง และปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด เพื่อให้ออกดอกสวยงาม

วิธีปลูกและดูแลต้นพุดให้เจริญเติบโตดี ออกดอกสวยงาม ทำอย่างไร?
การเลือกพื้นที่และการเตรียมดินปลูก
ต้นพุดส่วนใหญ่ชอบแสงแดดจัด จึงควรเลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หากต้องการให้ออกดอกดกและสมบูรณ์ ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่ร่มรำไรเพราะจะทำให้การเจริญเติบโตช้า กิ่งก้านไม่แข็งแรง และออกดอกน้อย
การเตรียมดินปลูกมีความสำคัญมาก ต้นพุดชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวหรือพื้นที่น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าได้ง่าย ควรผสมดินปลูกด้วยดินร่วน ขี้เถ้าแกลบ หรือปุ๋ยคอก ในอัตราส่วน 2:1:1 เพื่อให้ดินโปร่ง มีอากาศถ่ายเท และมีธาตุอาหารเพียงพอ
การให้น้ำและปุ๋ยอย่างเหมาะสม
ต้นพุดไม่ชอบน้ำมากเกินไป จึงควรรดน้ำแต่พอประมาณ สำหรับต้นพุดที่เพิ่งปลูกใหม่ ควรรดน้ำทุกวันในช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้นค่อยลดความถี่ลงเป็นวันเว้นวัน และเมื่อต้นตั้งตัวได้แล้ว (ประมาณ 1 เดือน) ให้รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือ 5-7 วันต่อครั้ง โดยสังเกตจากความชื้นของดิน หากดินยังมีความชื้นอยู่ไม่ต้องรดน้ำเพิ่ม
การใส่ปุ๋ยควรเริ่มหลังจากปลูกได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยเริ่มจากปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินและเพิ่มธาตุอาหาร หากต้องการให้เจริญเติบโตเร็ว สามารถใช้ปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนสูง เช่น 25-7-7 แต่หากต้องการให้ออกดอกมาก ให้ใช้ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น 10-10-10 หรือ 16-16-16 โดยใส่ปุ๋ยทุก 4-6 สัปดาห์ในช่วงฤดูการเติบโต
การตัดแต่งกิ่งและการดูแลรักษา
การตัดแต่งกิ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลต้นพุด เพราะจะช่วยให้ทรงพุ่มสวยงามและกระตุ้นการออกดอก ควรตัดแต่งกิ่งหลังการออกดอกเสร็จสิ้น โดยตัดกิ่งที่แห้ง กิ่งที่ไม่แข็งแรง หรือกิ่งที่เป็นโรคออก รวมถึงการตัดยอดเพื่อให้แตกกิ่งใหม่และมีพุ่มที่หนาแน่น
นอกจากนี้ การเด็ดดอกที่เหี่ยวแห้งแล้วออก (การตัดแต่งดอกหรือ deadheading) จะช่วยกระตุ้นให้ต้นออกดอกชุดใหม่ได้เร็วขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคและแมลงที่อาจเข้าทำลายดอกที่เหี่ยวแล้ว
สำหรับต้นพุดที่ปลูกในกระถาง เมื่อต้นโตเต็มที่และรากเยอะจนแน่นกระถาง (มักใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี) ควรย้ายลงกระถางใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม หรือตัดรากส่วนเกินออกแล้วปลูกลงกระถางเดิม พร้อมเปลี่ยนดินใหม่ เพื่อให้รากมีพื้นที่เติบโตและได้รับธาตุอาหารใหม่

ประโยชน์ของต้นพุด มีอะไรบ้างนอกจากความสวยงาม?
นอกจากความสวยงามของดอกและความหอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านแล้ว ต้นพุดยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกหลายประการ:
- ไม้มงคลตามความเชื่อ: ต้นพุดถือเป็นไม้มงคลที่เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมให้ผู้ปลูกมีความเจริญมั่นคง แข็งแรง และอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากคำว่า “พุด” หรือ “พุฒ” หมายถึงความเจริญเติบโต
- ประโยชน์ทางการแพทย์: ในพุดบางสายพันธุ์ เช่น พุดศุภโชค (Gardenia jasminoides) มีการนำส่วนต่าง ๆ มาใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ โดยรากใช้รักษาอาการปวดหัว โรคทางระบบประสาท และไข้ ส่วนใบใช้ในการทำลูกประคบเพื่อลดไข้ และผลใช้รักษาโรคดีซ่าน โรคไต และโรคปอด
- สีย้อมธรรมชาติ: ผลของพุดศุภโชคสามารถนำมาใช้เป็นสีย้อมธรรมชาติสีเหลืองสำหรับอาหาร ในประเทศจีนและญี่ปุ่นมีการนำไปใช้ย้อมสีอาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วต้ม ไข่ปลา แพนเค้ก เหล้า ขนมหวาน ไอศกรีม และบะหมี่
- ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม: ดอกพุดหลายสายพันธุ์มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงนิยมนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยสำหรับผลิตน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ความงาม
- ปลูกเป็นแนวรั้วหรือแนวกันลม: ด้วยทรงพุ่มที่หนาทึบและความสูงที่พอเหมาะ ต้นพุดจึงเหมาะสำหรับปลูกเป็นแนวรั้วธรรมชาติหรือแนวกันลม ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงาม

ปัญหาและวิธีแก้ไขในการปลูกต้นพุด ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง?
แม้ว่าต้นพุดจะเป็นไม้ที่ดูแลง่าย แต่ก็อาจพบปัญหาบางประการในการปลูกเลี้ยง ซึ่งควรทราบวิธีแก้ไขเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้อย่างดี:
ปัญหาไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อย
สาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจากได้รับแสงแดดไม่เพียงพอหรือขาดการบำรุง วิธีแก้ไขคือ:
- ย้ายต้นไปยังพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ใส่ปุ๋ยสูตรที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น 10-10-10 หรือ 16-16-16 เพื่อกระตุ้นการออกดอก
- ตัดแต่งกิ่งหลังจากการออกดอกเพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งใหม่
- เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
ปัญหาใบเหลืองและร่วง
อาจเกิดจากการรดน้ำมากเกินไป การระบายน้ำไม่ดี หรือขาดธาตุอาหาร:
- ลดการให้น้ำ รดเฉพาะเมื่อดินแห้ง
- ปรับปรุงการระบายน้ำของดินโดยเพิ่มวัสดุที่ช่วยให้ดินโปร่ง เช่น ขี้เถ้าแกลบ
- ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะไนโตรเจน
- ตรวจสอบและรักษาโรคที่อาจเป็นสาเหตุ
ปัญหาโรคและแมลงศัตรู
ต้นพุดอาจถูกรบกวนจากเพลี้ย เพลี้ยแป้ง ไรแดง และหนอน วิธีป้องกันและกำจัด:
- หมั่นตรวจสอบต้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะใต้ใบและตามยอดอ่อน
- ฉีดพ่นด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ เพื่อกำจัดแมลงเบื้องต้น
- ใช้สารสกัดจากสะเดาหรือน้ำมันนีมสำหรับการควบคุมแบบธรรมชาติ
- ในกรณีที่มีการระบาดรุนแรง อาจใช้สารกำจัดแมลงที่เหมาะสม เช่น น้ำมันเนิม
- ตัดแต่งและกำจัดส่วนที่เป็นโรคหรือมีแมลงทันที
ปัญหารากเน่า
เกิดจากการให้น้ำมากเกินไปหรือการระบายน้ำไม่ดี:
- ลดความถี่ในการให้น้ำ
- ตรวจสอบการระบายน้ำของกระถางหรือพื้นที่ปลูก
- หากพบว่าต้นมีอาการรากเน่า ให้นำออกจากกระถางหรือพื้นที่ปลูก ตัดรากที่เน่าออก และปลูกใหม่ในดินที่สะอาดและระบายน้ำได้ดี
สรุป
ต้นพุดเป็นไม้ดอกที่มีความสวยงาม มีกลิ่นหอม และเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกในประเทศไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก แต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์และความสวยงามแตกต่างกันไป การปลูกและดูแลต้นพุดไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมดินที่เหมาะสม ให้น้ำพอประมาณ ใส่ปุ๋ยตามความต้องการ และตัดแต่งกิ่งอย่างเหมาะสม ก็จะทำให้ต้นพุดเจริญเติบโตได้ดี ออกดอกสวยงาม และมีทรงพุ่มที่สมบูรณ์
นอกจากความสวยงามแล้ว ต้นพุดยังมีประโยชน์อื่น ๆ ทั้งในแง่ของการเป็นไม้มงคล ใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ เป็นวัตถุดิบในการผลิตสีย้อมธรรมชาติ และสกัดน้ำหอม หากท่านกำลังมองหาไม้ดอกไม้ประดับที่ดูแลง่าย ทนทาน ออกดอกสวย มีกลิ่นหอม และเป็นไม้มงคล ต้นพุดก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
#สาระ #ต้นพุด #สายพันธุ์พุด #พุดศุภโชค #การปลูกพุด #ดูแลต้นพุด #ไม้ดอกหอม #ไม้มงคล #จัดสวน #ไม้ประดับ #ต้นไม้ในบ้าน