ในยุคที่มลภาวะทางอากาศกลายเป็นปัญหาสำคัญ ไม่เพียงแต่ภายนอกอาคารเท่านั้น แต่ภายในบ้านของเราเองก็มีมลพิษสะสมอยู่มากมาย ทั้งจากเฟอร์นิเจอร์ สีทาบ้าน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสารเคมีต่างๆ ที่ระเหยปะปนในอากาศที่เราหายใจ การปลูกต้นไม้ในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศและดูดซับสารพิษได้อีกด้วย มาดูกันว่ามีพืชชนิดใดบ้างที่ช่วยทำให้อากาศในบ้านของเราบริสุทธิ์ขึ้นได้

พืชฟอกอากาศทำงานได้อย่างไร?
พืชมีกระบวนการทางธรรมชาติที่เรียกว่า “ไฟโตรีมีดิเอชัน” (Phytoremediation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่พืชใช้ในการกำจัดสารพิษออกจากสิ่งแวดล้อม พืชสามารถฟอกอากาศได้ผ่านหลายวิธี ได้แก่ การดูดซับ การเจือจาง การตกตะกอน และการกรอง นอกจากนี้ พืชยังมีกระบวนการสังเคราะห์แสงที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมา ทำให้อากาศสดชื่นขึ้น
การศึกษาที่มีชื่อเสียงโดยองค์การนาซ่าในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ได้ค้นพบว่าพืชหลายชนิดสามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ใช่เพียงแค่ใบเท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ แต่ทั้งระบบของพืช ทั้งราก ดิน และจุลินทรีย์ในดินปลูก ล้วนมีส่วนช่วยในการย่อยสลายสารมลพิษ

10 พืชที่ช่วยดูดซับสารพิษและฟอกอากาศในบ้าน
1. แววมยุรา (Wishbone Flower)
แววมยุรา หรือเทอราเนีย (Torenia fournieri) เป็นไม้ล้มลุกที่มีดอกสวยงามหลากสี เช่น แดง ชมพู และม่วง นอกจากความสวยงามแล้ว แววมยุรายังมีคุณสมบัติในการรักษาความชุ่มชื้นในอากาศและช่วยดูดซับสารพิษต่างๆ ได้ดี การดูแลก็ไม่ยาก เพียงปลูกในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี และให้ได้รับแสงแดดรำไรตลอดทั้งวัน
2. เบญจมาศ (Chrysanthemum)
เบญจมาศ (Chrysanthemum morifolium) เป็นพืชที่มีดอกสวยงามหลากสี และมีความสามารถในการกรองอากาศที่เป็นมลพิษ โดยเฉพาะกลิ่นจากสีทาบ้าน กาว พลาสติก และผงซักฟอก นอกจากนี้ เบญจมาศยังสามารถดูดซับสารพิษอันตรายหลายชนิด เช่น ไตรคลอโรเอทิลีน ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซีน ไซลีน และแอมโมเนีย การดูแลเบญจมาศต้องวางให้ได้รับแสงแดดโดยตรงและหมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด
3. เยอบีร่า (Gerbera Daisy)
เยอบีร่า (Gerbera jamesonii) เป็นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม มีคุณสมบัติโดดเด่นในการดูดสารพิษจากอากาศในอาคาร และสามารถคายความชื้นได้สูง เยอบีร่าสามารถดูดซับสารพิษอย่างไตรคลอโรเอทิลีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และไซลีน การดูแลเยอบีร่าต้องรดน้ำปานกลาง ไม่ให้แฉะ และตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดจัด
4. กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium Orchid)
กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium Orchid) เป็นพันธุ์กล้วยไม้ยอดนิยมในประเทศไทย มีดอกสวยงามและใบสีเขียวเข้มหนา จุดเด่นของกล้วยไม้สกุลหวายคือความสามารถในการดูดซับสารพิษอย่างอะซิโตน คาร์บอนไดออกไซด์ และฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารที่พบในน้ำยาล้างเล็บ การดูแลง่ายๆ เพียงรดน้ำวันละครั้งและแขวนไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไร
5. กุหลาบพันปี (Azalea)
กุหลาบพันปี หรืออาซาเลีย (Rhododendron moulmeinense Hook) เป็นไม้ต้นขนาดเล็กกึ่งพุ่ม มีดอกออกเป็นช่อสีเหลืองแดง กุหลาบพันปีมีความสามารถในการดูดซับกลิ่นต่างๆ ภายในบ้าน เช่น กลิ่นเหม็นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากโฟม และพลาสติก การดูแลไม่ยาก เพียงตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องไม่ค่อยถึงและอุณหภูมิต่ำ รดน้ำให้พอชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ
6. กุหลาบหิน (Kalanchoe)
กุหลาบหิน (Kalanchoe blossfeldiana) เป็นไม้ทรงพุ่มเตี้ย โตเร็ว มีใบอวบน้ำและดอกหลากสี เช่น แดง ส้ม ชมพู เหลือง กุหลาบหินมีคุณสมบัติในการดูดสารพิษได้เล็กน้อย แต่ก็ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านได้ การดูแลง่าย โตได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการแสงแดดจัด ความชื้นปานกลาง และน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
7. หน้าวัวเปลวเทียน (Lady Jane)
หน้าวัวเปลวเทียน (Anthurium Lady Jane) เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีดอกชูช่อขึ้นมา มีลักษณะแปลกและมีสีสันสดใสหลากหลาย หน้าวัวเปลวเทียนสามารถดูดซึมสารพิษและคายความชื้นได้พอสมควร นอกจากนี้ ยังช่วยกรองสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์ แอมโมเนีย และโทลูอีนออกจากอากาศ การดูแลไม่ยาก โดยจะโตได้ดีในที่ร่มหรือมีแสงรำไร ลมไม่แรง ชอบความชื้นแฉะสูง
8. เดหลี (Peace Lily)
เดหลี (Spathiphyllum Clevelandii) เป็นไม้ยอดฮิตในการแต่งสวน มีใบสีเขียวเข้มเป็นมันวาว และดอกสีขาวแกมเหลือง เดหลีมีคุณสมบัติเด่นในการดูดซับสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อะซิโตน ไตรคลอโรเอทิลีน เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และโทลูอีน การศึกษาของนาซ่าพบว่าเดหลีเป็นหนึ่งในพืชที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารพิษในอากาศ การดูแลไม่ยุ่งยาก เพียงตั้งไว้ให้โดนแดดรำไร รดน้ำปานกลาง และบำรุงด้วยปุ๋ยน้ำเดือนละ 2 ครั้ง
9. บีโกเนียใบมัน (Wax Begonia)
บีโกเนียใบมัน (Begonia semperflorens) เป็นไม้ดอกที่มีใบสีเขียวสวย เป็นมันเงา มีขน และมีลักษณะคล้ายหัวใจเบี้ยว7 ดอกมีสีสันสดใสหลากหลาย เช่น แดง ชมพู ส้ม ขาว บีโกเนียมีความสามารถในการดูดสารพิษและคายความชื้นเล็กน้อย การดูแลไม่ยาก โดยจะโตได้ดีในที่ร่มรำไร ไม่ต้องการแสงมาก ชอบดินร่วนซุย เก็บความชื้นได้ดี
10. มังกรคาบแก้ว (Christmas Cactus)
มังกรคาบแก้ว หรือคริสต์มาส แคคตัส (Schlumbergera) เป็นไม้อวบน้ำในกลุ่มกระบองเพชร มีความสวยงามทั้งต้น ใบ และดอก มังกรคาบแก้วมีคุณสมบัติโดดเด่นในการดูดซับสารพิษในอากาศ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน การดูแลง่าย เพียงปลูกในดินที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี รดน้ำตอนดินแห้งเล็กน้อย ชอบแสงสว่างพอสมควร แต่ไม่จัดเกินไป

ความจริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของพืชในการฟอกอากาศ
แม้ว่าพืชจะมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ แต่มีข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริง องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) ได้ออกมาชี้แจงว่า เพื่อให้ได้ผลเหมือนในการทดลองของนาซ่า จะต้องใช้พืชถึง 680 ต้นในบ้านหนึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดในปี 2023 พบว่า ผนังพืชสีเขียวที่มีพืชหลากหลายชนิดสามารถกำจัดสารมลพิษที่เป็นอันตรายได้ถึง 97% ภายในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง
นอกจากการฟอกอากาศแล้ว พืชยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น:
- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และผลิตภาพในการทำงาน
- เพิ่มสมาธิและความจำ
- ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า
- ลดความดันโลหิต
- ลดอาการปวดหัวและเหนื่อยล้าได้ถึง 20-25%
สรุป
การปลูกพืชในบ้านเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน แม้ว่าพืชอาจไม่สามารถกำจัดสารพิษทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีส่วนช่วยในการลดปริมาณสารพิษและเพิ่มออกซิเจนในอากาศ นอกจากนี้ พืชยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดความเครียด และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายภายในบ้าน
การเลือกปลูกพืชที่มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ เช่น แววมยุรา เบญจมาศ เยอบีร่า กล้วยไม้สกุลหวาย กุหลาบพันปี กุหลาบหิน หน้าวัวเปลวเทียน เดหลี บีโกเนียใบมัน และมังกรคาบแก้ว จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเราในระยะยาว
#สาระ #พืชฟอกอากาศ #ต้นไม้ในบ้าน #ดูดซับสารพิษ #อากาศบริสุทธิ์ #สุขภาพ #แววมยุรา #เบญจมาศ #เยอบีร่า #กล้วยไม้ #กุหลาบพันปี